Wat Rong Khun, better known as “the

Wat Rong Khun, better known as “the White Temple” is one of the most recognizable temples in Thailand. The temple outside the town of Chiang Rai attracts a large number of visitors, both Thai and foreign, making it one of Chiang Rai’s most visited attractions.

Wat Rong Khun is a unique temple that stands out through the white color and the use of pieces of glass in the plaster, sparkling in the sun. The white color signifies the purity of the Buddha, while the glass symbolizes the Buddha’s wisdom and the Dhamma, the Buddhist teachings.

The Wat Rong Khun was designed by Chalermchai Kositpipat, a famous Thai visual artist. To date the temple is not finished. Eventually there will be nine buildings including an ubosot, a hall to enshrine Buddhist relics, a meditation hall, the monks living quarters and an art gallery.

History of the Wat Rong Khun
Towards the end of the 20th century, the original Wat Rong Khun was in a very poor state of preservation. Restoration works on the temple started, but had to be halted due to a lack of funds.

Chalermchai Kositpipat, a artist born in Chiang Rai, decided to completely rebuild the temple and fund the project with his own money. The artist built the temple to be a center of learning and meditation and for people to gain benefit from the Buddhist teachings. Today the works are ongoing.
Structures and their symbolism
Every detail of the temple carries meaning and encourages the visitor to reflect on the Buddhist teachings that show the way to escape from the worldly temptations, desires and greed and focus on the mind instead.

The bridge of “the cycle of rebirth”
The ubosot, the main building of the white temple, is reached by crossing a bridge over a small lake. In front of the bridge is a circular area with hundreds of reaching hands that symbolize desire. This area represents human suffering and hell. The bridge towards the ubosot, called the bridge of “the cycle of rebirth” signifies the crossing over from the cycle of death and rebirth into a state free of suffering. It symbolizes the way to happiness by overcoming worldly things as temptations, greed and desire. Next to the lake stand two very elegant Kinnaree, a creature from Buddhist mythology, half human, half bird.

The “Gate of Heaven”
After crossing the bridge the visitor arrives at the “Gate of Heaven” guarded by two huge creatures that represent Death and Rahu, who decides over men’s fate. At the end of the bridge in front of the ubosot are several Buddha images in meditation.

The ubosot
The most important building of the Wat Rong Khun, the ubosot is an all white building with fragments of reflective glass in the plaster. The very ornate ubosot shows some design elements of classic Northern Thai temples like the three tiered roof and stylized Naga serpents on the bargeboards.

Whereas the murals of many old temples depict scenes from Buddhist stories, the walls of the white temple contain colorful murals that depict modern representations of good and evil, contemporary figures like Batman, Spiderman and Elvis, villains and superheroes from movies and comics and even spaceships.

On the back wall of the ubosot is a golden mural of the Buddha, a few images of the Buddha in front of it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดร่องขุ่น ดีเรียกว่า "วัดสีขาว" เป็นหนึ่งในวัดที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย วัดนอกเมืองเชียงรายดึงดูดจำนวนมากของผู้เข้าชม ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เชียงรายของสุดเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยววัดร่องขุ่นเป็นวัดเฉพาะที่โดดเด่น ด้วยสีขาวและใช้ชิ้นแก้วฉาบ ประกายแดด สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า ในขณะที่แก้วสัญลักษณ์ภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้าและธรรม คำสอนของพระพุทธศาสนาวัดร่องขุ่นถูกออกแบบ โดยอาจารย์ Kositpipat ศิลปินภาพไทยที่มีชื่อเสียง ถึงวัดไม่เสร็จ ในที่สุดจะถูกรวมเป็นอุโบสถ ศาลาประดิษฐานพุทธธาตุ ฮอลล์ปฏิบัติธรรม พระสงฆ์ที่อยู่อาศัยไตรมาสและอาร์ตแกลเลอรี่อาคาร 9ประวัติของวัดร่องขุ่นในตอนท้ายของศตวรรษ 20 ฉบับวัดร่องขุ่นได้ในเก็บรักษายาก การคืนค่าทำงานในวัดเริ่มต้น แต่ได้ถูกยกเลิกเนื่องจากการขาดทุนอาจารย์ Kositpipat ศิลปินที่เกิดในจังหวัดเชียงราย ตัดสินใจที่จะสร้างวิหาร และกองทุนโครงการที่ มีเงินของเขาเองทั้งหมด ศิลปินสร้างวัดให้เป็นศูนย์กลาง ของการเรียนรู้และการฝึกสมาธิ และ สำหรับคนที่จะได้รับประโยชน์จากคำสอนของพระพุทธศาสนา วันนี้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องโครงสร้างและสัญลักษณ์ของพวกเขาทุกรายละเอียดของวัดดำเนินการความหมาย และสนับสนุนให้ผู้เข้าชมถึงในคำสอนพุทธศาสนาที่แสดงวิธีการหลบหนีจากทางเทมป์เทชันส์ ความปรารถนา และความโลภ และมุ่งเน้นที่จิตใจแทนสะพาน "วงจรของการเกิดใหม่"ถึงอุโบสถ อาคารหลักของวัดสีขาว โดยข้ามสะพานเหนือทะเลสาบขนาดเล็ก หน้าสะพานเป็นพื้นที่วงกลม มีหลายร้อยถึงมือที่เป็นสื่อความต้องการ นี่แสดงถึงความทุกข์ของมนุษย์และนรก สะพานสู่อุโบสถ เรียกสะพาน "วงจรของการเกิดใหม่" หมายถึงการไขว้จากวงจรของความตายและการเกิดใหม่เข้าสู่สถานะที่ไม่ทุกข์ เรื่องสัญลักษณ์วิธีสู่ความสุข โดยขจัดหมดสิ้นสิ่งทางเทมป์เทชันส์ ความโลภ และความปรารถนา ติดทะเลสาบยืนสง่างามมากสองกินรี สิ่งมีชีวิตจากพุทธตำนาน มนุษย์ครึ่ง ครึ่งนก"ประตูสวรรค์"หลังจากข้ามสะพาน ผู้มาเยือนถึงที่ "ประตูของสวรรค์" เตรียมพร้อม โดยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สองที่ตายและราหู ผู้ตัดสินใจผ่านชะตากรรมของมนุษย์ ที่ปลายสะพานด้านหน้าอุโบสถมีพระหลายรูปฌานอุโบสถอาคารสำคัญของวัดร่องขุ่น อุโบสถจะมีสีขาวทั้งหมดสร้าง ด้วยชิ้นส่วนของแก้วในการปั้น อุโบสถสมมากแสดงบางองค์ออกแบบของวัดไทยเหนือคลาสสิกเหมือนสามชั้นหลังคา และสุกใสนาคงูบน bargeboardsในขณะที่ภาพจิตรกรรมของวัดเก่าต่าง ๆ พรรณนาฉากจากเรื่องพุทธ กำแพงวัดสีขาวประกอบด้วยสีสันภาพจิตรกรรมที่แสดงถึงการนำเสนอที่ทันสมัยของดี และเลขร้าย ร่วมสมัยเช่น Batman, Spiderman และเอลวิส คนร้าย และ superheroes จากภาพยนตร์และการ์ตูน และแม้แต่ยานอวกาศบนผนังด้านหลังของอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังทองพระ กี่ภาพพระไว้หน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดร่องขุ่นที่รู้จักกันดีว่า "วัดสีขาว" เป็นหนึ่งในวัดที่รู้จักมากที่สุดในประเทศไทย วัดนอกเมืองเชียงรายดึงดูดจำนวนมากของผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศทำให้มันเป็นหนึ่งเชียงรายสถานที่เข้าชมมากที่สุด. วัดร่องขุ่นเป็นวัดที่ไม่ซ้ำกันที่ยืนออกผ่านทางสีขาวและการใช้ชิ้นส่วนของ กระจกในพลาสเตอร์ประกายในดวงอาทิตย์ สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าในขณะที่แก้วเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้าและพระธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา. วัดร่องขุ่นรับการออกแบบโดยเฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ศิลปินภาพที่มีชื่อเสียงของไทย ในวันที่พระวิหารยังไม่เสร็จสิ้น ในที่สุดก็จะมีอาคารรวมทั้งเก้าพระอุโบสถ, ศาลาประดิษฐานพระธาตุพุทธฮอลล์ทำสมาธิพระสงฆ์ที่อยู่อาศัยและหอศิลป์. ประวัติของวัดร่องขุ่นในช่วงปลายของศตวรรษที่ 20 เดิมวัดร่องขุ่นเป็น อยู่ในสภาพที่ดีมากของการเก็บรักษา งานบูรณะวัดเริ่มต้น แต่จะต้องมีการหยุดเนื่องจากการขาดเงินทุน. เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ศิลปินเกิดในเชียงรายตัดสินใจที่จะสมบูรณ์สร้างวัดและโครงการกองทุนที่มีเงินของตัวเอง ศิลปินสร้างวัดเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และการทำสมาธิและสำหรับคนที่จะได้รับประโยชน์จากคำสอนทางพุทธศาสนา วันนี้การทำงานอย่างต่อเนื่อง. โครงสร้างและสัญลักษณ์ของพวกเขารายละเอียดของวัดทุก carries ความหมายและส่งเสริมให้ผู้เข้าชมเพื่อให้สอดคล้องกับคำสอนทางพุทธศาสนาที่แสดงให้เห็นวิธีการที่จะหลบหนีจากการล่อลวงทางโลกที่ปรารถนาและความโลภและมุ่งเน้นในใจแทน. สะพาน ของ "วงจรของการเกิดใหม่" พระอุโบสถที่อาคารหลักของวัดสีขาวจะมาถึงโดยข้ามสะพานข้ามทะเลสาบขนาดเล็ก ด้านหน้าของสะพานเป็นพื้นที่วงกลมที่มีหลายร้อยของมือที่เป็นสัญลักษณ์ถึงความปรารถนา บริเวณนี้แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ของมนุษย์และนรก สะพานที่มีต่อพระอุโบสถที่เรียกว่าสะพานของ "วงจรของการเกิดใหม่" หมายข้ามมาจากวงจรแห่งความตายและการเกิดใหม่เป็นรัฐอิสระของความทุกข์ทรมาน มันเป็นสัญลักษณ์ทางที่จะมีความสุขด้วยการเอาชนะสิ่งที่โลกเป็นความเย้ายวนความโลภและความปรารถนา ถัดไปไปยืนทะเลสาบสองกินรีหรูหรามากสิ่งมีชีวิตจากตำนานพุทธมนุษย์ครึ่งนกครึ่ง. ว่า "ประตูสวรรค์" หลังจากข้ามสะพานเข้าชมมาถึงที่ "ประตูสวรรค์" รักษาโดยทั้งสองสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนของความตาย และพระราหูที่ตัดสินใจชะตากรรมของผู้ชาย ในตอนท้ายของสะพานในด้านหน้าของพระอุโบสถที่มีภาพหลายภาพพระพุทธรูปในการทำสมาธิ. พระอุโบสถอาคารที่สำคัญที่สุดของวัดร่องขุ่น, พระอุโบสถเป็นอาคารสีขาวทั้งหมดที่มีชิ้นส่วนของกระจกสะท้อนแสงในพลาสเตอร์ พระอุโบสถที่หรูหรามากแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของการออกแบบบางส่วนของวัดไทยคลาสสิกภาคเหนือเช่นสามหลังคาฉัตรและงูพญานาคสุกใสใน bargeboards ได้. ในขณะที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัดเก่าแก่จำนวนมากแสดงให้เห็นถึงฉากจากเรื่องราวพุทธผนังของวัดสีขาวมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีสีสันที่แสดงให้เห็นถึง การแสดงที่ทันสมัยของดีและความชั่วตัวเลขร่วมสมัยเช่นแบทแมนเดอร์แมนและเอลวิสคนร้ายและฮีโร่จากภาพยนตร์และการ์ตูนและแม้กระทั่งยานอวกาศ. บนผนังด้านหลังของพระอุโบสถเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังสีทองของพระพุทธเจ้าเป็นภาพบางส่วนของพระพุทธรูปที่อยู่ตรงหน้า ของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดร่องขุน , รู้จักกันดีเป็น " พระวิหาร " สีขาวเป็นหนึ่งในวัดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศไทย วัดนอกตัวเมืองเชียงรายดึงดูดจำนวนมากของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่เข้าชมมากที่สุดของเชียงราย

วัดร่องขุ่นเป็นวัดที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ผ่านสีขาวและการใช้ชิ้นแก้วใน ปูน ,ประกายตะวัน สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ของพระพุทธเจ้า ขณะที่แก้วเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาของพระพุทธเจ้าและธรรม , พุทธธรรม

วัดร่องขุ่น ออกแบบโดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ , ไทยที่มีชื่อเสียงและศิลปิน วันที่วัดยังไม่เสร็จ ในที่สุดจะมีเก้าอาคารรวมทั้ง อุโบสถ ศาลาเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ,เป็นหอปฏิบัติธรรมพระสงฆ์อยู่อาศัยและหอศิลป์

ประวัติวัดร่องขุ่น
ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 20 , วัดร่องขุน เดิมอยู่ในสถานะที่ยากจนมากของการเก็บรักษา งานซ่อมแซมในวัด เริ่มแต่ต้องระงับไปเนื่องจากขาดเงินทุน

เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ , ศิลปินเกิดในเชียงรายตัดสินใจที่จะสมบูรณ์สร้างกองทุนวัดและโครงการด้วยเงินของเขาเอง ศิลปินสร้างวัดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และสมาธิและประชาชนได้รับประโยชน์จากพุทธสอน วันนี้ ทำงาน มี อย่างต่อเนื่อง โครงสร้างและสัญลักษณ์

รายละเอียดของทุกวัด มีความหมายและกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเพื่อสะท้อนให้เห็นในพุทธคำสอนที่แสดงทางหนีจากการล่อลวงทางโลก ปรารถนาและความโลภและมุ่งเน้นจิตแทน .

สะพาน " วัฏจักรของการเกิดใหม่ "
อุโบสถ อาคารหลักของวัดคือ ถึงขาว ข้ามสะพานเหนือทะเลสาบขนาดเล็กในด้านหน้าของสะพาน พื้นที่วงกลมกับร้อยของถึงมือ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนา บริเวณนี้เป็นความทุกข์ของมนุษย์ และนรก สะพานสู่พระอุโบสถ เรียกว่าสะพาน " วัฏจักรของการเกิดใหม่ " หมายถึงข้ามจากวัฏจักรของการตายและการเกิดใหม่เป็นรัฐอิสระของทุกข์ เป็นหนทางไปสู่ความสุขโดยการเอาชนะสิ่งทางโลก เช่น การล่อลวงความโลภและความอยาก ถัดจากทะเลสาบยืนสองสง่างามมาก กินรี เป็นสัตว์จากเทพนิยาย , พุทธครึ่งมนุษย์ครึ่งนก

" ประตูสวรรค์ "
หลังจากข้ามสะพานผู้เข้าชมมาถึงที่ " ประตูสวรรค์ " ซึ่งสองสิ่งมีชีวิตที่เป็นตัวแทนของความตาย และราหูขนาดใหญ่ที่ตัดสินใจมากกว่าผู้ชาย โชคชะตาในตอนท้ายของสะพานด้านหน้าอุโบสถ มีพระพุทธรูปหลายในการทำสมาธิ อุโบสถ

อาคารที่สำคัญที่สุดของวัดร่องขุ่น อุโบสถเป็นอาคารสีขาวกับชิ้นส่วนของกระจกสะท้อนในปูน พระอุโบสถหรูหรามาก แสดงให้เห็นบางองค์ประกอบของการออกแบบวัดภาคเหนือคลาสสิกเหมือนสามฉัตรและสุกใสงูพญานาคบนหลังคา bargeboards .

ส่วนจิตรกรรมฝาผนังของวัดเก่ามาก พรรณนาฉากจากเรื่อง พุทธ , กำแพงวัดสีขาว มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พรรณนาภาพสีสันทันสมัยดี และ ชั่ว บุคคลร่วมสมัยเช่น Batman , Spiderman และเอลวิส ตัวร้ายและฮีโร่จากภาพยนตร์และหนังสือการ์ตูนและยานอวกาศด้วยซ้ำ

บนผนังด้านหลังของพระอุโบสถเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง โกลเด้น ของพระพุทธเจ้าภาพไม่กี่ของพระพุทธเจ้าในเรื่องของหน้ามัน