Certain classes of antihypertensive

Certain classes of antihypertensive medications should not be
used during pregnancy, including angiotensin converting enzyme
inhibitors (ACEIs), angiotensin II receptor blockers (ARBs),
some beta-blockers, and diuretics [5]. ACEIs and ARBs have been
associated with detrimental effects on fetal growth and development,
including renal failure and death of the fetus [11,12]. When studied
during the first trimester of pregnancy, ACEIs such as lisinopril have
been associated with an increased risk of major fetal malformations,
including cardiovascular and central nervous system defects
[5,11]. Oligohydramnios, cardiovascular, central nervous system
malformations, hypotension, reversible or irreversible renal failure,
and death have been reported in the second and third trimesters with
use of ACEIs [5,11]. ARBs have limited human safety data during
pregnancy, but as ARBs act on the renin-angiotensin-aldosterone
system in a similar manner to ACEIs, the risks are thought to be
comparable to that of ACEIs [5,12]. Additionally, some beta-blockers
such as atenolol and metoprolol have been associated with an increased
risk of intrauterine growth restriction and are therefore avoided
[5,13]. Diuretics, although often helpful in treating hypertension, do
not have much of a role in treating pregnancy-induced hypertension
and preeclampsia since women with these conditions may already
be in a state of decreased volume [5]. Use of diuretics may further
deplete circulating volume, potentially leading to hypovolemia and
decreased placental perfusion [5].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่ควรจะเรียนบางอย่างของยาลดความดันโลหิตใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ รวมทั้งแปลงเอนไซม์ angiotensinสารยับยั้ง (ACEIs), บล็อกเกอร์ตัวรับ angiotensin II (ARBs),บางปิด และยาขับปัสสาวะ [5] ACEIs และ ARBs ได้เกี่ยวข้องกับผลอันตรายต่อทารกในครรภ์เจริญเติบโตและการพัฒนารวมทั้งภาวะไตวายและเสียชีวิตของทารกในครรภ์ [11, 12] เมื่อศึกษาในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ มี ACEIs เช่น lisinoprilรับเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของความผิดปกติทารกในครรภ์ที่สำคัญรวมทั้งหัวใจและหลอดเลือดและข้อบกพร่องของระบบประสาทส่วนกลาง[5.11] . Oligohydramnios หัวใจ ระบบประสาทส่วนกลางความผิดปกติ ความดันเลือดต่ำ ย้อนกลับ หรือกลับไม่ได้ไต วายและความตายมีการรายงานในภาคการการศึกษาที่สอง และสามด้วยการใช้ ACEIs [5.11] ARBs มีจำกัดข้อมูลมนุษย์ด้านความปลอดภัยในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่เป็น ARBs ดำเนินกิจกรรม angiotensin aldosteroneระบบในลักษณะคล้ายกับ ACEIs ความเสี่ยงมีความคิดที่เทียบกับ ACEIs [5,12] นอกจากนี้ บางปิดเช่น atenolol และ metoprolol ได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นความเสี่ยงของการเจริญเติบโตมดลูกจำกัด และจึงสามารถหลีกเลี่ยง[5,13] . ยาขับปัสสาวะ แม้ว่ามักจะเป็นประโยชน์ในการรักษาความดันโลหิตสูง ทำไม่ได้มีบทบาทในการรักษาความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์และ preeclampsia ตั้งแต่ผู้หญิงที่มีเงื่อนไขเหล่านี้อาจอยู่แล้วอยู่ในสถานะของไดรฟ์ข้อมูลลดลง [5] การใช้ยาขับปัสสาวะอาจเพิ่มเติมหมุนเวียนปริมาณ อาจนำไปสู่ hypovolemia พันธกรณี และลดลงรกกำซาบ [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชั้นเรียนบางอย่างของยาลดความดันโลหิตไม่ควรที่จะ
ใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์รวมทั้ง angiotensin converting enzyme
สารยับยั้ง (ACEIs) angiotensin II รับ blockers (ARBs)
บางกั้นเบต้าและยาขับปัสสาวะ [5] ACEIs และ ARBs ได้รับการ
เชื่อมโยงกับผลอันตรายต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์และการพัฒนา
รวมทั้งไตวายและการตายของทารกในครรภ์ [11,12] เมื่อศึกษา
ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ACEIs เช่น lisinopril ได้
รับการเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการผิดปกติของทารกในครรภ์ที่สำคัญ
รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือดและภาคกลางข้อบกพร่องของระบบประสาท
[5,11] oligohydramnios หัวใจและหลอดเลือดระบบประสาทส่วนกลาง
ผิดปกติ, ความดันโลหิตต่ำ, พลิกกลับหรือกลับไม่ได้ไตวาย
และเสียชีวิตได้รับการรายงานในไตรมาสที่สองและที่สามกับ
การใช้งานของ ACEIs [5,11] ARBs ได้รับการ จำกัด ข้อมูลความปลอดภัยของมนุษย์ในระหว่าง
การตั้งครรภ์ แต่เป็น ARBs ทำหน้าที่เกี่ยวกับ renin-angiotensin-aldosterone
ระบบในลักษณะที่คล้ายคลึงกับ ACEIs ความเสี่ยงที่มีความคิดที่จะ
เทียบเท่ากับที่ของ ACEIs [5,12] นอกจากนี้บางกั้นเบต้า
เช่น atenolol และ metoprolol ได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้น
ความเสี่ยงของการ จำกัด การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์และจะหลีกเลี่ยงดังนั้น
[5,13] diuretics แม้ว่ามักจะเป็นประโยชน์ในการรักษาความดันโลหิตสูงไม่
ได้มีมากถึงบทบาทในการรักษาความดันโลหิตสูงการตั้งครรภ์เหนี่ยวนำ
และครรภ์เป็นพิษตั้งแต่ผู้หญิงที่มีเงื่อนไขเหล่านี้แล้วอาจ
จะอยู่ในสถานะของปริมาณลดลง [5] การใช้ยาขับปัสสาวะต่อไปอาจ
ทำให้หมดสิ้นลงปริมาณการไหลเวียนอาจนำไปสู่ ​​hypovolemia และ
ลดลงปะรก [5]