ทTypes of EthnographiesThere are ma

ทTypes of Ethnographies
There are many forms of ethnography, such as a confessional ethnography,
life history, autoethnography, feminist ethnography, ethnographic
novels, and the visual ethnography found in photography and video, and
electronic media (Denzin, 1989a; LeCompte, Millroy, & Preissle, 1992;
Pink, 2001; Van Maanen, 1988). Two popular forms of ethnography will be
emphasized here: the realist ethnography and the critical ethnography.
The realist ethnography is a traditional approach used by cultural anthropologists.
Characterized by Van Maanen (1988), it reflects a particular stance
taken by the researcher toward the individuals being studied. Realist ethnography
is an objective account of the situation, typically written in the thirdperson
point of view and reporting objectively on the information learned
from participants at a site. In this ethnographic approach, the realist ethnographer
narrates the study in a third-person dispassionate voice and reports on
what is observed or heard from participants. The ethnographer remains in the
Five Qualitative Approaches to Inquiry——69
04-Creswell2e.qxd 11/28/2006 3:39 PM Page 69background as an omniscient reporter of the “facts.” The realist also reports
objective data in a measured style uncontaminated by personal bias, political
goals, and judgment. The researcher may provide mundane details of everyday
life among the people studied. The ethnographer also uses standard categories
for cultural description (e.g., family life, communication networks,
worklife, social networks, status systems). The ethnographer produces the
participants’ views through closely edited quotations and has the final word
on how the culture is to be interpreted and presented.
For many researchers, ethnography today employs a “critical” approach
(Carspecken & Apple, 1992; Madison, 2005; Thomas, 1993) by including
in the research an advocacy perspective. This approach is in response to current
society, in which the systems of power, prestige, privilege, and authority
serve to marginalize individuals who are from different classes, races,
and genders. The critical ethnography is a type of ethnographic research in
which the authors advocate for the emancipation of groups marginalized in
society (Thomas, 1993). Critical researchers typically are politically minded
individuals who seek, through their research, to speak out against inequality
and domination (Carspecken & Apple, 1992). For example, critical ethnographers
might study schools that provide privileges to certain types of
students, or counseling practices that serve to overlook the needs of underrepresented
groups. The major components of a critical ethnography include
a value-laden orientation, empowering people by giving them more authority,
challenging the status quo, and addressing concerns about power and
control. A critical ethnographer will study issues of power, empowerment,
inequality, inequity, dominance, repression, hegemony, and victimization.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทTypes Ethnographiesมีหลายรูปแบบของชาติพันธุ์วรรณนา เช่นชาติพันธุ์วรรณนาที่ confessionalประวัติชีวิต autoethnography ชาติพันธุ์ วรรณนา feminist, ethnographicนวนิยาย และชาติพันธุ์วรรณนาภาพที่พบในการถ่ายภาพและวิดีโอ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Denzin, 1989a LeCompte, Millroy, & Preissle, 1992สีชมพู 2001 รถตู้ Maanen, 1988) จะเป็นรูปแบบยอดนิยมสองชาติพันธุ์วรรณนาที่นี่เน้น: ชาติพันธุ์วรรณนา realist และชาติพันธุ์วรรณนาสำคัญชาติพันธุ์วรรณนา realist เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้วัฒนธรรมมานุษยลักษณะรถตู้ Maanen (1988), แสดงท่าทางโดยเฉพาะนำ โดยนักวิจัยต่อบุคคลที่กำลังศึกษา ชาติพันธุ์วรรณนา realistเป็นบัญชีของสถานการณ์ thirdperson มักจะเขียนวัตถุประสงค์มุมมองและรายงานเป็นข้อมูลเรียนรู้ผู้เข้าร่วมที่ ในวิธีนี้ ethnographic, realist ethnographernarrates ศึกษาในเสียงบุคคลที่สามโดยปราศจากอคติ และรายงานเกี่ยวกับอะไรจะสังเกต หรือได้ยินจากผู้เข้าร่วม Ethnographer ที่ยังคงอยู่ในการแนวทางเชิงคุณภาพ 5 สอบถาม — — 6904-Creswell2e.qxd 11/28/2006 3:39 PM หน้า 69background เป็นโปรแกรมรายงานการ omniscient "ข้อเท็จจริง" Realist ที่ยังรายงานข้อมูลวัตถุประสงค์ในลักษณะวัดดื่ม โดยอคติส่วนบุคคล การเมืองเป้าหมาย และพิพากษา นักวิจัยอาจให้รายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตทางโลกชีวิตคนศึกษา Ethnographer การใช้ประเภทมาตรฐานสำหรับคำอธิบายเกี่ยวกับวัฒนธรรม (เช่น ชีวิตครอบครัว เครือข่ายสื่อสารworklife เครือข่ายทางสังคม ระบบสถานะ) Ethnographer การผลิตมุมมองคนผ่านแก้ไขใบเสนอราคา และมีคำสุดท้ายอย่างใกล้ชิดว่าวัฒนธรรมเป็นการตีความ และนำเสนอสำหรับนักวิจัยหลาย ชาติพันธุ์วรรณนาวันนี้ใช้วิธี "สำคัญ"(Carspecken & แอปเปิ้ล 1992 เมดิสัน 2005 Thomas, 1993) โดยรวมในการวิจัยมีมุมมองของหลุย วิธีการนี้คือในปัจจุบันสังคม ซึ่งระบบของพลังงาน เพรสทีจ สิทธิ์การใช้งาน และหน่วยงานให้บุคคลที่ได้จากประเภทต่าง ๆ การแข่งขัน marginalizeและผสานระหว่างเพศทั้ง ชาติพันธุ์วรรณนาสำคัญคือวิจัย ethnographicซึ่งผู้เขียนสนับสนุนการเลิกทาสของกลุ่มที่ทำในสังคม (Thomas, 1993) นักวิจัยที่สำคัญโดยทั่วไปมีราคาทางการเมืองผู้หา นักวิจัย พูดกับอสมการและปกครอง (Carspecken & แอปเปิ้ล 1992) ตัวอย่างเช่น ethnographers สำคัญอาจศึกษาโรงเรียนที่ให้สิทธิ์การใช้งานบางประเภทนักเรียน หรือปฏิบัติการให้คำปรึกษาให้มองข้ามความต้องการของ underrepresentedกลุ่ม ส่วนประกอบสำคัญของชาติพันธุ์วรรณนาที่สำคัญได้แก่การรับภาระค่าปฐมนิเทศ องค์กร โดยการให้อำนาจเพิ่มเติมท้าทายสภาพ และแก้ปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้พลังงาน และควบคุม Ethnographer สำคัญจะศึกษาเรื่องของอำนาจ อำนาจอสมการ inequity ครอบงำ ปราบปราม นับถือ ก victimization

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทประเภทของ ethnographies
มีหลายรูปแบบของกลุ่มชาติพันธุ์เช่นกลุ่มชาติพันธุ์สารภาพ
ประวัติชีวิต autoethnography, ชาติพันธุ์สตรีชาติพันธุ์
นวนิยายและชาติพันธุ์ภาพที่พบในการถ่ายภาพและวิดีโอและ
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Denzin, 1989a; คอมพ์, Millroy, และ Preissle 1992;
สีชมพู 2001; Van Maanen, 1988) สองรูปแบบที่นิยมของกลุ่มชาติพันธุ์จะ
เน้นที่นี่:. วรรณนาจริงและกลุ่มชาติพันธุ์ที่สำคัญ
. วรรณนาจริงเป็นวิธีการแบบดั้งเดิมที่ใช้โดยนักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม
โดดเด่นโดยรถตู้ Maanen (1988) มันสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การดำเนินการโดยนักวิจัยที่มีต่อบุคคล การศึกษา ชาติพันธุ์จริง
เป็นบัญชีวัตถุประสงค์ของสถานการณ์ที่เขียนโดยทั่วไปใน thirdperson
มุมมองและการรายงานอคติกับข้อมูลที่ได้เรียนรู้
จากผู้เข้าร่วมได้ที่เว็บไซต์ ชาติพันธุ์ในแนวทางนี้ชาติพันธุ์วิทยาจริง
เล่าการศึกษาในเสียงสามคนใจเย็นและรายงานเกี่ยวกับ
สิ่งที่สังเกตเห็นหรือได้ยินจากผู้เข้าร่วม ชาติพันธุ์วิทยายังคงอยู่ใน
ห้าแนวทางเชิงคุณภาพเพื่อสอบถาม - 69
". ข้อเท็จจริง" 04 Creswell2e.qxd 2006/11/28 15:39 หน้า 69background เป็นนักข่าวรอบรู้ของจริงยังมีรายงาน
ข้อมูลที่มีวัตถุประสงค์ในสไตล์ที่วัดโสโครก โดยอคติส่วนบุคคลทางการเมือง
เป้าหมายและการตัดสิน นักวิจัยอาจให้รายละเอียดทางโลกของชีวิตประจำวันของ
ชีวิตของผู้คนที่มีการศึกษา ชาติพันธุ์วิทยายังใช้ประเภทมาตรฐาน
สำหรับคำอธิบายวัฒนธรรม (เช่นชีวิตครอบครัว, เครือข่ายการสื่อสาร
Worklife เครือข่ายทางสังคมระบบสถานะ) ชาติพันธุ์วิทยาผลิต
มุมมองของผู้เข้าร่วมผ่านใบเสนอราคาแก้ไขอย่างใกล้ชิดและมีคำสุดท้าย
. วัฒนธรรมเกี่ยวกับวิธีการที่จะตีความและนำเสนอ
สำหรับนักวิจัยหลายกลุ่มชาติพันธุ์ในวันนี้มีพนักงาน "ที่สำคัญ" วิธีการ
(Carspecken และแอปเปิ้ล, 1992; เมดิสัน, 2005; โทมัส, 1993) โดยรวมทั้ง
ในการวิจัยมุมมองของการสนับสนุน วิธีการนี้ในการตอบสนองต่อกระแส
สังคมซึ่งในระบบของอำนาจศักดิ์ศรีสิทธิ์และอำนาจ
หน้าที่ในการเหยียดหยามบุคคลที่มีความแตกต่างจากชั้นเรียนเชื้อชาติ
และเพศ กลุ่มชาติพันธุ์ที่สำคัญคือประเภทของการวิจัยทางชาติพันธุ์ใน
ซึ่งผู้เขียนสนับสนุนการปลดปล่อยของกลุ่มคนชายขอบใน
สังคม (โทมัส, 1993) นักวิจัยที่สำคัญมักจะใจกว้างทางการเมือง
บุคคลที่แสวงหาผ่านการวิจัยของพวกเขาที่จะพูดออกมาต่อต้านความไม่เท่าเทียมกัน
และการครอบงำ (Carspecken และแอปเปิ้ล, 1992) ตัวอย่างเช่น ethnographers สำคัญ
อาจเรียนโรงเรียนที่ให้สิทธิพิเศษในบางประเภทของ
นักเรียนหรือการปฏิบัติที่ให้บริการการให้คำปรึกษาที่จะมองข้ามความต้องการของบทบาท
กลุ่ม ส่วนประกอบที่สำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ที่สำคัญรวมถึง
การวางแนวทางมูลค่าภาระเพิ่มขีดความสามารถของผู้คนโดยให้พวกเขามีอำนาจมากขึ้น
ท้าทายสภาพที่เป็นอยู่และอยู่ในความกังวลเกี่ยวกับอำนาจและ
การควบคุม ชาติพันธุ์วิทยาที่สำคัญจะศึกษาปัญหาของการใช้พลังงานเพิ่มขีดความสามารถ,
ความไม่เท่าเทียมกัน, ความไม่เท่าเทียม, การปกครอง, การปราบปราม, อำนาจและการตกเป็นเหยื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทประเภทของ ethnographies
มีหลายรูปแบบของกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น คำสารภาพชาติพันธุ์วิทยา , ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์สตรี autoethnography
, , ชีวิต , นวนิยายชาติพันธุ์
และภาพเมื่อกี้ที่พบในการถ่ายภาพและวิดีโอ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ( denzin 1989a
, ; เล็กเคิ่มปต์ บิล& preissle , 1992 ;
สีชมพู , 2001 รถตู้ maanen , 1988 ) สองรูปแบบที่นิยมของชาติพันธุ์วรรณนาจะมี
เน้นที่นี่ :สัจนิยมชาติพันธุ์วรรณนาและชาติพันธุ์วรรณนาวิกฤต
สัจนิยมชาติพันธุ์วรรณนาคือสอนใช้โดยนักมานุษยวิทยาทางวัฒนธรรม
characterized โดยรถตู้ maanen ( 1988 ) , มันสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืน
ถ่ายโดยเฉพาะนักวิจัยที่มีต่อบุคคลที่ถูกนำไปศึกษา สัจนิยมชาติพันธุ์วรรณนา
เป็นวัตถุประสงค์บัญชีของสถานการณ์ มักจะเขียนในขณะ
จุดของมุมมองและอคติในการรายงานข้อมูลที่เรียนรู้
จากผู้เข้าร่วมที่เว็บไซต์ ในแนวทางการบริหารนี้ ความจริง ethnographer
เล่าเรื่องการศึกษาบุคคลที่สามสงบเสียงและรายงาน
สิ่งที่เป็นที่สังเกตหรือได้ยินจากผู้เข้าร่วม การ ethnographer ยังคงอยู่ใน
5 เชิงคุณภาพวิธีการถาม - 69
04-creswell2e.qxd 11 / 28 / 2006 3 :39 น. หน้า 69background เป็นนักข่าวสัพพัญญูของ " ข้อเท็จจริง " สัจนิยมยังรายงาน
ข้อมูลวัตถุประสงค์ในวัดแบบไม่ด้วยอคติส่วนตัว การเมือง
เป้าหมาย และการตัดสินใจ ผู้วิจัยอาจให้รายละเอียดโลกีย์ของชีวิตประจำวัน
ในหมู่คน ) การ ethnographer ยังใช้
ประเภทมาตรฐานเพื่ออธิบายวัฒนธรรม ( เช่น ชีวิตครอบครัว เครือข่ายการสื่อสาร
การทำงาน , เครือข่ายทางสังคม , ระบบสถานะ ) การสร้างมุมมอง ethnographer
เข้าร่วม ' ผ่านอย่างใกล้ชิดแก้ไขใบเสนอราคา และมีคำสุดท้าย
ว่าวัฒนธรรมคือการตีความและนำเสนอ .
สำหรับนักวิจัยหลายกลุ่มชาติพันธุ์ วันนี้ใช้วิกฤต " วิธีการ "
( carspecken &แอปเปิ้ล , 1992 ; แมดิสัน , 2005 ; โทมัส , 1993 ) โดยรวม
ในการวิจัย ผู้สนับสนุนมุมมองวิธีการนี้อยู่ในการตอบสนองต่อสังคมปัจจุบัน
ซึ่งในระบบของอำนาจ บารมี อำนาจ สิทธิ และหน้าที่ จะทำให้ไม่มีความสำคัญบุคคลที่

จากการเรียน ต่างเชื้อชาติ เพศ ทางชาติพันธุ์วรรณนาวิกฤตเป็นประเภทของการวิจัยเชิงคุณภาพใน
ซึ่งผู้เขียนสนับสนุนเพื่อปลดปล่อยกลุ่มชายขอบในสังคม
( โทมัส , 1993 )โดยทั่วไปนักวิจัยวิกฤตทางการเมืองใจ
บุคคลที่แสวงหา ผ่านการวิจัยของพวกเขาที่จะพูดออกมาต่อต้านความไม่เท่าเทียมกัน
และจักรวรรดินิยม ( carspecken &แอปเปิ้ล , 1992 ) ตัวอย่างเช่น การ ethnographers
อาจจะเรียนโรงเรียนที่ให้สิทธิพิเศษบางชนิด
นักเรียนหรือการปฏิบัติที่ให้บริการการมองข้ามความต้องการของบทบาท
กลุ่มองค์ประกอบสำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ที่สำคัญรวมถึง
ค่ารับภาระการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชน โดยการให้อำนาจมากขึ้น
ท้าทายสภาพที่เป็นอยู่ และความกังวลเกี่ยวกับพลังงานและ
ควบคุม การ ethnographer จะศึกษาประเด็นอำนาจการ
ความเหลื่อมล้ำความไม่เสมอภาค การครอบงำ , การปราบปราม , อำนาจ , และเหยื่อ .