externalities arising from agro-eco

externalities arising from agro-ecosystem management should be
taken into account. Nowadays, there is a great deal of interest in
providing financial benefits to landowners and farmers for landuse
practices that supply valuable environmental services to the
human population as well as farmers deriving income from their
more traditional production functions (FAO, 2007).
Agroforestry systems are increasingly being viewed as significant
providers of ecosystem services, including environmental
benefits (Harvey et al., 2006) and economic commodities, as part
of multifunctional working landscapes (Perfecto and Vandermeer,
2006). The integration of trees and agricultural crops and/or animals
into an agroforestry system has the potential to enhance soil
fertility, reduce erosion, improve water quality, enhance biodiversity,
increase aesthetics and sequester carbon (Garrett and
McGraw, 2000; Garrity, 2004; Williams-Guillén et al., 2008; Nair
et al., 2009). It has been well-recognized that the services and benefits
provided by agroforestry systems occur over a range of spatial
and temporal scales (Izac, 2003).
Coffee is an important crop in CentralAmerica, both economically
and culturally. It is mainly grown with shade trees in some form of
agroforestry. The role of coffee growing areas in providing ecosystem
services is important not only because of the area covered but also
because coffee farms are frequently close to priority areas for biodiversity
conservation (Moguel and Toledo, 1999). Biodiversity conservation
(Philpott et al., 2008), carbon sequestration (Albrecht and
Kandji, 2003), and soil erosion control (Beer et al., 1998) are some of
the benefits derived from trees within coffee plantations. A number
of initiatives, such as local and national programmes for payment of
ecosystemservices (PESs) and coffee certification schemes, have provided
incentives for coffee farmers to provide a range of ecosystem
services in addition to producing coffee (LeCoq et al., 2011).
Coffee production has played a strong role in shaping the Costa Rican
agricultural landscape since its introduction in the early 1800s
(Samper, 1999). Coffee is no longer the cornerstone of Costa Rica’s
economy but it remains an important crop. Around 50 thousand coffee
growers produce over 90 thousand tons of coffee beans annually,
85%ofwhich is exported, generating anannual export revenue of over
$US 250 million (ICAFE, 2010). Traditionally, coffee in Costa Ricawas
grown under diverse, dense and largely native tree cover (Beer et al.,
1979). However, since the 1970’s,many coffee farms have been converted
to high-yielding simplified systems in which coffee is grown
withfewer shade-trees andintensive use of agrochemicals.This ‘technified’
management was pioneered in Costa Rica, and then extended
to other countries in the region (Rice, 1999).More recently, depressed
international coffee prices have led to a search for coffee niche markets,
offering greater economic premiums to coffee grown under
shade tree certification schemes. Many Costa Rican farmers have
adopted coffee certification or quality assurance schemes to obtain
higher prices for their coffee (LeCoq et al., 2011), including organic
production in the Turrialba area (Lyngbæk et al., 2001). Trees within
coffee plantationsmay also diversify the productmix and in the case
of timber represent a saleable commodity; particularly important
when coffee prices are low (Beer et al., 1998).
Ecosystem services and biodiversity conservation in coffee
agroforestry systems have frequently been studied in isolation
from coffee productivity. Although it is becoming increasingly clear
that diverse and abundant tree cover in association with coffee
contributes to biodiversity conservation (Philpott et al., 2008),
the expansion of the area of coffee with little or no tree shade suggests
that farmers perceive that too many trees within their coffee
plots reduce coffee yields. Available scientific literature on the relationships
between shade tree canopy cover, coffee yields and profits
show contradictory results. Some studies report significant
increase in yields when shade was removed (Matoso et al., 2004;
daMatta, 2004), whereas others found no effect of shade on yield
(Romero-Alvarado et al., 2002) or maximum yields at intermediate

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิดจากการจัดการระบบนิเวศเกษตร externalities ควรนำมาพิจารณา เป็นข้อตกลงที่น่าสนใจในปัจจุบันให้สิทธิประโยชน์ทางการเงินแก่การเกษตรกร landuseกรรมที่จัดบริการด้านสิ่งแวดล้อมมีการประชากรมนุษย์เป็นเกษตรกรบริษัทฯ รายได้ของพวกเขาฟังก์ชันผลิตดั้งเดิม (FAO, 2007)ระบบ Agroforestry มากที่ดูเป็นสำคัญผู้ให้บริการระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อมรวมทั้งประโยชน์ (ฮาร์วี่และ al., 2006) และสินค้า โภคภัณฑ์ทางเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งของงานภูมิทัศน์แห่ง (Perfecto และ Vandermeer2006) การรวมกันของต้นไม้ และพืชเกษตร และ/หรือสัตว์เป็น agroforestry เป็น ระบบมีศักยภาพในการปรับปรุงดินความอุดมสมบูรณ์ ลดการพังทลาย ปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มความสวยงาม และ sequester คาร์บอน (การ์ และMcGraw, 2000 Garrity, 2004 วิลเลียมส์ Guillén et al., 2008 Nairร้อยเอ็ด al., 2009) ได้รับเชิญรู้จักที่บริการและสิทธิประโยชน์โดยระบบที่เกิดขึ้นช่วงของปริภูมิ agroforestryและปรับขนาดขมับ (Izac, 2003)กาแฟเป็นพืชสำคัญใน CentralAmerica ทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ส่วนใหญ่มีการเติบโต ด้วยการแรเงาต้นไม้ในรูปแบบของagroforestry บทบาทของกาแฟที่ปลูกในระบบนิเวศให้บริการไม่สำคัญเท่านั้นเนื่องจากพื้นที่ครอบคลุมแต่ยังเนื่องจากที่ฟาร์มกาแฟมักจะ ปิดพื้นที่สำคัญสำหรับความหลากหลายทางชีวภาพอนุรักษ์ (Moguel และโทเลโด 1999) อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ(Philpott et al., 2008), คาร์บอน sequestration (ภาพ และKandji, 2003) และควบคุมการพังทลายของดิน (เบียร์และ al., 1998) ได้แก่ประโยชน์ที่ได้รับจากต้นไม้ภายในสวนกาแฟ หมายเลขของริเริ่ม เช่นโปรแกรมท้องถิ่น และในประเทศสำหรับการชำระเงินecosystemservices (PESs) และกาแฟรับรองร่าง ให้แรงจูงใจสำหรับเกษตรกรกาแฟเพื่อให้วงจรของระบบนิเวศบริการนอกจากการผลิตกาแฟ (LeCoq et al., 2011)ผลิตกาแฟมีบทบาทเข้มแข็งในการกำหนดทิศคอสตาริกาแนวทางการเกษตรตั้งแต่การแนะนำในเพราะต้น(Samper, 1999) กาแฟไม่ได้เป็นหลักสำคัญของสาธารณรัฐคอสตาริกาเศรษฐกิจก็ยังคง เป็นพืชที่สำคัญ กาแฟประมาณ 50 พันเกษตรกรผลิตเมล็ดกาแฟกว่าพัน 90 ตันต่อปีofwhich 85% ส่งออก การสร้างรายได้การส่งออก anannual ของเหนือ$US 250 ล้าน (ICAFE, 2010) ประเพณี กาแฟคอสตา Ricawasปลูกใต้ต้นไม้หลากหลาย หนาแน่น และส่วนใหญ่เป็นฝา (เบียร์ et al.,1979) . อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 115 ฟาร์มกาแฟจำนวนมากถูกแปลงเป็นผลผลิตสูงง่ายระบบการปลูกกาแฟwithfewer ต้นไม้ร่มเย็น andintensive ใช้ของสูบนี้ 'technified'จัดการเป็นผู้บุกเบิกในคอสตาริกา และจากนั้น ขยายกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค (ข้าว 1999)เมื่อเร็ว ๆ นี้ หดหู่ราคากาแฟนานาชาติได้นำไปสู่การค้นหาตลาดนิชกาแฟเสนอค่าจ้างพิเศษทางเศรษฐกิจมากกว่าในกาแฟที่ปลูกภายใต้แผนงานการรับรองต้นไม้ มีเกษตรกรหลาย Costa Ricanนำกาแฟรับรองหรือแผนงานประกันคุณภาพได้รับราคาที่สูงขึ้นสำหรับกาแฟของพวกเขา (LeCoq et al., 2011), รวมทั้งอินทรีย์ผลิตในพื้นที่ Turrialba (Lyngbæk และ al., 2001) ต้นไม้ภายในplantationsmay กาแฟยังมากมาย productmix และ ในกรณีของไม้แสดงสินค้าเหมาะที่ขาย สำคัญอย่างยิ่งเมื่อกาแฟมีราคาถูก (เบียร์และ al., 1998)อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการบริการของระบบนิเวศในกาแฟระบบ agroforestry ได้บ่อย ๆ การศึกษาแยกจากผลผลิตกาแฟ ถึงแม้ว่ามันจะกลายเป็นชัดเจนมากขึ้นฝาครอบที่ต้นไม้อุดมสมบูรณ์ และหลากหลายกับกาแฟสนับสนุนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Philpott et al., 2008),แนะนำการขยายตัวของพื้นที่ของกาแฟมีน้อย หรือไม่มีร่มเงาต้นไม้ให้เกษตรกรสังเกตที่ต้นไม้มากเกินไปในกาแฟของพวกเขาผืนลดผลผลิตกาแฟ วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์มีสัมพันธ์ระหว่างฝาครอบฝาครอบต้นไม้ ผลผลิตกาแฟ และผลกำไรแสดงผลขัดแย้ง รายงานการศึกษาบางอย่างมีนัยสำคัญผลผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเงา ลบ (Matoso et al., 2004daMatta, 2004), ในขณะที่คนอื่นพบไม่มีผลต่อเฉดสีบนผลผลิต(Romero Alvarado et al., 2002) หรืออัตราผลตอบแทนสูงสุดในระดับปานกลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภายนอกที่เกิดขึ้นจากการจัดการระบบนิเวศเกษตรควรจะ
นำมาพิจารณา ปัจจุบันมีการจัดการที่ดีของความสนใจใน
การให้สิทธิประโยชน์ทางการเงินให้แก่เจ้าของที่ดินและเกษตรกรใช้ที่ดินสำหรับ
การปฏิบัติที่จัดหาบริการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่าต่อ
ประชากรมนุษย์เช่นเดียวกับเกษตรกรที่ได้รับรายได้จากการของพวกเขา
ฟังก์ชั่นการผลิตแบบดั้งเดิมมากขึ้น (FAO, 2007).
ระบบวนเกษตรเป็น ถูกมองมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น
ผู้ให้บริการในการให้บริการของระบบนิเวศรวมทั้งสิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ (ฮาร์วีย์ et al., 2006) และสินค้าโภคภัณฑ์ทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของภูมิทัศน์การทำงานมัลติฟังก์ชั่ (Perfecto และ Vandermeer,
2006) บูรณาการของต้นไม้และพืชผลทางการเกษตรและ / หรือสัตว์
ในระบบวนเกษตรที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มดิน
อุดมสมบูรณ์ลดการพังทลายในการปรับปรุงคุณภาพน้ำเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
เพิ่มขึ้นและความสวยงามยึดทรัพย์คาร์บอน (การ์เร็ตและ
McGraw, 2000; Garrity 2004; วิลเลียมส์ -Guillén et al, 2008;. แนร์
, et al, 2009). มันได้รับการรู้จักกันดีว่าการบริการและผลประโยชน์ที่
ให้บริการโดยระบบวนเกษตรที่เกิดขึ้นในช่วงของอวกาศ
และเวลาเครื่องชั่งน้ำหนัก (Izac 2003).
กาแฟเป็นพืชที่สำคัญใน CentralAmerica ทั้งทางเศรษฐกิจ
และวัฒนธรรม มันเป็นที่ปลูกส่วนใหญ่มีต้นไม้ร่มเงาในรูปแบบของบาง
วนเกษตร บทบาทของพื้นที่ปลูกกาแฟในการให้บริการของระบบนิเวศ
บริการเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียงเพราะพื้นที่ปกคลุม แต่ยัง
เพราะฟาร์มกาแฟมักจะใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีความสำคัญสำหรับความหลากหลายทางชีวภาพ
การอนุรักษ์ (Moguel และ Toledo, 1999) การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
(Philpott et al., 2008) กักเก็บคาร์บอน (Albrecht และ
Kandji, 2003) และการควบคุมการพังทลายของดิน (เบียร์ et al., 1998) คือบางส่วนของ
ผลประโยชน์ที่ได้จากต้นไม้ภายในสวนกาแฟ จำนวน
ของการริเริ่มเช่นโปรแกรมท้องถิ่นและระดับชาติสำหรับการชำระเงินของ
ecosystemservices (Pess) และแผนการรับรองกาแฟได้ให้
แรงจูงใจให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟเพื่อให้ช่วงของระบบนิเวศ
บริการในนอกเหนือจากการผลิตเครื่องชงกาแฟ (LeCoq et al., 2011)
การผลิตกาแฟที่มีบทบาทที่แข็งแกร่งในการสร้างคอสตาริกา
เกษตรภูมิทัศน์ตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 1800
(Samper, 1999) กาแฟไม่เป็นรากฐานที่สำคัญของคอสตาริกาของ
เศรษฐกิจ แต่มันก็ยังคงเป็นพืชที่สำคัญ รอบ 50,000 กาแฟ
ปลูกผลิตกว่า 90,000 ตันของเมล็ดกาแฟเป็นประจำทุกปี
85% ofwhich ถูกส่งออกสร้างรายได้การส่งออก anannual กว่า
US $ 250 ล้าน (iCafe 2010) ตามเนื้อผ้า, เครื่องชงกาแฟในคอสตา Ricawas
เติบโตภายใต้ความหลากหลายหนาแน่นและพื้นเมืองส่วนใหญ่ต้นไม้ปกคลุม (เบียร์ et al.,
1979) อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1970 ฟาร์มกาแฟจำนวนมากได้รับการดัดแปลง
เพื่อให้ผลผลิตสูงระบบง่ายในการที่จะปลูกกาแฟ
withfewer ร่มเงาต้นไม้ใช้ andintensive ของ agrochemicals.This 'technified'
การจัดการเป็นหัวหอกในคอสตาริกาและขยายจากนั้น
ไปยังประเทศอื่น ๆ ใน ภูมิภาค (ข้าว, 1999) เมื่อเร็ว ๆ นี้พักเพิ่มเติมหดหู่
ราคากาแฟระหว่างประเทศได้นำไปสู่การค้นหาสำหรับตลาดกาแฟเฉพาะ
นำเสนอพรีเมี่ยมทางเศรษฐกิจมากขึ้นในการชงกาแฟที่ปลูกภายใต้
ร่มเงาต้นไม้แผนการรับรอง เกษตรกรหลาย Costa Rican ได้
นำมาใช้รับรองกาแฟหรือรูปแบบการประกันคุณภาพเพื่อให้ได้
ราคาที่สูงขึ้นสำหรับกาแฟของพวกเขา (LeCoq et al., 2011) รวมทั้งอินทรีย์
การผลิตในพื้นที่ Turrialba (Lyngbæk et al., 2001) ต้นไม้ภายใน
plantationsmay กาแฟยังกระจาย productmix และในกรณี
ของไม้เป็นสินค้าขายดี; ที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อราคากาแฟอยู่ในระดับต่ำ (เบียร์ et al., 1998).
บริการระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในกาแฟ
ระบบวนเกษตรได้รับการศึกษาที่พบบ่อยในการแยก
จากผลผลิตกาแฟ ถึงแม้ว่ามันจะกลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้น
ว่าต้นไม้ปกคลุมมีความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ร่วมกับกาแฟ
มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Philpott et al., 2008)
การขยายตัวของพื้นที่ของกาแฟด้วยเฉดสีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีต้นไม้ที่แสดงให้เห็น
ว่าเกษตรกรรับรู้ว่าต้นไม้มากเกินไป ภายในกาแฟของพวกเขา
แปลงลดอัตราผลตอบแทนกาแฟ วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่บนความสัมพันธ์
ระหว่างฝาครอบหลังคาร่มเงาต้นไม้ผลผลิตกาแฟและผลกำไรที่
แสดงผลการขัดแย้ง บางการศึกษารายงานอย่างมีนัยสำคัญ
เพิ่มขึ้นในอัตราผลตอบแทนเมื่อร่มเงาถูกลบออก (Matoso et al, 2004;.
daMatta, 2004) ในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่พบผลกระทบของสีที่มีต่อผลผลิต
(อัลบาโรเมโร-et al, 2002.) หรืออัตราผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับกลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลกระทบภายนอกที่เกิดขึ้นจากการจัดการระบบนิเวศเกษตรควร
เข้าบัญชี ปัจจุบันมีการจัดการที่ดีของความสนใจในผลประโยชน์ทางการเงิน เพื่อให้เจ้าของที่ดิน

และเกษตรกร เพื่อการจัดหาบริการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่ากับ
ประชากรมนุษย์เช่นเดียวกับเกษตรกรที่ได้รับรายได้จาก
แบบดั้งเดิมมากขึ้นฟังก์ชั่นการผลิต ( FAO , 2007 ) .
ระบบวนเกษตรมีมากขึ้นถูกมองว่าเป็นผู้ให้บริการที่สำคัญ
บริการของระบบนิเวศ รวมถึงประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
( ฮาร์วีย์ et al . , 2006 ) และสินค้าโภคภัณฑ์เศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ทำงานโดย ( เยี่ยมมาก

vandermeer และ , 2006 ) บูรณาการของต้นไม้และพืชผลทางการเกษตร และ / หรือสัตว์
เป็นระบบวนเกษตรมีศักยภาพเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
,ลดการกัดเซาะ ปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มความสวยงามและโดดเดี่ยวคาร์บอน
( การ์เร็ตและ
McGraw , 2000 ; Garrity , 2004 ; Williams อย่างรวดเร็วé n et al . , 2008 ; แนร์
et al . , 2009 ) มันได้รับการยอมรับอย่างดีที่บริการและสิทธิประโยชน์
โดยระบบวนเกษตร เกิดขึ้นในช่วงของพื้นที่
และเวลาตาชั่ง ( ไอแซค , 2003 ) .
กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของ centralamerica ,ทั้งทางเศรษฐกิจและทาง
. ส่วนใหญ่จะปลูกต้นไม้ร่มรื่นในบางรูปแบบของ
วนเกษตร . บทบาทของการปลูกกาแฟในพื้นที่ในการให้บริการของระบบนิเวศ
มีความสำคัญไม่เพียงเพราะของพื้นที่ครอบคลุม แต่ยัง
เพราะฟาร์มกาแฟบ่อยใกล้บุริมภาพพื้นที่สำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
( และ moguel Toledo , 1999 )
การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ( ฟิลเพิต et al . , 2008 )การกักเก็บคาร์บอน ( Albrecht และ
kandji , 2003 ) , และการควบคุมการพังทลายของดิน ( เบียร์ et al . , 1998 ) เป็นบาง
ประโยชน์ที่ได้จากต้นไม้ภายในสวนกาแฟ หมายเลข
ในโครงการ เช่น โครงการในระดับท้องถิ่นและระดับชาติสำหรับการชำระเงินของ
ecosystemservices ( pess ) และโครงร่างการรับรองกาแฟได้ให้เกษตรกรเพื่อให้สิ่งจูงใจสำหรับกาแฟ

ช่วงของระบบนิเวศการบริการต่างๆนอกเหนือจากการผลิตกาแฟ ( เลอคอค et al . , 2011 ) .
การผลิตกาแฟมีบทบาทที่แข็งแกร่งในการคอสตาริกา
การเกษตรภูมิตั้งแต่เปิดตัวในช่วงต้นปี 1800
( แซม เปอร์ , 1999 ) กาแฟที่ไม่มีรากฐานของเศรษฐกิจของ
คอสตาริกาแต่ก็ยังคงเป็นพืชที่สำคัญ ประมาณ 50 , 000 ไร่ ผลิตกาแฟ
กว่า 90 , 000 ตันของเมล็ดกาแฟปี
85% ซึ่งส่งออกสร้างรายได้ส่งออก anannual กว่า
$ สหรัฐ 250 ล้าน ( ไอคาเฟ่ , 2010 ) ประเพณี , กาแฟ ใน คอสตา ricawas
ปลูกความหลากหลายให้หนาแน่นและส่วนใหญ่พื้นเมืองต้นไม้คลุม ( เบียร์ et al . ,
1979 ) อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 1970 , กาแฟหลายฟาร์มที่ได้รับการดัดแปลงให้ง่ายขึ้นในระบบ ซึ่งให้ผลผลิตสูง

withfewer กาแฟปลูกต้นไม้ร่มรื่น andintensive ใช้เคมีเกษตร' '
technified การจัดการเป็นหัวหอกในคอสตาริกา และขยาย
ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ( ข้าว , 1999 ) เมื่อเร็วๆ นี้ ราคา กาแฟระหว่างประเทศหดหู่
มี led เพื่อค้นหาตลาดกาแฟซอก
เสนอเบี้ยเศรษฐกิจมากกว่ากาแฟที่ปลูกภายใต้ร่มเงาต้นไม้
รับรองแผน เกษตรกรหลายคน
คอสตาริการับกาแฟหรือรูปแบบการประกันคุณภาพการรับรองเพื่อขอรับ
ราคาสูงกว่ากาแฟ ( เลอคอค et al . , 2011 ) ได้แก่ การผลิตเกษตรอินทรีย์
ในบริเวณ Turrialba ( lyngb æ k et al . , 2001 ) ต้นไม้ภายใน
กาแฟ plantationsmay ยังกระจาย productmix และในกรณี
ไม้แสดงสินค้าขายดี ; ที่สำคัญโดยเฉพาะ
เมื่อกาแฟราคาต่ำ ( เบียร์ et al . , 1998 ) .
บริการของระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในระบบวนเกษตรกาแฟ
มีบ่อยได้ศึกษาในการแยก
จากกาแฟ ผลผลิต แม้ว่ามันจะกลายเป็นชัดเจนมากขึ้นว่ามีความหลากหลายและครอบคลุมต้นไม้มากมาย

ในสมาคมกาแฟมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ( ฟิลเพิต et al . , 2008 ) ,
การขยายตัวของพื้นที่ของกาแฟที่มีน้อยหรือไม่มีร่มไม้ให้
ที่เกษตรกรเห็นว่าต้นไม้มากเกินไปภายในแปลงกาแฟ
ของพวกเขาลดผลผลิตกาแฟ วิทยาศาสตร์วรรณคดีที่มีอยู่ในความสัมพันธ์
ระหว่างเงาต้นไม้ท้องฟ้าปิด ผลผลิตกาแฟและผลกำไร
แสดงผลลัพธ์ตรงกันข้าม บางการศึกษารายงานที่สำคัญเพิ่มผลผลิต
เมื่อเงาถูกลบออก ( matoso et al . , 2004 ;
damatta , 2004 ) , ในขณะที่คนอื่น ๆพบว่าไม่มีผลกระทบต่อผลผลิต
ของเงา( โรเมโร Alvarado et al . , 2002 ) หรือผลผลิตสูงสุดที่ระดับกลาง