2010 Earthquake in HaitiOn January

2010 Earthquake in Haiti
On January 12, 2010, a catastrophic, magnitude earthquake struck Haiti (Rodgers 2010). Its epicenter was near the town of Léogâne, approximately 16 miles west of Port-au-Prince, the capital. By January 24, at least 52 aftershocks measuring or greater had been recorded (New York Daily Times 2010; SOS Earthquakes 2011). The government of Haiti estimated that 250,000 residences and 30,000 commercial buildings collapsed or were severely damaged. The earthquake caused major damage in Port-au-Prince, Jacmel, and other settlements in the region. Many landmark buildings were significantly damaged or destroyed, including the Presidential Palace, the National Assembly building, the Port-au-Prince Cathedral, and the main jail. Communication systems; air, land, and sea transport facilities; hospitals; and electrical networks were damaged by the earthquake, hampering rescue and aid efforts.
The most extensive damage to buildings occurred on the soft sedimentary plains, where the amplification of surface seismic waves contributed to their collapse. But the survival of heavy water towers in low-lying areas shows the value of sound construction practices in averting disaster. The education and training of Haiti’s engineers and architects in engineering guidelines for earthquake-resistant design and construction of structures is thus vital for sustainable and safe reconstruction and rebuilding after the earthquake. An important issue is the need to introduce an adequate building code and building inspectors empowered to enforce it. Some key ideas being discussed in the rebuilding of Haiti include ensuring that a strip of land 30–40 m wide is kept clear of buildings on both sides of the Enriquillo–Plantain Garden fault; preventing construction on hilly ground so that buildings do not fall on top of each other during an earthquake; and not using land prone to waterlogging, which tends to liquefy when shaken during a major earthquake (McKie 2010).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผ่นดินไหวเฮติ 201012 มกราคม 2010 รุนแรง แผ่นดินไหวขนาดหลงเฮติ (ร็อดเจอร์ส 2010) เป็นจุดศูนย์กลางของใกล้เมือง Léogâne ประมาณ 16 กิโลเมตรทางตะวันตกของเมืองปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง โดยที่ 24 มกราคม ระลอกน้อย 52 วัด หรือมากกว่าได้รับบันทึก (นิวยอร์กไทม์ 2010 ทุกวัน SOS เกิดแผ่นดินไหว 2011) รัฐบาลเฮติประมาณ 250000 ที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ 30000 ยุบ หรือเสียหายอย่างร้ายแรง แผ่นดินไหวทำให้เกิดความเสียหายที่สำคัญในเมืองปอร์โตแปรงซ์ Jacmel และการชำระเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค แลนด์มาร์คในอาคารได้อย่างมีนัยสำคัญเสียหาย หรือ ทำลาย รวมทั้งทำเนียบประธานาธิบดี อาคารรัฐสภา มหา วิหารเมืองปอร์โตแปรงซ์ และคุกหลัก ระบบการสื่อสาร แอร์ ที่ดิน และซี ส โรงพยาบาล และเครือข่ายไฟฟ้าเสียหายจากแผ่นดินไหว กระทบการกู้ภัยและช่วยเหลือความเสียหายอาคารมากที่สุดเกิดขึ้นบนนุ่มตะกอนที่ราบ ที่ขยายของคลื่นการสั่นสะเทือนที่พื้นผิวส่วนการยุบของพวกเขา แต่ความอยู่รอดของเสาหนักน้ำในพื้นที่ราบแสดงค่าของปฏิบัติก่อสร้างเสียงภัย averting ศึกษาและฝึกอบรมของวิศวกรและสถาปนิกในแนวทางวิศวกรรมออกแบบต้านทานแผ่นดินไหวเฮติและก่อสร้างโครงสร้างได้ดังนั้นความสำคัญในการฟื้นฟูที่ยั่งยืน และปลอดภัย และฟื้นฟูหลังแผ่นดินไหว ประเด็นสำคัญจึงจำเป็นต้องแนะนำตัวพอสร้างรหัสและสร้างอำนาจก็ผู้ตรวจ ความคิดบางอย่างสำคัญกล่าวถึงในการฟื้นฟูเฮติรวมใจที่แถบกว้าง 30 – 40 เมตรที่ดินอยู่ล้างของอาคารทั้งสองด้านของสวน Enriquillo – กล้ายบกพร่อง ป้องกันการก่อสร้างบนดินฮิลลีเพื่อให้อาคารไม่ล้มทับกันระหว่างแผ่นดินไหว และไม่ใช้ที่ดินที่แนวโน้มที่จะ waterlogging ซึ่งมีแนวโน้มที่จะ liquefy เมื่อเขย่าระหว่างแผ่นดินไหวหลัก (McKie 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2010
แผ่นดินไหวในเฮติเมื่อวันที่12 มกราคม 2010 ซึ่งเป็นภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาดตีเฮติ (ร็อดเจอร์ส 2010) ศูนย์กลางอยู่ใกล้เมือง Leogane ประมาณ 16 ไมล์ทางตะวันตกของปอร์โตแปรงซ์เมืองหลวง โดยวันที่ 24 มกราคมเวลาอย่างน้อย 52 ระลอกวัดหรือมากกว่าได้รับการบันทึกไว้ (นิวยอร์กเดลี่ไท 2010 แผ่นดินไหว SOS 2011) รัฐบาลเฮติคาดว่า 250,000 ที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ 30,000 ทรุดตัวลงหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แผ่นดินไหวทำให้เกิดความเสียหายที่สำคัญใน Port-au-Prince, มอล, และการตั้งถิ่นฐานอื่น ๆ ในภูมิภาค อาคารสถานที่สำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญหรือถูกทำลายรวมทั้งทำเนียบประธานาธิบดีอาคารสมัชชาแห่งชาติ Port-au-Prince วิหารคุกหลัก ระบบการสื่อสาร อากาศที่ดินและสิ่งอำนวยความสะดวกการขนส่งทางทะเล; โรงพยาบาล และเครือข่ายไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่ขัดขวางความพยายามกู้ภัยและช่วยเหลือ.
ความเสียหายที่ครอบคลุมมากที่สุดของอาคารที่เกิดขึ้นในที่ราบตะกอนอ่อนที่ขยายคลื่นแผ่นดินไหวพื้นผิวที่มีส่วนทำให้การล่มสลายของพวกเขา แต่การอยู่รอดของอาคารหนักน้ำในพื้นที่ต่ำแสดงให้เห็นคุณค่าของการปฏิบัติในการก่อสร้างเสียงหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ การศึกษาและการฝึกอบรมของวิศวกรของเฮติและสถาปนิกในแนวทางสำหรับการออกแบบด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวทนและก่อสร้างโครงสร้างจึงมีความสำคัญสำหรับการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนและมีความปลอดภัยและสร้างใหม่หลังเกิดแผ่นดินไหว ปัญหาที่สำคัญคือความต้องการที่จะแนะนำการสร้างรหัสที่เพียงพอและผู้ตรวจสอบอาคารที่เพิ่มขีดความสามารถในการบังคับใช้มัน บางความคิดที่สำคัญที่ถูกกล่าวถึงในการบูรณะเฮติรวมถึงการสร้างความมั่นใจว่าที่ดินแถบกว้าง 30-40 เมตรจะถูกเก็บไว้ที่ชัดเจนของอาคารทั้งสองด้านของ Enriquillo-กล้าการ์เด้นความผิด; การป้องกันการก่อสร้างบนพื้นดินที่เป็นเนินเขาเพื่อให้อาคารที่ไม่ตกอยู่ด้านบนของแต่ละอื่น ๆ ในระหว่างการเกิดแผ่นดินไหว; และไม่ได้ใช้ที่ดินมีแนวโน้มที่จะขังซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เป็นของเหลวเมื่อเขย่าในช่วงแผ่นดินไหวใหญ่ (McKie 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2010 แผ่นดินไหวในเฮติ
ที่มกราคม 12 , 2010 , ภัยพิบัติ , แผ่นดินไหวเกิดแผ่นดินไหวเฮติ ( Rodgers 2010 ) แสงนั่นคือใกล้เมือง L éâ ne และประมาณ 16 ไมล์ทางทิศตะวันตกของ Port au Prince , เมืองหลวง 24 มกราคม อย่างน้อย 52 ระลอกวัดหรือมากกว่าได้รับการบันทึกไว้ ( นิวยอร์กไทม์รายวัน 2010 ; SOS แผ่นดินไหว 2011 ) รัฐบาลเฮติคาดว่า 250 ,000 , 000 อาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย และล้มป่วยหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แผ่นดินไหวทำให้เกิดความเสียหายที่สำคัญใน Port Au Prince , มอล และเมืองอื่นๆ ในภูมิภาค อาคารสถานที่สำคัญมากอย่างมีนัยสำคัญที่เสียหายหรือถูกทำลาย รวมทั้งทำเนียบประธานาธิบดี ตึกรัฐสภา ท่าเรือเจ้าฟ้า มหาวิหาร และคุกหลัก ระบบสื่อสาร ได้แก่ แอร์ , ที่ดิน ,และทะเลขนส่งเครื่อง ; โรงพยาบาล ; และเครือข่ายไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ขัดขวางความพยายามกู้ภัยและช่วยเหลือ .
ความเสียหายอย่างกว้างขวางมากที่สุดของอาคารที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ราบนุ่มที่พื้นผิวแบบคลื่นแผ่นดินไหวส่งผลต่อการล่มสลายของพวกเขาแต่การอยู่รอดของหอคอยน้ำหนักในพื้นที่ลุ่มจะแสดงค่าเสียงการปฏิบัติงานก่อสร้างในหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ การศึกษาและการฝึกอบรมของเฮติของวิศวกรและสถาปนิกในการต้านทานแผ่นดินไหววิศวกรรมการออกแบบและการก่อสร้างของโครงสร้าง จึงสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและปลอดภัยและการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดแผ่นดินไหวปัญหาที่สำคัญคือ ต้องแนะนำให้มีรหัสอาคารและผู้ตรวจสอบอาคารมีอํานาจที่จะบังคับมัน ที่สำคัญบางความคิดที่ถูกกล่าวถึงในการฟื้นฟูเฮติรวมถึงมั่นใจว่าแถบของที่ดิน 30 – 40 เมตรกว้างจะถูกเก็บไว้ที่ชัดเจนของอาคารทั้งสองด้านของ enriquillo –ต้นไม้สวนความผิดพร่องการป้องกันการก่อสร้างในบริเวณพื้นที่อาคารไม่ได้อยู่ด้านบนของแต่ละอื่น ๆเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และไม่ใช่การใช้ที่ดินที่มีน้ำขัง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เป็นของเหลวเมื่อถูกเขย่าในช่วงเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ (
เมิกคี่ 2010 )