Justin Bieber is FTM. It used to be

Justin Bieber is FTM. It used to be my headcanon but now I believe that all of that is true. He looks like a totally different person than what he was 4 years ago. That is a short amount of time to change so fast. My theory is that he was born female and he was intersex so his mom had to make the decision to keep him as female or male. As he got older and was a kid he presented as male and he got hormone blockers at a young age so his breasts wouldn’t grow. He wasn’t on testosterone yet once he made it big on youtube and once his fame started to grow. That’s why his voice was high pitched and he could sing really well. Then of course was the hate that came with the fame. I think that he got tired of everyone calling him gay and a girl so he wanted to start on testosterone fast. Not to mention he looked 12 when he was 15 and he hated looking so young. And he wanted testosterone to feel more comfortable in his body. I think in the future he might get phalloplasty so if you ever see Justin’s arm all bandaged up then you know that what I said could be right.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Justin Bieber อยู่ FTM ควรจะเป็น headcanon ของฉัน แต่ฉันเชื่อว่า ทั้งหมดที่เป็นจริง เขาดูเหมือนคนละคนมากกว่าสิ่งที่เขาเป็น 4 ปีที่ผ่านมา ที่เป็นจำนวนเงินระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทฤษฎีของฉันคือ เกิดเพศหญิง และเป็นภาวะเพศกำกวมเพื่อให้แม่ของเขาได้ทำให้การตัดสินใจเพื่อให้เขาเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เขามีอายุ และมีเด็ก เขาแสดงเป็นเพศชาย และเขาได้ฮอร์โมนบล็อกเกอร์ที่อายุยังน้อยเพื่อให้หน้าอกของเขาจะไม่เติบโต เขาไม่ได้ฮอร์โมนเพศชาย แต่ เมื่อเขาทำให้มันใหญ่บน youtube และ เมื่อชื่อเสียงของเขาเริ่มเติบโต ว่า ของทำไมเสียงของเขามีสูงทำให้เกิดมโนภาพ และเขาสามารถร้องเพลงดีจริง ๆ แล้ว เกลียดที่มาพร้อมกับชื่อเสียงแน่นอน คิดว่า คงมีเบื่อทุกคนเรียกเขาเกย์และผู้หญิงดังนั้นจะต้องเริ่มต้นในฮอร์โมนเพศชายอย่างรวดเร็ว ไม่พูดถึงเขาดู 12 เมื่อเขา 15 และเขาเกลียดชังมองหนุ่มสาวดังนั้น และเขาต้องการฮอร์โมนเพศชายจะรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในร่างกายของเขา ผมคิดว่า ในอนาคตเขาอาจรับ phalloplasty ดังนั้นถ้าคุณเคยเห็นแขนของจัสติน bandaged ทุกค่า แล้วคุณรู้ว่า สิ่งที่ผมพูดอาจจะขวา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Justin Bieber เป็น FTM จะใช้เป็น headcanon ฉัน แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกคนที่เป็นจริง เขาดูเหมือนคนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกว่าสิ่งที่เขาเป็น 4 ปีที่แล้ว นั่นคือจำนวนเงินที่สั้นของเวลาที่จะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทฤษฎีของฉันคือว่าเขาเกิดเพศหญิงและเขาก็ Intersex เพื่อให้แม่ของเขาต้องตัดสินใจที่จะทำให้เขาเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ในขณะที่เขาได้รับเก่าและเป็นเด็กที่เขานำเสนอเป็นชายและเขาได้อัพฮอร์โมนในวัยหนุ่มสาวเพื่อให้หน้าอกของเขาจะไม่เติบโต เขาเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในฮอร์โมนเพศชายยังเมื่อเขาทำให้มันใหญ่ใน youtube และเมื่อชื่อเสียงของเขาเริ่มที่จะเติบโต นั่นเป็นเหตุผลที่เสียงของเขาแหลมสูงและเขาสามารถร้องเพลงได้ดีจริงๆ แล้วแน่นอนเป็นความเกลียดชังที่มาพร้อมกับชื่อเสียง ผมคิดว่าเขาได้เหนื่อยกับการที่ทุกคนเรียกเขาว่าเป็นเกย์และหญิงสาวคนหนึ่งเขาจึงต้องการที่จะเริ่มต้นในฮอร์โมนเพศชายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดถึงเขามอง 12 เมื่อเขาอายุ 15 และเขาเกลียดมองดังนั้นสาว และเขาต้องการฮอร์โมนเพศชายจะรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในร่างกายของเขา ผมคิดว่าในอนาคตเขาอาจจะได้รับ phalloplasty ดังนั้นหากคุณไม่เคยเห็นแขนของจัสตินทุกผ้าพันแผลขึ้นแล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดอาจจะเป็นที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Justin Bieber เป็น ftm . มันเคยเป็น headcanon ของฉัน แต่ตอนนี้ฉันเชื่อว่าทั้งหมดที่เป็นจริง เขาดูเหมือนเป็นคนละคน มากกว่าสิ่งที่เขาเมื่อ 4 ปีก่อน นั่นคือเวลาสั้นเปลี่ยนเร็วมาก ทฤษฎีของฉันก็คือเขาเกิดหญิงและเขาเป็นสัจนิยมแม่ของเขาได้ตัดสินใจที่จะให้เขาเป็นหญิงหรือชายเมื่อเขาโตขึ้นเป็นเด็ก เขาแสดงเป็นผู้ชายและเขาถูกบล็อคฮอร์โมนตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น หน้าอกของเขา จะไม่เติบโต เขาไม่ได้กินฮอร์โมนเพศชายยังเมื่อเขาทำสำเร็จบน YouTube และเมื่อชื่อเสียงของเขาเริ่มที่จะเติบโต นั่นคือทำไมเสียงของเขาสูงแหลมและเขาสามารถร้องเพลงได้ดีจริงๆ แล้วแน่นอน คือ เกลียดที่มาพร้อมกับชื่อเสียงฉันคิดว่าเขาเบื่อที่ทุกคนเรียกเขาว่าเกย์และผู้หญิงที่เขาต้องการที่จะเริ่มต้นฮอร์โมนเพศชายอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดถึง เขาดู 12 เมื่อเขาอายุ 15 เขาเกลียดดูเด็กมาก และเขาต้องการที่จะรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของเขา ฉันคิดว่าในอนาคตเขาอาจจะ phalloplasty ดังนั้นถ้าคุณเคยเห็นจัสตินแขน bandaged ขึ้นทั้งหมด แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดอาจจะถูก