America’s first period of progressi

America’s first period of progressivism, known as the Progressive Era, came at the height of industrialization and urbanization in the United States. Although the goals and the types of reforms that progressives sought during this period differed, perhaps nothing characterizes the Progressive Era better than the impulse to reform. At the time, the United States was characterized by the increasing dominance of large corporations and political party machines, which progressives perceived as a threat to the American ideals of democracy and individual freedom. Corporate dominance inhibited the capacities of the vast majority of Americans to achieve social mobility, and urban-based political party machines were seen as corrupting the democratic process.

In response, progressives challenged laissez-faire ideology by arguing that good government could help solve problems. Progressives promoted, often successfully, a long list of reform legislation at all levels of government, including regulation of railroads, public utilities, and banks; laws protecting women and child laborers; and the passage of workers’ compensation and minimum-wage legislation. Progressives also worked for a progressive income tax; relief for the poor; a host of electoral reforms, including the direct election of senators, direct primaries, referendums, and recalls; voting rights for women; nonpartisan election systems; civil service; and commissionmanager and council-manager forms of local government. Such reforms aimed at strengthening popular sovereignty and produced significant and lasting results, even if some reforms did not lead to intended outcomes.

Progressivism had its roots in the populist movement of the late nineteenth century, as well as the struggles for equality for women and better living conditions for workers. Similar to the response of radical agrarian and working-class groups during the Gilded Age, progressives targeted many of the same problems wrought by industrialization, urbanization, and immigration: the spread of poverty, rapid financial and industrial concentration, and the oligarchic character of the political parties.

As the power of corporations expanded and social strife spread, middle-class social workers established settlement houses and other programs to ameliorate human degradation in city slums. Muckrakers, or investigative journalists, illuminated the corruption of corporate influence in politics and society. Religious groups promoted a social gospel that raised concerns about poverty, corruption, and the concentration of economic power and called on the moral conscience of the nation. Labor unions and workers organized to improve wages and working conditions, and to make business more responsible through regulation. Women organized against child labor, in support of a minimum wage and a maximum number of working hours, and in favor of temperance. Even businessmen joined progressives in attacking political machines and promoting reform regimes. Thus, progressivism included professionals who undermined the foundations of laissez-faire ideology and promoted an ideal of public interest.

Yet progressivism was an uneasy coalition and not a cohesive movement. Progressivism during this period actually encompassed numerous movements for reform on the local, state, and national levels. These movements were diverse and sometimes even mutually antagonistic. Some progressives, such as socialists, sought fundamental change and structural reform to achieve social justice. Other progressives, such as middle-class professionals, strove for social order and more modest reform. Similarly, Protestant patrician reformers differed in their goals, approach, and sensibilities from Catholic, immigrant, and urban liberal progressives. There were also overtly reactionary groups involved in Progressive Era reform efforts, including eugenicists and antiblack and anti-immigrant groups. Thus, the Progressive Era was an ideologically fluid period where particular groups focused on different issues, and shifting coalitions competed to reshape American society. Despite their varying agendas, shared ideals of antimonopolism, efficiency, and social justice propelled and sustained the diverse progressive reform coalitions.

For example, new types of professionals—members of an emerging middle class, and members of religious organizations and business groups—pressed for reforms that focused in particular on urban America. These progressives strove to undermine big-city political machines, which had in many cities retained the loyalty of immigrant working-class voters. Middle-class reformers regarded political machines as inefficient and corrupt, and they attacked the use of government resources as patron-age—whether in the form of jobs for loyal party workers and supporters, or the distribution of municipal franchises, licenses, and contracts to favored businesses, sometimes in exchange for graft. Protestants attacked the toler

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระยะแรกของอเมริกา progressivism เป็นยุคก้าวหน้า มาที่ความสูงของซิซิลีและกลายเป็นเมืองในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าเป้าหมายและชนิดของการปฏิรูปที่ท่านช่วงนี้แตกต่าง บางทีอะไรลักษณะยุคก้าวหน้าดีกว่าแรงกระตุ้นการปฏิรูป ในเวลา ไทยแก้ไขลักษณะปกครองเพิ่มขึ้นของบริษัทขนาดใหญ่และมีพรรคการเมือง ซึ่งท่านมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุดมคติของประชาธิปไตยและเสรีภาพส่วนบุคคลอเมริกัน องค์กรปกครองยับยั้งความสามารถของคนอเมริกันส่วนใหญ่ให้เคลื่อนไหวทางสังคม และพรรคการเมืองตามเครื่องถูกมองว่าเป็นการทำลายกระบวนการประชาธิปไตยตอบ ท่านท้าทาย laissez-faire อุดมการณ์ โดยใช้คำว่า รัฐบาลที่ดีจะช่วยให้แก้ปัญหา ท่านส่งเสริม มักจะประสบความสำเร็จ รายการยาวของกฎหมายปฏิรูปในทุกระดับของรัฐบาล รวมทั้งกฎระเบียบของการรถไฟ สาธารณูปโภค และ ธนาคาร กฎหมายปกป้องผู้หญิง และเด็กคน งาน และเนื้อเรื่องของเงินทดแทนแรงงานและกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ ท่านยังทำงานภาษีก้าวหน้า บรรเทาต่ำ โฮสต์ของการปฏิรูปเลือกตั้ง รวมถึงการเลือกตั้งโดยตรงของวุฒิสมาชิก ตรงสี ตัว และเรียก คืน สิทธิออกเสียงสำหรับผู้หญิง ระบบเลือกตั้ง nonpartisan ราชการพลเรือน และรูปแบบสภาผู้จัดการฝ่ายและ commissionmanager ของรัฐบาลท้องถิ่น ปฏิรูปดังกล่าวมุ่งเสริมสร้างอำนาจอธิปไตยเป็นที่นิยม และผลิต ผลลัพธ์ยาวนาน และที่สำคัญแม้ว่าปฏิรูปบางไม่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตั้งใจProgressivism มีรากของมันในการเคลื่อนไหวประชานิยมของช่วงปลายศตวรรษ เป็นต่อสู้เพื่อความเสมอภาคสำหรับผู้หญิงและสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นสำหรับผู้ปฏิบัติงาน คล้ายกับการตอบสนองของกลุ่มเกษตรกรรม และชนชั้นแรงงานที่รุนแรงในช่วงยุคปิดทอง ท่านเป้าหมายปัญหาเดียวดัด โดยพิพากษา เขตเมือง และตรวจคนเข้าเมือง: การแพร่กระจายของความยากจน ความเข้มข้นทางการเงิน และอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว และตัวละคร oligarchic ของพรรคเป็นพลังขององค์กรขยาย และสังคมปะทะกันแพร่กระจาย ชั้นกลางสังคมสงเคราะห์ก่อตั้งบ้านชำระและโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อลดมนุษย์ในชุมชนแออัดเมือง ameliorate Muckrakers หรือนักข่าวสืบสวน สว่างความเสียหายขององค์กรมีอิทธิพลในการเมืองและสังคม กลุ่มศาสนาส่งเสริมกิตติคุณสังคมที่ยกความกังวลเกี่ยวกับความยากจน การทุจริต และความเข้มข้นของอำนาจทางเศรษฐกิจ และเรียกมโนธรรมศีลธรรมของประเทศ สหภาพแรงงานและแรงงานที่จัดขึ้น เพื่อปรับปรุงค่าจ้างและสภาพการทำงาน และ เพื่อให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบมากขึ้นผ่านกฎระเบียบ ผู้หญิงจัดกับแรงงานเด็ก สนับสนุนค่าแรงขั้นต่ำและจำนวน ของชั่วโมงการทำงาน และในความโปรดปราน ของความพอประมาณ แม้แต่นักธุรกิจเข้าร่วมท่านโจมตีเครื่องจักรทางการเมือง และส่งเสริมการปฏิรูประบอบการปกครอง ดังนั้น progressivism รวมผู้เชี่ยวชาญที่ทำลายรากฐานของอุดมการณ์ laissez-faire และส่งเสริมอุดมคติของประโยชน์สาธารณะยัง progressivism เป็นรัฐบาลไม่สบายใจและไม่มีการเคลื่อนไหวที่เหนียว Progressivism ช่วงนี้จริงห้อมล้อมมากมายเคลื่อนไหวการปฏิรูปในท้องถิ่น รัฐ และระดับประเทศ เคลื่อนไหวเหล่านี้มีหลากหลาย และบางครั้งก็ร่วมกันต่อต้าน บางท่าน เช่นฝ่ายสังคมนิยม ขอเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้เกิดความยุติธรรมทางสังคม ท่านอื่น ๆ เช่นระดับกลางมืออาชีพ strove สำหรับสังคมและปฏิรูปเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น ในทำนองเดียวกัน ปฏิรูปโปรเตสแตนต์ patrician แตกต่างกันในเป้าหมาย วิธีการ และรสนิยมจากคาทอลิก อพยพ และท่านเสรีนิยมที่เมือง ก็มีข้อสรุปนอาจกลุ่มเกี่ยวข้องกับความพยายามก้าวหน้ายุคปฏิรูป รวมทั้ง eugenicists และ antiblack และต่อต้านผู้อพยพกลุ่มนี้ ดังนั้น ยุคก้าวหน้าเป็นระยะเวลาถอยหลังเข้าคลองของเหลวที่เฉพาะกลุ่มเน้นปัญหาแตกต่างกัน และขยับความแข่งขันก่อร่างใหม่สังคมอเมริกัน แม้ มีความแตกต่างกันวาระการประชุม ร่วมอุดมคติของ antimonopolism ประสิทธิภาพ และความยุติธรรมทางสังคมขับเคลื่อน และรักษาความหลากหลายก้าวหน้าปฏิรูปอย่าง ชนิดใหม่ของมืออาชีพ — สมาชิกของชนชั้นกลางเกิดขึ้นใหม่ และสมาชิกขององค์กรทางศาสนาและกลุ่มธุรกิจ — กดปฏิรูปที่มุ่งเน้นโดยเฉพาะอเมริกาในเมือง ท่านเหล่านี้ strove ทำลายเมืองใหญ่ทางการเมืองเครื่อง ซึ่งมีในหลาย ๆ เมืองรักษาความภักดีของผู้ลงคะแนนชนชั้นแรงงานอพยพ ชั้นกลางปฏิรูปถือเครื่องต่ำ และเสียหายทางการเมือง และพวกเขาถูกโจมตีการใช้ทรัพยากรของรัฐบาลเป็นยุคพระคุณ — ไม่ว่า ในรูปของงานสำหรับภักดีพรรคแรงงาน และผู้สนับสนุน หรือการกระจายของแฟรนไชส์เทศบาล ใบอนุญาต และสัญญาที่ชื่นชอบธุรกิจ บางครั้งเพื่อแลกกับการรับสินบน โปรเตสแตนต์โจมตีที่ toler

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่วงแรกของอเมริกา progressivism ที่รู้จักกันในยุคก้าวหน้ามาที่ความสูงของอุตสาหกรรมและกลายเป็นเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าเป้าหมายและประเภทของการปฏิรูปที่ก้าวล้ำขอในช่วงเวลานี้แตกต่างที่อาจจะไม่มีอะไรที่เป็นลักษณะเฉพาะของยุคก้าวหน้าดีกว่าแรงกระตุ้นที่จะปฏิรูป ในขณะที่สหรัฐอเมริกาก็มีลักษณะการปกครองที่เพิ่มขึ้นขององค์กรขนาดใหญ่และเครื่องพรรคการเมืองซึ่งก้าวล้ำมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุดมคติอเมริกันของประชาธิปไตยและเสรีภาพส่วนบุคคล การปกครองขององค์กรยับยั้งความจุส่วนใหญ่ของชาวอเมริกันเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมและเครื่องพรรคการเมืองตามเมืองถูกมองว่าเป็นบ่อนทำลายกระบวนการประชาธิปไตย.

ในการตอบสนองก้าวล้ำท้าทายอุดมการณ์ไม่รู้ไม่ชี้โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลที่ดีจะช่วยแก้ปัญหา ก้าวล้ำการส่งเสริมการลงทุนมักจะประสบความสำเร็จในรายการยาวของการปฏิรูปกฎหมายในทุกระดับของรัฐบาลรวมทั้งกฎระเบียบของการรถไฟสาธารณูปโภคและธนาคาร; กฎหมายปกป้องผู้หญิงและแรงงานเด็ก และทางเดินของค่าตอบแทนแรงงานและค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ก้าวล้ำยังทำงานหารายได้ภาษีก้าวหน้า; บรรเทาสำหรับคนยากจน โฮสต์ของการปฏิรูปการเลือกตั้งรวมทั้งการเลือกตั้งโดยตรงของวุฒิสมาชิกพรรคโดยตรงประชามติและการเรียกคืน; สิทธิในการออกเสียงสำหรับผู้หญิง; ระบบการเลือกตั้งกลาง; ข้าราชการพลเรือน; และ commissionmanager และสภาเทศบาลผู้จัดการรูปแบบของรัฐบาลท้องถิ่น การปฏิรูปดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างอำนาจอธิปไตยที่เป็นที่นิยมและผลิตผลลัพธ์ที่สำคัญและยาวนานแม้ว่าการปฏิรูปบางส่วนไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตั้งใจ.

Progressivism มีรากของมันในการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้าเช่นเดียวกับการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและดีกว่า สภาพความเป็นอยู่สำหรับคนงาน คล้ายกับการตอบสนองของอนุมูลไร่นาและการทำงานระดับกลุ่มในช่วงวัยทองที่ก้าวล้ำการกำหนดเป้าหมายหลายปัญหาเดียวกันกระทำโดยอุตสาหกรรมขยายตัวของเมืองและตรวจคนเข้าเมือง: การแพร่กระจายของความยากจนความเข้มข้นการเงินและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและตัวละครที่ผู้มีอำนาจของ พรรคการเมือง.

ในฐานะที่เป็นอำนาจของ บริษัท ขยายตัวและการปะทะกันทางสังคมการแพร่กระจายสังคมชนชั้นกลางที่จัดตั้งขึ้นบ้านนิคมและโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อเยียวยาความเสื่อมโทรมของมนุษย์อยู่ในสลัมเมือง Muckrakers หรือนักข่าวสืบสวนสว่างความเสียหายจากอิทธิพลขององค์กรในทางการเมืองและสังคม กลุ่มศาสนาพระกิตติคุณส่งเสริมสังคมที่ยกความกังวลเกี่ยวกับความยากจนการทุจริตและความเข้มข้นของอำนาจทางเศรษฐกิจและเรียกจิตสำนึกทางศีลธรรมของประเทศ สหภาพแรงงานและคนงานที่จัดขึ้นเพื่อปรับปรุงค่าจ้างและสภาพการทำงานและเพื่อให้ธุรกิจที่รับผิดชอบมากขึ้นผ่านการควบคุม ผู้หญิงจัดต่อต้านการใช้แรงงานเด็กในการสนับสนุนของค่าจ้างขั้นต่ำและจำนวนสูงสุดของชั่วโมงการทำงานและในความโปรดปรานของความพอประมาณ แม้นักธุรกิจเข้าร่วมก้าวล้ำในการโจมตีเครื่องทางการเมืองและการส่งเสริมระบอบการปฏิรูป ดังนั้น progressivism รวมมืออาชีพที่ทำลายรากฐานของไม่รู้ไม่ชี้อุดมการณ์และส่งเสริมอุดมคติของความสนใจของประชาชน.

แต่ progressivism เป็นรัฐบาลไม่สบายใจและไม่เคลื่อนไหวเหนียว Progressivism ในช่วงเวลานี้จริงห้อมล้อมเคลื่อนไหวมากมายสำหรับการปฏิรูปในท้องถิ่นรัฐและระดับชาติ การเคลื่อนไหวเหล่านี้มีความหลากหลายและบางครั้งก็เป็นปฏิปักษ์ร่วมกัน ก้าวล้ำบางอย่างเช่นสังคมขอเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานและการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้บรรลุความยุติธรรมทางสังคม ก้าวล้ำอื่น ๆ เช่นผู้เชี่ยวชาญด้านชนชั้นกลางพยายามสำหรับการสั่งซื้อทางสังคมและการปฏิรูปเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น ในทำนองเดียวกันการปฏิรูปขุนนางโปรเตสแตนต์แตกต่างกันในเป้าหมายของพวกเขาวิธีการและความรู้สึกจากคาทอลิกผู้อพยพและก้าวล้ำเสรีนิยมเมือง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอนุรักษ์เปิดเผยมีส่วนร่วมในความพยายามปฏิรูปยุคก้าวหน้ารวมทั้ง eugenicists และ antiblack และต่อต้านผู้อพยพกลุ่ม ดังนั้นยุคก้าวหน้าเป็นระยะเวลาของเหลวอุดมการณ์ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มุ่งเน้นในประเด็นที่แตกต่างกันและพันธมิตรขยับการแข่งขันที่จะช่วยพัฒนาสังคมอเมริกัน แม้จะมีวาระการประชุมที่แตกต่างกันของพวกเขาอุดมคติของ antimonopolism มีประสิทธิภาพร่วมกันและความยุติธรรมทางสังคมขับเคลื่อนและยั่งยืนมีความหลากหลายพันธมิตรปฏิรูปก้าวหน้า.

ตัวอย่างเช่นชนิดใหม่ของมืออาชีพสมาชิกของชนชั้นกลางที่เกิดขึ้นใหม่และสมาชิกขององค์กรทางศาสนาและทำธุรกิจในกลุ่มกด การปฏิรูปที่เน้นเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองอเมริกา ก้าวล้ำเหล่านี้พยายามที่จะบ่อนทำลายเครื่องทางการเมืองในเมืองใหญ่ซึ่งมีอยู่ในหลาย ๆ เมืองสะสมความจงรักภักดีของผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้อพยพทำงานระดับ ปฏิรูปชนชั้นกลางที่ได้รับการยกย่องเครื่องทางการเมืองที่ไม่มีประสิทธิภาพและความเสียหายและพวกเขาถูกโจมตีการใช้ทรัพยากรของรัฐบาลในฐานะผู้มีพระคุณวัยไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของงานสำหรับคนงานที่มีความภักดีพรรคและผู้สนับสนุนหรือการกระจายตัวของแฟรนไชส์ในเขตเทศบาลเมืองใบอนุญาตและการทำสัญญากับ ธุรกิจได้รับการสนับสนุนบางครั้งในการแลกเปลี่ยนสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะ โปรเตสแตนต์โจมตี Toler

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คาบแรกของอเมริกา Progressivism เรียกว่ายุคก้าวหน้ามาที่ความสูงของอุตสาหกรรมและการขยายตัวของเมืองในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าเป้าหมายและประเภทของการปฏิรูปที่ progressives ขอในระหว่างรอบระยะเวลานี้ ต่างกัน บางทีอะไร characterizes ยุคก้าวหน้ากว่าแรงกระตุ้นที่จะปฏิรูป ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาเป็นลักษณะโดยการเพิ่มความเด่นขององค์กรขนาดใหญ่และพรรคการเมืองเครื่องซึ่งหัวก้าวหน้ามองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุดมการณ์แบบประชาธิปไตยและเสรีภาพของแต่ละบุคคล การปกครองของยับยั้งความสามารถของส่วนใหญ่ของชาวอเมริกันเพื่อให้บรรลุการเคลื่อนไหวทางสังคม และเมืองตามพรรคการเมืองเครื่องจักรถูกมองว่าเลวร้ายกระบวนการประชาธิปไตยในการตอบสนอง , progressives ท้าทายนโยบายการไม่แทรกเซงอุดมการณ์โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ ความคืบหน้าการส่งเสริมมักจะเรียบร้อยแล้ว รายชื่อยาวของกฎหมายปฏิรูปทุกระดับของรัฐบาล รวมถึงระเบียบของการรถไฟ , สาธารณูปโภค และธนาคาร กฎหมายคุ้มครองแรงงานเด็กและสตรี และทางเดินของแรงงานทดแทนและกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ ความคืบหน้ายังทำงานภาษีก้าวหน้ารายได้ สงเคราะห์คนจน โฮสต์ของการปฏิรูปการเลือกตั้ง รวมทั้งการเลือกตั้งโดยตรงของวุฒิสมาชิกพรรคโดยตรง ประชามติ และเรียกคืน ; สิทธิในการออกเสียงสำหรับผู้หญิง ระบบการเลือกตั้งกลาง ; ข้าราชการพลเรือน และ commissionmanager สภาและจัดการรูปแบบของรัฐบาลท้องถิ่น เช่น การปฏิรูปที่มุ่งเสริมสร้างอธิปไตยของประชาชน และผลิตผลที่สำคัญและยั่งยืน แม้ว่าการปฏิรูปบางอย่างที่ไม่ทำให้วัตถุประสงค์ ผลลัพธ์Progressivism มีรากในการเคลื่อนไหวของศตวรรษที่สิบเก้าปลายประชานิยม ตลอดจนการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันของหญิง และดีกว่าสภาพความเป็นอยู่ของคนงาน คล้ายกับการตอบสนองของสังคมชนชั้นกรรมกรกลุ่มหัวรุนแรงและในระหว่างอายุทอง , progressives เป้าหมายหลายปัญหาเดียวกัน กระทำ โดยอุตสาหกรรม ความเป็นเมือง และตรวจคนเข้าเมือง : การแพร่กระจายของความยากจน สมาธิทางการเงินและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว และ oligarchic ตัวละครของพรรคการเมืองเป็นพลังงานของ บริษัท ขยาย และกระจายการสังคมชั้นกลางนักสังคมสงเคราะห์ก่อตั้งนิคมบ้านและโปรแกรมอื่น ๆเพื่อให้การย่อยสลายของมนุษย์ในเมืองสลัม muckrakers หรือนักข่าวสืบสวน , สว่างการทุจริตของอิทธิพลของการเมืองและสังคม กลุ่มศาสนาส่งเสริมพระกิตติคุณทางสังคมที่ยกความกังวลเกี่ยวกับความยากจน การทุจริต และความเข้มข้นของอำนาจทางเศรษฐกิจและเรียกร้องคุณธรรม จริยธรรมของคนในชาติ สหภาพแรงงานและคนงานจัดปรับปรุงค่าจ้างและสภาพการทำงาน และเพื่อให้ธุรกิจรับผิดชอบมากขึ้นผ่านระเบียบ สตรีการต่อต้านแรงงานเด็กในการสนับสนุนของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและจำนวนสูงสุดของชั่วโมงการทำงาน และในความโปรดปรานของเทมเพอแรนซ์ แม้แต่นักธุรกิจหัวก้าวหน้าเข้าร่วมในการโจมตีเครื่องทางการเมืองและการส่งเสริมการปฏิรูประบบ . ดังนั้น Progressivism รวมผู้เชี่ยวชาญที่บั่นทอนรากฐานของ Laissez Faire อุดมการณ์และส่งเสริมอุดมคติของประโยชน์สาธารณะยังเป็นพันธมิตรไม่สบายใจ Progressivism และไม่เหนียว การเคลื่อนไหว ในช่วงระยะเวลานี้ที่จริง encompassed Progressivism ความเคลื่อนไหวมากมายเพื่อการปฏิรูปในรัฐท้องถิ่นและระดับชาติ ขบวนการเหล่านี้มีหลากหลายและบางครั้งแม้แก่ปฏิปักษ์ บาง progressives เช่นสังคมนิยมและการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน และการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ความคืบหน้าอื่น ๆเช่น รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านหนึ่งเพื่อจัดระเบียบสังคมและการปฏิรูปเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น โปรเตสแตนต์ปฏิรูปและขุนนางต่างในเป้าหมายของพวกเขา วิธีการ และความรู้สึกจากคาทอลิก ผู้อพยพ และเมืองเสรีนิยม progressives . ยังมีอย่างเปิดเผยนะกลุ่มที่เกี่ยวข้องในความพยายามปฏิรูปยุคก้าวหน้า รวมทั้ง eugenicists antiblack และกลุ่มต่อต้าน และผู้อพยพ ดังนั้นยุคก้าวหน้าเป็น ideologically ของไหลช่วงเวลาที่โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นในประเด็นที่แตกต่าง และเปลี่ยนรูปร่าง พันธมิตร เข้าสังคมอเมริกัน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงวาระร่วมอุดมการณ์ของ antimonopolism ประสิทธิภาพและความเป็นธรรมในสังคม และมีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนขับเคลื่อนการปฏิรูปพันธมิตร .ตัวอย่างเช่น รูปแบบใหม่ของผู้เชี่ยวชาญ สมาชิกของชนชั้นกลางใหม่ และสมาชิกขององค์กรศาสนาและกลุ่มธุรกิจกดการปฏิรูปที่เน้นเฉพาะในเมืองอเมริกา ความคืบหน้าเหล่านี้พยายามจะทำลายเมืองใหญ่เมืองซึ่งมีหลายเมืองรักษาความจงรักภักดีของชนชั้นกรรมกรต่างด้าวผู้ลงคะแนนเสียง ปฏิรูปการเมืองเป็นชนชั้นกลางว่าเครื่องไม่มีประสิทธิภาพและทุจริต และพวกเขาโจมตีการใช้ทรัพยากรของรัฐบาลในฐานะผู้อุปถัมภ์อายุไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของงานสำหรับงานปาร์ตี้ซื่อสัตย์และผู้สนับสนุน หรือการกระจายของแฟรนไชส์ เทศบาลใบอนุญาตและสัญญาที่ชื่นชอบธุรกิจ บางครั้งในการแลกเปลี่ยนสำหรับการรับสินบน โจมตี toler โปรเตสแตนต์