Plants : The Next Petroleum ?ENERGY

Plants : The Next Petroleum ?

ENERGY FROM PLANTS

Inventors of early automobiles like Henry Ford and Rudolf Diesel in the late 1800s and early 1900s expected that the engines of their cars would run on fuels derived from plants, but then cheap petroleum became popular. So the cars that were used by the general public ran on gas.
Nowadays, with rising oil prices and growing ecological awareness, biofuels are more and more in demand and will be replacing petroleum as a source of power for cars, trucks, and aircraft in the future. Biofuels are made from plants and vegetable oils and other things that grow in nature. So they are renewable sources of energy.
Biofuels produce less carbon dioxide than petroleum fuels, and therefore they do not contribute as much to global warming. They also produce fewer toxins, which contribute to respiratory diseases in people in many cities. While nature takes billions of years to make oil,biofuel in limited only by growth rates of plants and the availability of farmland. Biodiesel and ethanol are two types of biofuels.

BIODIESEL

Biodiesel is a fuel that is made from materials such as vegetable oils, animal fats, and waste matter. In the case of waste matter, a year’s worth of Europe’s used cooking oil could produce more than a billion liters of biodiesel fuel. In order to convert starchy and oily plants like repeseed and soybean fats into biodiesel, they have to be heated. After processing, unlike regular vegetable oil, biodiesel has combustible properties very similar to petroleum diesel, and can replace it in most cases. Biodiesel is a good possibility to replace fossil fuels as the world’s primary energy source for vehicles. There are two reasons for this : biodiesel can be used in current car engines, and it can be transported and sold using existing infrastructures.

ETHANOL

Ethanol, also known as grain alcohol, is produced from starchy grains like corn or from sugarcane. It can be used by itself or added to gasoline. Ethanol cuts down on polluting emissions but it produces less energy per liter than gasoline. However, the cost of the fuel is as little as half the cost of gasoline in countries like Brazil, which is the world’s biggest ethanol producer. In Brazil, the fuel can be found at every service station from downtown Rio de Janeiro to the remote Amazon region.

FOOD OR FUEL?

Although the advantages of renewable nonpolluting fuels are clear, there are many who object to their use as an alternative source of energy. They say that growing plants for fuel production could divert agricultural production away from growing crops for food in a hungry world, and less food could lead to more starvation in poor countries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พืช: ถัดไปปิโตรเลียมหรือไม่พลังงานจากพืชนักประดิษฐ์รถยนต์ก่อนเช่นเฮนรีฟอร์ด และรูดอล์ฟดีเซลเพราะปลายและภาพกลายต้นคาดว่า เครื่องยนต์ของรถยนต์ของพวกเขาจะเรียกใช้เชื้อเพลิงที่ได้มาจากพืช แต่แล้ว ประหยัดน้ำมันเป็นที่นิยม ดังนั้น รถยนต์ที่ใช้ โดยประชาชนวิ่งแก๊ส ปัจจุบัน เพิ่มขึ้นราคาน้ำมันและการเติบโตตระหนักในระบบนิเวศ เชื้อเพลิงชีวภาพมีมากในความต้องการ และจะถูกแทนปิโตรเลียมเป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ รถบรรทุก และเครื่องบินในอนาคต เชื้อเพลิงชีวภาพที่ทำจากพืช และน้ำมันพืช และสิ่งอื่น ๆ ที่เติบโตในธรรมชาติ ดังนั้น พวกเขาเป็นแหล่งพลังงานทดแทน เชื้อเพลิงชีวภาพผลิตคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง และดังนั้น พวกเขาไม่สนับสนุนเป็นภาวะโลกร้อน นอกจากนี้พวกเขายังผลิตสารพิษน้อยลง ซึ่งนำไปสู่โรคทางเดินหายใจในคนในหลายเมือง ในขณะที่ธรรมชาติใช้พันล้านปีเพื่อให้น้ำมัน เชื้อเพลิงชีวภาพในจำกัดเท่านั้นโดยอัตราการเจริญเติบโตของพืช และความพร้อมของพื้นที่การเกษตร ไบโอดีเซลและเอทานอลอยู่สองชนิดของเชื้อเพลิงชีวภาพไบโอดีเซล ไบโอดีเซลคือ เชื้อเพลิงที่ทำจากวัสดุเช่นน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ และเรื่องเสีย ในกรณีของเรื่องเสีย คุ้มน้ำมันปรุงอาหารใช้ของยุโรปในปีสามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลมากกว่าพันล้านลิตร เพื่อแปลงพืชฟูม และมันเช่นไขมัน repeseed และถั่วเหลืองเป็นไบโอดีเซล พวกเขาจะต้องถูกความร้อน หลังจากประมวลผล ซึ่งแตกต่างจากน้ำมันพืชทั่วไป ไบโอดีเซลมีคุณสมบัติคล้ายกับน้ำมันดีเซลเผาไหม้ และสามารถแทนได้ส่วนใหญ่ ไบโอดีเซลเป็นไปได้ดีเพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกยานยนต์ มีอยู่สองประการนี้: ไบโอดีเซลสามารถใช้ได้ในปัจจุบันรถยนต์ และสามารถขนส่ง และขายโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เอทานอลผลิตเอทานอล หรือที่เรียกว่าเอทิลแอลกอฮอล์ จากฟูมธัญพืชเช่นข้าวโพด หรืออ้อย สามารถใช้ ด้วยตัวเอง หรือเพิ่มน้ำมัน เอทานอลลดการปล่อย polluting แต่มันผลิตพลังงานต่อลิตรน้อยกว่าเบนซิน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีทุนน้อยเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำมันเบนซินในประเทศเช่นบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในบราซิล เชื้อเพลิงสามารถพบในทุกสถานีบริการจากเมืองริโอเดอจาเนโรสู่ภูมิภาค Amazon ระยะไกลอาหารหรือเชื้อเพลิงแม้ว่าข้อดีของเชื้อ nonpolluting ทดแทนอย่างชัดเจน มีหลายคนที่วัตถุเพื่อใช้เป็นทางเลือกของพลังงาน พวกเขากล่าวว่า ปลูกพืชผลิตเชื้อเพลิงสามารถสำราญเกษตรจากการปลูกพืชอาหารในโลกหิว และอาหารน้อยอาจนำไปสู่ความอดอยากเพิ่มเติมในประเทศที่ยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พืช: ปิโตรเลียมต่อไปพลังงานจากพืชประดิษฐ์ของรถยนต์ในช่วงต้นเช่นเฮนรี่ฟอร์ดและรูดอล์ฟดีเซลในช่วงปลายปี 1800 และต้นปี 1900 ที่คาดว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์ของพวกเขาจะทำงานบนเชื้อเพลิงที่ได้จากพืช แต่แล้วปิโตรเลียมราคาถูกกลายเป็นที่นิยม ดังนั้นรถที่ถูกนำมาใช้โดยประชาชนทั่วไปวิ่งบนก๊าซ. ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและการเจริญเติบโตของการรับรู้ระบบนิเวศเชื้อเพลิงชีวภาพมีมากขึ้นในความต้องการและจะถูกแทนที่ปิโตรเลียมเป็นแหล่งที่มาของพลังงานสำหรับรถยนต์รถบรรทุกและเครื่องบิน อนาคต เชื้อเพลิงชีวภาพที่ทำจากพืชและน้ำมันพืชและสิ่งอื่น ๆ ที่เจริญเติบโตในธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน. เชื้อเพลิงชีวภาพผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียมและดังนั้นพวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่าที่จะลดภาวะโลกร้อน พวกเขายังผลิตสารพิษน้อยลงซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคระบบทางเดินหายใจในคนในหลาย ๆ เมือง ในขณะที่ธรรมชาติใช้เวลาหลายพันล้านปีที่จะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพใน จำกัด ด้วยอัตราการเจริญเติบโตของพืชและความพร้อมของพื้นที่เพาะปลูก ไบโอดีเซลและเอทานอลเป็นสองประเภทของเชื้อเพลิงชีวภาพ. ไบโอดีเซลไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่ทำจากวัสดุเช่นน้ำมันพืชไขมันสัตว์และของเสีย ในกรณีของเรื่องเสียมูลค่าปีของน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้ยุโรปสามารถผลิตมากกว่าหนึ่งพันล้านลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล เพื่อที่จะแปลงพืชแป้งและมันเหมือน repeseed และไขมันถั่วเหลืองเป็นไบโอดีเซล, พวกเขาจะต้องได้รับความร้อน หลังจากการประมวลผลที่แตกต่างจากน้ำมันพืชปกติไบโอดีเซลมีคุณสมบัติที่ติดไฟได้คล้ายกับน้ำมันดีเซลและสามารถแทนที่ในกรณีส่วนใหญ่ ไบโอดีเซลเป็นไปได้ที่ดีที่จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกสำหรับยานพาหนะ มีสองเหตุผลนี้คือ. ไบโอดีเซลสามารถนำมาใช้ในเครื่องยนต์รถในปัจจุบันและที่จะสามารถเคลื่อนย้ายและการขายโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เอทานอลเอทานอลที่เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมล็ดพืชที่ผลิตจากธัญพืชแป้งเช่นข้าวโพดหรือจากอ้อย มันสามารถใช้ด้วยตัวเองหรือเพิ่มกับน้ำมันเบนซิน เอทานอลลดลงในการปล่อยมลพิษ แต่มันผลิตพลังงานน้อยกว่าน้ำมันเบนซินลิตรละ แต่ค่าใช้จ่ายของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายของน้ำมันเบนซินในประเทศเช่นบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในบราซิลเชื้อเพลิงสามารถพบได้ในทุกสถานีบริการจากตัวเมืองริโอเดอจาเนโรในภูมิภาค Amazon ระยะไกล. อาหารหรือเชื้อเพลิง? แม้ว่าข้อดีของเชื้อเพลิงทดแทน nonpolluting มีความชัดเจนมีหลายคนคัดค้านการใช้งานของพวกเขาเป็นแหล่งทางเลือกของ พลังงาน พวกเขาบอกว่าการปลูกพืชสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงสามารถเบี่ยงเบนความสนใจการผลิตทางการเกษตรออกไปจากการปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารในโลกที่หิวและอาหารน้อยลงอาจนำไปสู่ความอดอยากมากขึ้นในประเทศที่ยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พืช : ปิโตรเลียมต่อไป

พลังงานจากพืช

นักประดิษฐ์ต้นเช่นรถยนต์ฟอร์ดและรูดอล์ฟดีเซลในปลาย 1800 และต้นปี 1900 คาดว่าเครื่องยนต์ของรถของพวกเขาจะใช้เชื้อเพลิงที่ได้จากพืช แต่น้ำมันราคาถูก กลายเป็นที่นิยม ดังนั้นรถที่ถูกใช้ โดยสาธารณะทั่วไป วิ่งแก๊ส .
ยุคปัจจุบัน ด้วยการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และนิเวศวิทยาเชื้อเพลิงชีวภาพมีมากขึ้นในความต้องการ และจะเปลี่ยนน้ำมันเป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ รถบรรทุก และอากาศยานในอนาคต เชื้อเพลิงชีวภาพที่ทำจากพืชและน้ำมันผักและสิ่งอื่น ๆ ที่เติบโตในธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นแหล่งพลังงานทดแทน .
เชื้อเพลิงชีวภาพผลิตคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียม และดังนั้น พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมมากในภาวะโลกร้อนพวกเขายังสร้างสารพิษน้อยลง ซึ่งส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจในผู้คนในเมืองมากมาย ในขณะที่ธรรมชาติใช้เวลาเป็นพันล้านปีจะทำให้น้ำมันไบโอดีเซลจำกัดเท่านั้น โดยอัตราการเติบโตของพืช และความพร้อมของฟาร์ม ไบโอดีเซลและเอทานอลเป็นสองประเภทของเชื้อเพลิงชีวภาพ .



ไบโอดีเซลไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น น้ำมันพืช ไขมันสัตว์ และปัญหาขยะในกรณีของเรื่องเสียมูลค่าปีของยุโรปที่ใช้น้ำมันปรุงอาหารมากกว่าพันล้านลิตร สามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อแปลงพืชแป้ง และมันเหมือนเรปซีดและถั่วเหลืองไขมันเป็นไบโอดีเซล จะอุ่น หลังจากการประมวลผล ซึ่งแตกต่างจากน้ำมันพืชทั่วไป ไบโอดีเซลมีคุณสมบัติติดไฟได้คล้ายกับน้ำมันดีเซลปิโตรเลียมและสามารถแทนที่ ในกรณีส่วนใหญ่ ไบโอดีเซล เป็นโอกาสที่ดีที่จะแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกสำหรับยานพาหนะ มีสองเหตุผลนี้ : ไบโอดีเซลสามารถใช้ในเครื่องยนต์รถปัจจุบัน และสามารถขนส่ง และขายโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่



เอทานอล เอทานอล หรือที่เรียกว่าเหล้าข้าว ผลิตจากธัญพืชเช่นข้าวโพดหรือแป้งจากอ้อยสามารถใช้ด้วยตัวเองหรือเพิ่มน้ำมัน เอทานอลลดปริมาณการปล่อยมลพิษ แต่สร้างน้อยกว่าพลังงานต่อลิตรกว่าน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนของเชื้อเพลิงที่เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายของน้ำมันเบนซินในประเทศเช่นบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในบราซิลเชื้อเพลิงสามารถพบได้ในทุกสถานีบริการจากเมืองริโอ เดอ จาเนโรไปยังภูมิภาค Amazon ระยะไกล

อาหารหรือเชื้อเพลิง ?

ถึงแม้ว่าข้อดีของเชื้อเพลิงทดแทน nonpolluting ชัดเจน มีหลายคนที่คัดค้านการใช้ของพวกเขาเป็นแหล่งทางเลือกของพลังงานพวกเขาบอกว่าปลูกพืชสำหรับผลิตเชื้อเพลิงสามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการผลิตทางการเกษตร การปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารในโลกหิวและอาหารน้อยลง อาจนำไปสู่ความอดอยากมากขึ้นในประเทศที่ยากจน