Wat Benchamabophit (The Marble Temp

Wat Benchamabophit (The Marble Temple)

The Marble Temple
Located in Dusit, Wat Benchamabophit Dusitvanaram or The Marble Temple, is one of Bangkok's most modern and yet striking temples. Building began in 1899, shortly after completion of nearby Dusit Palace, when King Chululongkorn (King Rama V) asked his half-brother, Prince Narris, to design him a temple.

The result is a dazzling Ubosot (ordination hall) cast in white Carara Italian marble and with three-tiered roof - an excellent example of modern Thai architecture, with beautiful features from near and afar. This T-shaped structure contains an exquisite Sukothai-style Buddha replica called Phra Buddha Chinarahat, the original of which is located in Wat Mahatat. Interned in the base beneath it are the ashes of King Chulalongkorn.

The courtyard exhibits 52 local and foreign Buddha images from the period (33 originals and 20 copies). Each one is different in style and pose, with highlights including the Buddha in walking posture statue, and subduing Mara posture statue. Behind the cloister is a large Bodhi Tree, bought as a gift for King Rama V from Bod Gaya, the place of Buddha's enlightenment. There is also a 'Sala Nam' (water pavilion) and, in between the monks and people area, several bridges in a variety of styles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัด Benchamabophit (วัดหินอ่อน)

วัดหินอ่อน
อยู่ในดุสิต วัด Benchamabophit Dusitvanaram หรือวัดหินอ่อน เที่ยววัดยังโดดเด่น และทันสมัยที่สุดของกรุงเทพฯ อาคารเริ่ม ในไม่ช้าหลังจากเสร็จใกล้เคียงพระราชวังดุสิต เมื่อพระ Chululongkorn (พระจุลจอมเกล้า) ถามเขา half-brother เจ้า Narris การออกแบบเขาวัด

ผลคือ การจำกัดอุโบสถ (อุโบสถ) โยนหินอ่อนอิตาลี Carara สีขาว และ มี หลังคาชั้นที่ 3 - ตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ไทย มีคุณลักษณะสวยงามจากใกล้ และไกล โครงสร้างนี้ T-รูปประกอบด้วยแบบจำลองพระพุทธรูปแบบสุโขทัยงดงามที่เรียกว่าพระพุทธ Chinarahat ต้นฉบับที่อยู่ในวัด Mahatat คนในฐานใต้มันเป็นขี้เถ้าของกษัตริย์จุฬาลงกรณ์

52 ภายในจัดแสดงโรงแรมคอร์ทยาร์ด และภาพพระพุทธเจ้าต่างจากรอบระยะเวลา (33 ต้นฉบับและสำเนา 20) กันในลักษณะและก่อให้เกิด กับไฮไลท์รวมถึงพระในห้องรูปปั้นท่าทาง และ subduing โรงแรมมาราท่ารูปปั้น หลังวิหารคดนี้จะมีต้นโพธิ์ใหญ่ ซื้อเป็นของขวัญสำหรับรัชกาลจากกาย่า Bod สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมี 'ศาลาน้ำ' (ศาลาน้ำ) และ ระหว่างพระสงฆ์และคน พื้นที่ สะพานต่าง ๆ ในหลากหลายรูปแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ( วัดหินอ่อน )


อยู่ในวัดเบญจมบพิตรดุสิต วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หรือวัดหินอ่อน เป็นหนึ่งใน กรุงเทพ สุดทันสมัย และยังโจมตีวัด เริ่มสร้างใน 1899 , หลังจากเสร็จสิ้นที่พระราชวังดุสิต เมื่อกษัตริย์ chululongkorn ( รัชกาลที่ 5 ) ถามเขาครึ่งพี่ชายของเจ้าชาย narris การออกแบบ เขาวัด

ผลที่ได้คืออุโบสถพราว ( พระอุโบสถวัดพระแก้ว ) หล่อในไวท์คาราร่าอิตาลีหินอ่อนและสามฉัตรหลังคา - ตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมโมเดิร์นที่สวยงามกับคุณสมบัติจากใกล้และไกล โครงสร้างนี้มีลักษณะสวยงาม T รูปสุโขทัยพระพุทธรูปจำลอง เรียกว่า พระพุทธ chinarahat , เดิมซึ่งตั้งอยู่ในวัดกิ .ฝึกงานในฐานใต้มันเป็นขี้เถ้าของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว .

ลานจัดแสดงพระพุทธรูปจาก 52 ในประเทศและต่างประเทศ ระยะเวลา ( 33 ต้นฉบับและ 20 ชุด ) แต่ละตัวจะแตกต่างกันในลักษณะ และท่าทาง กับไฮไลท์ ได้แก่ พระพุทธรูป รูปปั้นในท่าเดินและการขจัดมารท่ารูปปั้น หลังกุฏิมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ซื้อเป็นของขวัญสำหรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากบี กายา สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีนัม ' ' ศาลาน้ำ ( ศาลา ) และ ระหว่างพระสงฆ์และประชาชนในพื้นที่ หลายสะพานในความหลากหลายของรูปแบบ