Results show that in biofertilizer

Results show that in biofertilizer treatment results in relatively low pH, which is optimum for solubilisation of bound
elements. Soil becomes alkaline after the treatment of chemical fertilizers. There is reduction of solubility of many nutrients
(Figure-a) and the soil treated with biofertilizer had high EC which is optimum for better plant growth (Figure-a).Results
shows that highest value of organic carbon in control followed by chemical fertilizer treated soil and least value in
biofertilizer treated soils. (Figure-b).Highest concentration of the nitrogen was found in control, followed by treated soil
with chemical fertilizer and lowest in treated soil with biofertilizer. The use of Chemical fertilizer has decreased the in
recent years, although it is a very good source of nitrogen. Application of biofertilizers decreases the nitrogen value in soil
(Figure-c). Chemical and biofertilizer treated soil results in optimum value of potassium which is less in control condition
(Figure-d).It was recorded that the chemical fertilizer treated soil shows highest concentration of phosphorus and
biofertilizers treated soil shows optimum concentration of phosphorus. On the other hand less concentration of phosphorous
was recorded in control condition. Excess availability of phosphorus in soils is often limited by fixation reactions, which
convert the ion into various insoluble forms and optimum availability of Phosphorus compounds act as energy currency
within the plants and involve in wide range of plant processes from permitting cell division to developing good root system.
Dutta et al,(2003)[9] reported that NPK played significant role in sustaining soil fertility and productivity of crop. Also a
higher positive effect on microbial biomass and hence soil health. Similar result were found by Chand et al, (2006)[10] and
Bokhtiar and Sakurai, (2005)[11].Figure-f shows that application of biofertilizer increases the level of micronutrients (Cu,
Zn, Fe and Mn) in soil and makes the soil healthy as compared to the chemical fertilizer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์แสดง biofertilizer ว่าในผลการรักษาในค่า pH ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นที่เหมาะสมสำหรับ solubilisation ของขอบองค์ประกอบ ดินเป็นด่างหลังการรักษาของปุ๋ยเคมี มีลดการละลายของสารอาหารมากมาย(รูปที่) และดินด้วย biofertilizer EC สูงซึ่งเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชดีขึ้น (รูปที่) ผลลัพธ์แสดงค่าสูงสุดของคาร์บอนอินทรีย์ในตาม ด้วยปุ๋ยเคมีรักษาดินและค่าน้อยที่สุดในการควบคุมbiofertilizer รักษาดิน (รูป b) ความเข้มข้นสูงสุดของไนโตรเจนที่พบในควบคุม ตาม ด้วยรักษาดินปุ๋ยเคมีและต่ำสุดในรักษาดิน biofertilizer ลดการใช้ปุ๋ยเคมีการในปี แม้ว่าจะเป็นแหล่งดีของไนโตรเจน โปรแกรมของ biofertilizers ลดค่าไนโตรเจนในดิน(รูป c) สารเคมีและ biofertilizer รักษาดินผลลัพธ์ในค่าที่เหมาะสมของโพแทสเซียมที่น้อยในสภาพควบคุม(รูป d) บันทึกว่า ดินปุ๋ยเคมีถือว่าแสดงความเข้มข้นสูงสุดของฟอสฟอรัส และbiofertilizers ถือว่าเข้มข้นที่เหมาะสมแสดงดินของฟอสฟอรัส บนมืออื่น ๆ ที่น้อยกว่าความเข้มข้นของฟอสฟอรัสบันทึกในสภาพควบคุม พร้อมส่วนเกินของฟอสฟอรัสในดินมักจะถูกจำกัด โดยปฏิกิริยาตรึง ซึ่งแปลงไอออนที่เป็นรูปแบบที่ไม่ละลายน้ำและพร้อมที่เหมาะสมของพระราชบัญญัติสารประกอบฟอสฟอรัสเป็นพลังงานสกุลเงินภายในพืชและในพืชกระบวนการจากการแบ่งเซลล์เพื่อการพัฒนาระบบรากที่ดีเอื้ออำนวยมากมายบินายัคดัตตา et al,(2003) [9] รายงานว่า NPK เล่นบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผลผลิตของพืชและความอุดมสมบูรณ์ของดิน นอกจากนี้ยังมีบวกสูงขึ้นส่งผลกระทบในชีวมวลจุลินทรีย์ และดินสุขภาพดังนั้น ผลคล้ายพบโดยแชนด์ et al, (2006) [10] และBokhtiar และสาว ๆ, (2005) [11] รูป f แสดงว่า โปรแกรมประยุกต์ของ biofertilizer เพิ่มระดับของธาตุอาหาร (CuZn, Fe และ Mn) ในดินและทำให้ดินแข็งเป็นเมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์จะแสดงในผลลัพธ์ปุ๋ยชีวภาพรักษา pH ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นที่เหมาะสมสำหรับ solubilisation ของผูกองค์ประกอบ ดินที่เป็นด่าง หลังจากการรักษาของปุ๋ยเคมี มีการลดการละลายของสารอาหารมากมาย( figure-a ) และดินที่ได้รับการรักษาด้วยปุ๋ยชีวภาพมีสูง EC ซึ่งเป็นที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชได้ดี ( figure-a ) ผลลัพธ์พบว่ามีค่าของอินทรีย์คาร์บอนในการควบคุมตามด้วยปุ๋ยเคมี รักษาดินและมูลค่าน้อยปุ๋ยชีวภาพรักษาดิน ( figure-b ) มีความเข้มข้นของไนโตรเจนที่พบในการควบคุม ตามด้วยการรักษาดินกับปุ๋ยเคมีและถูกที่สุดในการรักษาดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ . การใช้ปุ๋ยเคมีลดลงในที่ผ่านมา แม้ว่ามันเป็นแหล่งที่ดีมากของไนโตรเจน การใช้ปุ๋ยชีวภาพค่าไนโตรเจนในดินลดลง( figure-c ) เคมีและปุ๋ยชีวภาพรักษาดินผลลัพธ์ในค่าที่เหมาะสมของโพแทสเซียมซึ่งน้อยในสภาพควบคุม( figure-d ) มันถูกบันทึกไว้ว่า ปุ๋ยเคมี รักษาดินแสดงความเข้มข้นของฟอสฟอรัส และสูงสุดปุ๋ยชีวภาพรักษาดินแสดงความเข้มข้นที่เหมาะสมของฟอสฟอรัส บนมืออื่น ๆน้อยลง ความเข้มข้นของฟอสฟอรัสถูกบันทึกอยู่ในภาวะควบคุมได้ ส่วนเกินของฟอสฟอรัสในดินและมักจะ จำกัด โดยปฏิกิริยาการตรึงซึ่งแปลงไอออนในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่ละลายน้ำและห้องว่างที่เหมาะสมของสารประกอบฟอสฟอรัสเป็นแลกเปลี่ยนพลังงานในพืชและมีส่วนร่วมในช่วงกว้างของกระบวนการแบ่งเซลล์ของพืช จากการอนุญาตให้พัฒนา ระบบรากดีอาทิ et al ( 2003 ) [ 9 ] รายงานว่า ให้เล่นมีบทบาทสำคัญในรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตของพืช นอกจากนี้สูงบวกมีผลต่อจุลินทรีย์ ดังนั้นดินและสุขภาพ ผลที่คล้ายกันที่พบโดย Chand et al , ( 2006 ) [ 10 ] และbokhtiar และ ซากุราอิ ( 2548 ) [ 11 ] figure-f แสดงให้เห็นว่า การใช้ปุ๋ยชีวภาพ เพิ่มระดับสารอาหารรอง ( CUZn , Fe และ Mn ) ในดิน และทำให้ดินแข็งแรงเมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมี .