Hydraulic fracturing, also known as

Hydraulic fracturing, also known as “fracking” is the process by which natural gas is removed from the earth by the use of pressurized, chemically treated water to brake apart the rock that contains natural gas under the earth’s surface.

Environmental concerns include the potential contamination of ground water, risks to air quality, and the health risks associated with these concerns, such as cancer. There are many documented cases of suspected contamination of groundwater, and in December of 2011 the U.S. Environmental Protection Agency issued a draft report indicating that the groundwater in a Wyoming aquifer contained gasoline, diesel fuel, BTEX (benzene, toluene, ethylbenzene, xylene), naphthalenes, isopropanol, and synthetic chemicals.1

And a recent Cornell University study confirmed that significant amounts of methane are escaping into the atmosphere during natural gas fracking. Natural gas is mostly methane, which is a much more potent greenhouse gas, especially in the short term, with 105 times more warming impact, pound for pound, than carbon dioxide (CO2). The study estimates that as much as 8 percent of the methane in shale gas leaks into the air during the lifetime

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไฮดรอลิก fracturing ยัง เรียกว่า "fracking" เป็นกระบวนการที่ก๊าซธรรมชาติจะถูกลบออกจากแผ่นดิน โดยการใช้หนี สารเคมีรักษาน้ำห้ามแยกหินที่ประกอบด้วยก๊าซธรรมชาติภายใต้ผิวโลกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้แก่การปนเปื้อนที่มีศักยภาพของน้ำใต้ดิน ความเสี่ยงด้านคุณภาพอากาศ และความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความกังวลเหล่านี้ เช่นมะเร็ง มีหลายกรณีที่เอกสารของสงสัยการปนเปื้อนของน้ำบาดาล และ 2554 ธันวาคมสถาบันคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐออกร่างรายงานเพื่อระบุว่า น้ำบาดาลไวโอมิง aquifer ที่ประกอบด้วยเบนซิน น้ำมันดีเซล BTEX (เบนซีน โทลูอีน เอทิล ไซ), naphthalenes, isopropanol และ chemicals.1 สังเคราะห์และการศึกษาวิทยาลัยคอร์เนลล่าสุดยืนยันว่า มีการหนีจำนวนมีเทนที่สำคัญบรรยากาศระหว่างก๊าซธรรมชาติ fracking ก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่เป็นมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกมีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะสั้น มีผลกระทบเวลา 105 มากร้อน pound ตัว pound กว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) การศึกษาประเมินว่า ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ของมีเทนในดินดานแก๊สรั่วไหลไปในอากาศในระหว่างอายุการใช้งาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

fracturing ไฮโดรลิยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "fracking" เป็นกระบวนการที่ก๊าซธรรมชาติจะถูกลบออกจากพื้นดินโดยการใช้แรงดันน้ำการรักษาทางเคมีเบรกนอกเหนือหินที่มีก๊าซธรรมชาติภายใต้พื้นผิวของโลก. ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมรวมถึงการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้น น้ำพื้นดินมีความเสี่ยงต่อคุณภาพอากาศและความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความกังวลเหล่านี้เช่นโรคมะเร็ง มีหลายกรณีที่เอกสารของการปนเปื้อนที่ต้องสงสัยว่ามีน้ำใต้ดินและในเดือนธันวาคมของปี 2011 หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐออกรายงานฉบับร่างระบุว่าน้ำบาดาลในรัฐไวโอมิงน้ำแข็งที่มีน้ำมันเบนซินน้ำมันดีเซล BTEX (เบนซีนโทลูอีน, ethylbenzene ไซลีน) naphthalenes, isopropanol และ chemicals.1 สังเคราะห์และการศึกษามหาวิทยาลัยคอร์เนลเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการยืนยันว่าจำนวนเงินที่สำคัญของก๊าซมีเทนจะหนีออกสู่ชั้นบรรยากาศในช่วง fracking ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะสั้นที่มี 105 ครั้งส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนมากขึ้นปอนด์สำหรับปอนด์กว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) การศึกษาประมาณการว่ามากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 8 ของก๊าซมีเทนในการรั่วไหลก๊าซจากชั้นหินในอากาศในช่วงชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไฮดรอลิ fracturing หรือที่เรียกว่า " fracking ” คือ กระบวนการ ซึ่งก๊าซธรรมชาติจะถูกลบออกจากโลกโดยการใช้แรงดัน , เคมีน้ำเบรกกันหินที่มีก๊าซธรรมชาติภายใต้พื้นผิวโลก

กังวลด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงศักยภาพการปนเปื้อนของน้ำบาดาล , ความเสี่ยงต่อคุณภาพอากาศและ ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความกังวลเหล่านี้เช่น มะเร็ง มีหลายกรณีศึกษาของการปนเปื้อนของน้ำใต้ดินที่ต้องสงสัย และในเดือนธันวาคมของปี 2011 สหรัฐอเมริกาหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมออกร่างรายงานระบุว่าพื้นที่ในไวโอมิงชั้นบรรจุน้ำมัน , น้ำมันดีเซล , ไว ( เอธิลเบนซีน โทลูอีน ไซลีน naphthalenes ไอโซโพรพานอล ) , และสารเคมีสังเคราะห์ 1

และการศึกษามหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ล่าสุดยืนยันว่า ปริมาณก๊าซมีเทนที่สำคัญจะหลบหนีเข้าไปในบรรยากาศระหว่างก๊าซ fracking . ก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพอีกมาก โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาสั้นๆ กับ 105 ครั้งภาวะโลกร้อนผลกระทบ ปอนด์ต่อปอนด์ กว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 )การศึกษาประเมินว่า มากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 8 ของก๊าซมีเทนในหินดินดานก๊าซรั่วในอากาศในช่วงชีวิต