Ethanol is a biomass which is a cle

Ethanol is a biomass which is a cleaner fuel. It can burn completely so, it reduces air pollution and global warming. Ethanol was produced by raw materials from agricultural crops. It classified into three types include sugar (sugar from beets and molasses), starch (tapioca, potatoes, and whole grains) and byproducts from agriculture (bagasse, rice straw, and corn). In the production of ethanol, it causes wastewater which has BOD and COD around 40000-70000 and 100000-150000 mg/l, respectively. Moreover, wastewater has high concentrations of nitrogen and phosphate and has dark brown to black. Those things affect to water quality and scenery of water source thus, it cannot be released into water bodies.
The process for decolorization of wastewater was divided into three processes. First is the Physical process such as, adsorption with activated carbon which is high porosity and ability to absorb color. But, the problem of this process is a blockage at the surface layer of charcoal and high cost of recycling. Second is a chemical process such as coagulation and flocculation by using alum, lime and iron compounds. This method is highly effective, but it will be much sludge cause to find a way to dispose of the sludge. The last is the biological process which was applied to remove the color of wastewater, such as using algae, bacteria and fungus. Algae are effective to reduce colors and not add chemicals to the environment, but there are limits on the temperature, pH, nutrients, and inhibitors. The using of bacteria is the effective process but it cannot withstand the high concentrations of toxic while the fungus has a few limitations and has durable than bacteria. So, it is appropriate to reduce color. From this capability, the fungus has been applied in the treatment of waste water from the production of ethanol.
Microorganisms can use free cells or immobilized cells for reducing the color. When comparing it, free cells have a leakage and obstruction of cells while immobilized cells have a high effective and no leakage and obstruction problems. The popular technique used is Entrapment which is available to all microorganisms but it has the limitation of cell loading and cell leakage. The other technique is Encapsulation. It has not the limitation of cell loading but it causes to be the weak beads. The problem of Entrapment and Encapsulation cause the development a new technique for immobilization cells by integration two methods together which is Hybrid Immobilization. Beads from this technique are highly effective, no limitation of cell loading and can protect the leakage of cells.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอทานอลเป็นชีวมวลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด มันสามารถเขียนอย่างสมบูรณ์ดังนั้น ลดมลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อน เอทานอลถูกผลิต โดยวัตถุดิบจากพืชผลทางการเกษตร จะจัดเป็นสามชนิดได้แก่น้ำตาล (น้ำตาลจากหัวบีทและกากน้ำตาล), แป้ง (มันสำปะหลัง มันฝรั่ง และธัญพืช) และผลพลอยได้เศษจากเกษตร (ชานอ้อย ฟางข้าว และข้าวโพด) ในการผลิตเอทานอล จะทำให้น้ำที่มี BOD และ COD ประมาณ 40000-70000 และ 100000-150000 mg/l ตามลำดับ นอกจากนี้ บำบัดน้ำเสียมีความเข้มข้นสูงของไนโตรเจนและฟอสเฟต และมีสีน้ำตาลเข้มถึงดำ สิ่งเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อน้ำคุณภาพและสวยงามของแหล่งน้ำดังนั้น มันไม่สามารถปล่อยลงในแหล่งน้ำ กระบวนการบำบัดน้ำเสียถูกแบ่งออกเป็น 3 กระบวนการ แรก คือกระบวนการทางกายภาพเช่น ดูดซับด้วยคาร์บอนซึ่งมีความพรุนสูงและสามารถดูดซับสี แต่ ปัญหาของกระบวนการนี้เป็นการอุดตันในชั้นผิวของต้นทุนที่สูง และถ่านรีไซเคิล สอง คือกระบวนการทางเคมีเช่นการแข็งตัวและปริมาณการใช้สารสารส้ม ปูน และเหล็ก วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูง แต่มันจะเป็นสาเหตุมากตะกอนเพื่อหาวิธีการจัดการกับกากตะกอน สุดท้ายคือ กระบวนการทางชีวภาพซึ่งใช้การลบสีของน้ำเสีย เช่นการใช้สาหร่าย เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา สาหร่ายมีประสิทธิภาพในการลดสี และเพิ่มสารเคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่มีขีดจำกัดอุณหภูมิ ค่า pH สารอาหาร และสารยับยั้ง การใช้แบคทีเรียเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ แต่มันไม่สามารถทนต่อความเข้มข้นสูงในขณะที่สารพิษเชื้อรามีข้อจำกัดบางอย่าง และมีความทนทานมากกว่าแบคทีเรีย ดังนั้น มันเป็นที่เหมาะสมเพื่อลดสี จากความสามารถ เชื้อราได้ถูกประยุกต์ใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากการผลิตเอทานอล จุลินทรีย์สามารถใช้เซลล์ว่างหรือเซลล์ที่ตรึงลดสี เมื่อเปรียบเทียบมัน เซลล์ได้รั่วซึมและอุดตันของเซลล์ในขณะที่ตรึงเซลล์มีประสิทธิภาพสูงและไม่มีปัญหาการรั่วซึมและอุดตัน เทคนิคนิยมใช้ดักซึ่งมีจุลินทรีย์ทั้งหมด แต่มีข้อจำกัดของเซลล์เซลล์รั่ว เทคนิคการเป็น Encapsulation มีไม่จำกัดของโหลดเซลล์ แต่จะทำให้เป็น ลูกปัดที่อ่อนแอ ปัญหาของยางกว้างและ Encapsulation ทำการพัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการตรึงเซลล์ โดยรวมสองวิธีเข้าด้วยกันซึ่งตรึงไฮบริด ลูกปัดจากเทคนิคนี้เป็นอย่างสูงที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีข้อจำกัดของโหลดเซลล์และสามารถป้องกันการรั่วไหลของเซลล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด มันสามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์เพื่อจะช่วยลดมลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อน เอทานอลที่ผลิตโดยวัตถุดิบจากพืชผลทางการเกษตร มันแบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ น้ำตาล (น้ำตาลจากหัวบีและกากน้ำตาล), แป้ง (มันสำปะหลังมันฝรั่งและเมล็ดธัญพืช) และผลพลอยได้จากการเกษตร (ชานอ้อยฟางข้าวและข้าวโพด) ในการผลิตเอทานอลจะทำให้น้ำเสียที่มีค่าบีโอดีและซีโอดีและรอบ 40,000-70,000 100000-150000 มิลลิกรัม / ลิตรตามลำดับ นอกจากนี้น้ำเสียที่มีความเข้มข้นสูงของไนโตรเจนและฟอสเฟตและมีสีน้ำตาลเข้มสีดำ สิ่งเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและทัศนียภาพของแหล่งน้ำจึงไม่สามารถปล่อยออกสู่แหล่งน้ำ.
กระบวนการในการกำจัดสีของน้ำเสียที่ถูกแบ่งออกเป็นสามกระบวนการ แรกคือกระบวนการทางกายภาพเช่นการดูดซับด้วยถ่านกัมซึ่งเป็นความพรุนสูงและความสามารถในการดูดซับสี แต่ปัญหาของกระบวนการนี้คือการอุดตันที่ชั้นผิวของถ่านและค่าใช้จ่ายสูงของการรีไซเคิล ประการที่สองเป็นกระบวนการทางเคมีเช่นการแข็งตัวและตะกอนโดยใช้สารส้มปูนขาวและสารประกอบเหล็ก วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มันจะเป็นสาเหตุตะกอนมากที่จะหาวิธีที่จะกำจัดกากตะกอนที่ สุดท้ายเป็นกระบวนการทางชีวภาพซึ่งถูกนำมาใช้ในการลบสีของน้ำเสียเช่นการใช้สาหร่ายแบคทีเรียและเชื้อรา สาหร่ายที่มีประสิทธิภาพในการลดสีและไม่เพิ่มสารเคมีที่มีต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีข้อ จำกัด เกี่ยวกับอุณหภูมิความเป็นกรดด่างสารอาหารและสารยับยั้ง โดยใช้ของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่สามารถทนต่อความเข้มข้นสูงของสารพิษในขณะที่เชื้อรามีข้อ จำกัด น้อยและมีความคงทนกว่าแบคทีเรีย ดังนั้นจึงมีความเหมาะสมในการลดสี จากความสามารถนี้เชื้อราได้ถูกนำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากการผลิตเอทานอล.
จุลินทรีย์สามารถใช้เซลล์ฟรีหรือการตรึงเซลล์สำหรับการลดสี เมื่อเปรียบเทียบกับเซลล์ฟรีมีการรั่วไหลและการอุดตันของเซลล์ในขณะที่ตรึงเซลล์มีประสิทธิภาพสูงและไม่มีการรั่วไหลและการอุดตันของปัญหา ที่นิยมใช้เทคนิคคือกับดักซึ่งสามารถใช้ได้กับจุลินทรีย์ทั้งหมด แต่ก็มีข้อ จำกัด ในการโหลดของเซลล์และการรั่วไหลของเซลล์ เทคนิคอื่น ๆ ที่เป็น Encapsulation มันไม่ได้มีข้อ จำกัด ของการโหลดเซลล์ แต่มันเป็นสาเหตุที่จะเป็นลูกปัดที่อ่อนแอ ปัญหาของการดักและการห่อหุ้มก่อให้เกิดการพัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับเซลล์ตรึงโดยบูรณาการทั้งสองวิธีร่วมกันซึ่งเป็นตรึงไฮบริด ลูกปัดจากเทคนิคนี้มีประสิทธิภาพสูงข้อ จำกัด ของการโหลดเซลล์และไม่สามารถป้องกันการรั่วซึมของเซลล์