A quantitative, randomized, pretest

A quantitative, randomized, pretest, posttest study was conducted to assess the effect of
aromatherapy on cognitive test anxiety among nursing students. Sophomore nursing
students (n = 39) from a private, 4-year college, were randomized into either the control
group (n = 18) or the experimental group (n = 21). Each participant completed the
Cognitive Test Anxiety Survey (Cassady; 2001, 2004, 2010) twice; once for baseline
data, and a second time after the intervention for comparison. Students in the
experimental group completed their second exam in a room with diffused aromatherapy,
and the control group remained in a classroom without aromatherapy. Descriptive and
inferential statistics were computed for this study. There were no significant differences
between the control and study group in relation to baseline cognitive anxiety scores (M =
78.17, M = 73.62) respectively. In the control group, there was a 3 point decrease in
cognitive test anxiety scores between pretest and posttest. However, there was a
significant decrease in cognitive test anxiety scores between the students who received
aromatherapy and those who did not (p = 0.10). Age and gender were not moderating
variables in this study. This novel discovery suggested that aromatherapy has a positive
effect on cognitive test anxiety among nursing students, and warrants further research in
nursing education

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการเชิงปริมาณ randomized, pretest, posttest ศึกษาเพื่อประเมินผลของน้ำมันหอมระเหยในการทดสอบการรับรู้ความวิตกกังวลในหมู่นักศึกษาพยาบาล พยาบาล sophomoreนักเรียน (n = 39) จากโรงเรียนเอกชน 4 ปี มี randomized ในการควบคุมกลุ่ม (n = 18) หรือกลุ่มทดลอง (n = 21) ผู้เข้าร่วมแต่ละดำเนินการสำรวจความวิตกกังวลการทดสอบรับรู้ (Cassady; 2001, 2004, 2010) สอง ครั้งสำหรับพื้นฐานข้อมูล และครั้งสองหลังจากแทรกแซงสำหรับการเปรียบเทียบ นักเรียนกลุ่มทดลองเสร็จสิ้นการสอบสองในห้องที่มีแต่น้ำมันหอมระเหยและกลุ่มควบคุมอยู่ในห้องเรียนโดยไม่มีน้ำมันหอมระเหย อธิบาย และสถิติเพียงน้อยนิดถูกคำนวณสำหรับการศึกษานี้ มีไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มควบคุมและศึกษาเกี่ยวกับพื้นฐานคะแนนความวิตกกังวลการรับรู้ (M =78.17, M = 73.62) ตามลำดับ ในกลุ่มควบคุม มี 3 จุดลดลงในคะแนนความวิตกกังวลรับรู้ทดสอบ pretest และ posttest อย่างไรก็ตาม มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของคะแนนความวิตกกังวลการทดสอบการรับรู้ระหว่างนักเรียนที่ได้รับหอมและผู้ที่ไม่ (p = 0.10) อายุและเพศไม่ดูแลตัวแปรในการศึกษานี้ ค้นพบนี้นวนิยายแนะนำน้ำมันหอมระเหยที่ได้เป็นบวกผลทดสอบการรับรู้ความวิตกกังวลในหมู่นักศึกษาพยาบาล และงานวิจัยเพิ่มเติมในใบสำคัญแสดงสิทธิในการศึกษาพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชิงปริมาณแบบสุ่มก่อนการทดลองการศึกษาหลังการทดลองได้ดำเนินการในการประเมินผลกระทบของน้ำมันหอมระเหยต่อความวิตกกังวลการทดสอบความรู้ความเข้าใจในหมู่นักศึกษาพยาบาล ปีพยาบาลนักเรียน (n = 39) จากภาคเอกชนวิทยาลัย 4 ปีได้รับการสุ่มเข้าทั้งควบคุมกลุ่ม(n = 18) หรือกลุ่มทดลอง (n = 21) เข้าร่วมแต่ละคนเสร็จสิ้นการสำรวจความรู้ความเข้าใจในการทดสอบความวิตกกังวล (Cassady; ปี 2001 2004 2010) สอง; ครั้งเดียวสำหรับพื้นฐานของข้อมูลและเป็นครั้งที่สองหลังจากการแทรกแซงเพื่อเปรียบเทียบ นักเรียนในกลุ่มทดลองเสร็จสิ้นการสอบสองของพวกเขาในห้องที่มีน้ำมันหอมระเหยกระจาย, และกลุ่มควบคุมกลุ่มที่ยังคงอยู่ในห้องเรียนที่ไม่มีน้ำมันหอมระเหย พรรณนาและสถิติอนุมานถูกคำนวณสำหรับการศึกษานี้ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการควบคุมและกลุ่มการศึกษาในความสัมพันธ์กับพื้นฐานคะแนนความวิตกกังวลทางปัญญา (M = 78.17, M = 73.62) ตามลำดับ ในกลุ่มควบคุมมีการลดลง 3 จุดในคะแนนทดสอบความวิตกกังวลทางปัญญาระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน แต่มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในคะแนนทดสอบความวิตกกังวลทางปัญญาระหว่างนักเรียนที่ได้รับการบำบัดด้วยกลิ่นหอมและผู้ที่ไม่ได้(p = 0.10) อายุและเพศที่ไม่ได้ดูแลตัวแปรในการศึกษาครั้งนี้ การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่านวนิยายเรื่องน้ำมันหอมระเหยมีบวกมีผลต่อความวิตกกังวลการทดสอบความรู้ความเข้าใจในหมู่นักศึกษาพยาบาลและใบสำคัญแสดงสิทธิต่อการวิจัยในการศึกษาพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเชิงปริมาณ โดยทดสอบก่อนเรียนหลังเรียนและศึกษา เพื่อศึกษาถึงผลของการทดสอบการรับรู้ต่อความวิตกกังวล
น้ำมันหอมระเหยของนักศึกษาพยาบาล นักศึกษาพยาบาลปี 2
( n = 39 ) จากวิทยาลัย 4 ปี เอกชน , คลินิกทั้งกลุ่มควบคุม
( n = 18 ) หรือกลุ่มทดลอง ( n = 21 ) ผู้เข้าร่วมแต่ละเสร็จ
รับรู้การทดสอบความวิตกกังวลสำรวจ ( cassady ; 2001 , 2004 ,2010 ) สองครั้ง เมื่อเส้นฐาน
ข้อมูล และเป็นครั้งที่สองหลังจากที่การแทรกแซงเพื่อเปรียบเทียบ นักเรียนในกลุ่มทดลองที่ 2 สอบเสร็จ
ในห้องที่มีการกระจายน้ำมันหอมระเหย
และกลุ่มควบคุมอยู่ในชั้นเรียนโดยไม่อโรมา สถิติเชิงพรรณนาและ
ถูกคำนวณสำหรับการศึกษานี้ ไม่พบความแตกต่าง
ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มศึกษา ในความสัมพันธ์กับการคิดคะแนนความวิตกกังวล ( M =
78.17 , M = 73.62 ) ตามลำดับ ในกลุ่มควบคุมมีคะแนนความวิตกกังวลลดลง 3 จุดใน
ทดสอบปัญญา ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน อย่างไรก็ตาม มีคะแนนความวิตกกังวลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ในการทดสอบการรับรู้ระหว่างนักเรียนที่ได้รับ
อโรมา และผู้ที่ไม่ได้ ( P = 0.10 )อายุและเพศไม่มีผู้ดูแล
ตัวแปรในการวิจัย การค้นพบใหม่นี้พบว่าน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์
ความวิตกกังวลทดสอบปัญญาของนักศึกษาพยาบาล และสิทธิวิจัยเพิ่มเติมใน
การศึกษาพยาบาล