This work makes a technical and eco

This work makes a technical and economic evaluation of incorporation of reheating and regeneration, as a way to increase efficiency of energetic systems and bagasse surplus, in cogeneration systems of Brazilian sugar and ethanol sector. Four scenarios were analyzed: Conventional (C0), with Reheat (C1), Regenerative (C2) and with Reheat and Regeneration (C3). Some of thermodynamic indicators used in evaluation were Surplus Bagasse Index and Exergetic Efficiency, for economic evaluation the Monte Carlo Method was used to give a Net Present Value (NPV) > 0 for each scenario. Technical evaluation indicates that Reheating (C1) increases bagasse surplus by 39.9% and exergetic efficiency by 1.90%, with respect to C0. Incorporation of 1–8 regenerators (C2) increases surplus bagasse and exergetic efficiency in the ranges of 103–160% and 5.03–8.07%, respectively. Reheat stage incorporation of 1–8 regenerators (C3) increases surplus bagasse in the range of 121–166% and increases exergetic efficiency in a range of 5.91–8.46%. Finally, it was estimated the potential of additional electric power generation during off-season and second generation ethanol production from surplus bagasse, with satisfactory results.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานนี้ทำให้การประเมินผลทางเทคนิคและเศรษฐกิจของการรวมตัวกันของอุ่นและการฟื้นฟูเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบความกระตือรือร้นและมีส่วนเกินชานอ้อยในระบบผลิตไฟฟ้าของน้ำตาลของบราซิลและภาคการเอทานอล สี่สถานการณ์วิเคราะห์: ธรรมดา (C0) กับความร้อน (C1) ปฏิรูป (C2) และความร้อนและฟื้นฟู (C3) บางส่วนของตัวชี้วัดอุณหพลศาสตร์ที่ใช้ในการประเมินผลเป็นส่วนเกินทุนจากชานอ้อยดัชนีและอนุรักษ์ Exergetic สำหรับการประเมินผลทางเศรษฐกิจวิธีมอนติคาร์โลถูกใช้ในการให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV)> 0 สำหรับแต่ละสถานการณ์ การประเมินผลทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าร้อน (C1) เพิ่มขึ้นเกินดุลชานอ้อยโดย 39.9% และมีประสิทธิภาพโดย exergetic 1.90% ด้วยความเคารพต่อ C0 รวมตัวกันของ 1-8 regenerators (C2) เพิ่มกากอ้อยส่วนเกินและมีประสิทธิภาพ exergetic อยู่ในช่วง 103-160% และ 5.03-8.07% ใน ตามลำดับ เวทีความร้อนรวมตัวกันของ 1-8 regenerators (C3) เพิ่มกากอ้อยส่วนเกินในช่วง 121-166% และเพิ่มประสิทธิภาพ exergetic ในช่วง 5.91-8.46% ใน ในที่สุดก็เป็นที่คาดกันที่มีศักยภาพของการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงปิดฤดูกาลและการผลิตเอทานอลรุ่นที่สองจากชานอ้อยส่วนเกินที่มีผลที่น่าพอใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานนี้จะทำให้การประเมินทางเทคนิคและเศรษฐกิจของการรวมตัวกันของการทำความร้อนและการฟื้นฟู, เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบที่มีพลังและชานอ้อยส่วนเกิน, ในระบบ cogeneration ของการผลิตน้ำตาลและเอทานอลที่บราซิล. สี่สถานการณ์ได้รับการวิเคราะห์: ธรรมดา (C0), กับ Reheat (C1), การฟื้นฟู (C2) และมีความร้อนและฟื้นฟู (C3) บางส่วนของตัวชี้วัดอุณหพลศาสตร์ที่ใช้ในการประเมินผลเป็นส่วนเกินชานอ้อย Index และประสิทธิภาพ Exergetic, สำหรับการประเมินทางเศรษฐกิจที่ Monte Carlo วิธีการที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้มูลค่าสุทธิปัจจุบัน (NPV) > 0 สำหรับแต่ละสถานการณ์ การประเมินทางเทคนิคบ่งชี้ว่าการทำความร้อน (C1) เพิ่มส่วนเกินชานอ้อยโดย๓๙.๙% และ exergetic ที่มีประสิทธิภาพโดย๑.๙๐% ที่เกี่ยวข้องกับ C0 การรวมตัวกันของ1–8เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (C2) เพิ่มส่วนเกินชานอ้อยและ exergetic ประสิทธิภาพในช่วงของ103–160% และ5.03 –8.07% ตามลำดับ ปรับระยะความร้อนของ1– 8 (C3) เพิ่มส่วนเกินชานอ้อยในช่วงของ121–166% และเพิ่มประสิทธิภาพ exergetic ในช่วงของ 5.91-8.46% ในที่สุด, มันถูกประเมินศักยภาพของการสร้างพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมในช่วงปิดฤดูกาลและการผลิตเอทานอลที่สองจากส่วนเกินชานอ้อย, ด้วยผลลัพธ์ที่น่าพอใจ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระดาษนี้จะทำให้การประเมินทางเทคนิคและเศรษฐกิจของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกันของอุตสาหกรรมน้ำตาลและเอทานอลในบราซิล สี่ชนิดของวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเช่น C0 、 C1 、 C2 、รีไซเคิล、รีไซเคิลและ C3 บางตัวชี้วัดทางอุณหพลศาสตร์ที่ใช้ในการประเมินคือดัชนีกากอ้อยที่เหลือและพลังงานที่มีประสิทธิภาพ การประเมินทางเทคนิคพบว่าเมื่อเทียบกับ C0 C1 สามารถเพิ่ม 39.9 เปอร์เซ็นต์ของชานอ้อยและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ 1.90 เปอร์เซ็นต์ กากอ้อยที่เหลือและการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 103-160 เปอร์เซ็นต์และ 5.03-8-8.07 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ เพิ่ม 1-8 รีเจนเนอเรเตอร์ในระหว่างขั้นตอนความร้อนสามารถเพิ่มกากอ้อยที่เหลือใน 121-166 เปอร์เซ็นต์และเพิ่มประสิทธิภาพในช่วง 5.91-8.46 เปอร์เซ็นต์ ในที่สุดศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมของกากอ้อยในช่วงโลว์ซีซั่นและรุ่นที่สองของเอทานอลถูกประเมินและผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้