The major aim of made tea identific

The major aim of made tea identification is to identify the variety and provenance of the tea plant. The present experiment used 113 tea plants [Camellia sinensis (L.) O. Kuntze] housed at the Tea Research and Extension Substation, from which 113 internal transcribed spacer 2 (ITS2) fragments, 104 trnL intron, and 98 trnL-trnF intergenic sequence region DNA sequences were successfully sequenced. The similarity of the ITS2 nucleotide sequences between tea plants housed at the Tea Research and Extension Substation was 0.379–0.994. In this polymerase chain reaction-amplified noncoding region, no varieties possessed identical sequences. Compared with the trnL intron and trnL-trnF intergenic sequence fragments of chloroplast cpDNA, the proportion of ITS2 nucleotide sequence variation was large and is more suitable for establishing a DNA barcode database to identify tea plant varieties. After establishing the database, 30 imported teas and 35 domestic made teas were used in this model system to explore the feasibility of using ITS2 sequences to identify the varieties and provenances of made teas. A phylogenetic tree was constructed using ITS2 sequences with the unweighted pair group method with arithmetic mean, which indicated that the same variety of tea plant is likely to be successfully categorized into one cluster, but contamination from other tea plants was also detected. This result provides molecular evidence that the similarity between important tea varieties in Taiwan remains high. We suggest a direct, wide collection of made tea and original samples of tea plants to establish an ITS2 sequence molecular barcode identification database to identify the varieties and provenances of tea plants. The DNA barcode comparison method can satisfy the need for a rapid, low-cost, frontline differentiation of the large amount of made teas from Taiwan and abroad, and can provide molecular evidence of their varieties and provenances.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายสำคัญของชาทำระบุจะระบุหลากหลายและที่มาของโรงงานชา การทดลองปัจจุบันใช้พืชชา 113 [Camellia sinensis (L.) โอ Kuntze] ณชาวิจัยและขยายสถานีย่อย จากที่ 113 ภายในศัพท์ spacer 2 (ITS2) เศษ 104 trnL intron และ 98 ลำดับ intergenic trnL trnF ภูมิภาคลำดับดีเอ็นเอได้สำเร็จที่เรียงลำดับ ความคล้ายกันของลำดับของนิวคลีโอไทด์ที่ ITS2 ระหว่างพืชชาณชาวิจัยและขยายสถานีรับ 0.379 – 0.994 พอลิเมอเรสปฏิกิริยาลูกโซ่ขยาย noncoding ภูมิภาคนี้ ไม่มีพันธุ์สิงลำดับเหมือนกัน เมื่อเทียบกับ trnL trnL trnF และ intron ลำดับ intergenic ชิ้นส่วนของคลอโรพลาสต์ cpDNA สัดส่วนการเปลี่ยนแปลงลำดับของนิวคลีโอไทด์ที่มีขนาดใหญ่ และเหมาะสำหรับการสร้างฐานข้อมูลดีเอ็นเอบาร์โค้ดเพื่อระบุพันธุ์พืชชา ITS2 หลังจากสร้างฐานข้อมูล 30 นำเข้าชา และนำชาทำ 35 ประเทศในระบบแบบนี้มาสำรวจความเป็นไปได้ของการใช้ ITS2 ลำดับการระบุสายพันธุ์และ provenances ชาทำ ต้นไม้ผลก่อสร้างด้วย ITS2 ลำดับกลุ่มวิธี unweighted คู่กับเลขคณิต ซึ่งระบุว่า หลากหลายชาพืชเดียวกันมักจะประสบความสำเร็จแบ่งกลุ่มหนึ่ง แต่ยังมีการตรวจพบการปนเปื้อนจากพืชอื่น ๆ ชา ผลนี้แสดงว่า ยังคงมีความคล้ายกันระหว่างพันธุ์ชาที่สำคัญในไต้หวันสูงหลักฐานโมเลกุล เราขอแนะนำคอลเลกชันโดยตรง กว้างทำชาและกลุ่มตัวอย่างเดิมของชาพืชสร้าง ITS2 ลำดับโมเลกุลบาร์โค้ดรหัสฐานข้อมูลที่มีการระบุในพันธุ์และ provenances ชาพืช วิธีการเปรียบเทียบบาร์โค้ดดีเอ็นเอสามารถตอบสนองความต้องการความแตกต่างอย่างรวดเร็ว ประหยัด แนวหน้าของการทำชาจากไต้หวันและต่างประเทศจำนวนมาก และสามารถให้หลักฐานโมเลกุลของพันธุ์และ provenances

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายที่สำคัญของประชาชนชาที่ทำคือการระบุความหลากหลายและรากของพืชชา การทดลองใช้ในปัจจุบัน 113 โรงน้ำชา [Camellia sinensis ( L. ) Kuntze ทุม] ตั้งอยู่ที่ชาส่งเสริมและวิจัยทางสถานีจากที่ 113 ถ่ายทอด spacer ภายใน 2 (ITS2) เศษเล็กเศษน้อย 104 trnL intron และ 98 trnL-trnF ลำดับ intergenic ลำดับดีเอ็นเอภูมิภาคมีลำดับขั้นตอนที่ประสบความสำเร็จ ความคล้ายคลึงกันของลำดับเบส ITS2 ระหว่างพืชชาตั้งอยู่ที่ชาส่งเสริมและวิจัย Substation เป็น 0.379-0.994 ในห่วงโซ่โพลิเมอร์ปฏิกิริยาขยายภูมิภาค noncoding นี้ไม่มีพันธุ์ครอบครองลำดับเหมือนกัน เมื่อเทียบกับ intron trnL และ trnL-trnF เศษลำดับ intergenic ของ cpDNA chloroplast สัดส่วนของ ITS2 เปลี่ยนแปลงลำดับเบสที่มีขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมมากขึ้นสำหรับการสร้างฐานข้อมูลดีเอ็นเอบาร์โค้ดเพื่อระบุพันธุ์พืชชา หลังจากการสร้างฐานข้อมูล 30 ชานำเข้าและ 35 ชาที่ทำในประเทศถูกนำมาใช้ในระบบแบบนี้จะสำรวจความเป็นไปได้ของการใช้ลำดับ ITS2 การระบุสายพันธุ์และถิ่นกำเนิดของชาทำ ต้นไม้สายวิวัฒนาการที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ลำดับ ITS2 กับวิธีการชั่งกลุ่มคู่กับค่าเฉลี่ยซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีความหลากหลายของพืชเดียวกันชามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการจัดหมวดหมู่เป็นกลุ่มหนึ่ง แต่การปนเปื้อนจากพืชชาอื่น ๆ นอกจากนี้ยังได้รับการตรวจพบ ผลที่ได้นี้มีหลักฐานโมเลกุลที่คล้ายคลึงกันระหว่างพันธุ์ชาที่สำคัญในไต้หวันยังคงสูง เราขอแนะนำให้ตรงเก็บกว้างของชาและเป็นต้นฉบับทำตัวอย่างของพืชชาเพื่อสร้างฐานข้อมูลลำดับ ITS2 โมเลกุลบัตรประจำตัวบาร์โค้ดเพื่อระบุพันธุ์และถิ่นกำเนิดของพืชชา วิธีการเปรียบเทียบดีเอ็นเอบาร์โค้ดสามารถตอบสนองความต้องการสำหรับการอย่างรวดเร็วต้นทุนต่ำแตกต่างแนวหน้าของจำนวนเงินที่มีขนาดใหญ่ของชาที่ทำจากไต้หวันและต่างประเทศและสามารถให้หลักฐานโมเลกุลของสายพันธุ์และถิ่นกำเนิดของพวกเขา