A two-year study evaluated an organ

A two-year study evaluated an organic fish fertilizer in a squash/collard rotation, and compared its effectiveness to inorganic sources. Although yields were reduced in the crops grown with hydrolyzed fish fertilizer treatments, economic analyses showed that premium prices and potential profits associated with organic products were enough to offset reduced yield. The authors said that the use of hydrolyzed fish fertilizer could be an economically feasible option in organic vegetable production.
In the production of organic vegetables, nitrogen is important, yet can be quite costly to manage. Nitrogen management is even more challenging when production practices call for the use of polyethylene mulch combined with fertigation.The authors of a new study published in HortScience have found that hydrolyzed fish fertilizer holds promise as an "economically feasible" nitrogen source for growing organic vegetables.
"Soluble organic nitrogen sources suitable for fertigation in organic vegetable production are much needed," said lead author of the study, Charles Ogles. Ogles and colleagues at Auburn University studied the effects of three different nitrogen sources during a 2-year crop sequence of yellow squash and collards. The scientists used hydrolyzed fish fertilizer, inorganic nitrogen(N) source with secondary and micro nutrients, inorganic nitrogen with out secondary or micro nutrients, and a zero nitrogen control for the study. Nitrogen was applied at: recommended rates for both squash and collards, 80% of the recommended rates, and 60% of the recommended rates. The study design included a zero nitrogen treatment used as the control.
"To eliminate the rotation order effect, the crops were switched each year: yellow squash-collard in year one, and collard-yellow squash in year two," explained Ogles.
In the first year of the study, the researchers found that yellow squash had a 30% higher yield when grown with inorganic nitrogen as compared with squash grown in hydrolyzed fish fertilizer. Collards showed a 21% higher yield when grown with inorganic nitrogen source with secondary and micro nutrients as compared with collards grown in the hydrolyzed fish fertilizer.
"In the second year of the study, highest yields of collards were again produced with inorganic nitrogen source with secondary and micro nutrients treatments, followed by those grown in the hydrolyzed fish fertilizer treatments," the authors said. "Second-year squash grown in the inorganic N treatments produced highest yields, while squash grown in the fish fertilizer had a 16% lower yield as compared with those grown in the two inorganic N sources."
Additional results revealed that inorganic nitrogen with out secondary or micro nutrients produced lower marketable collard yields than the other treatments, an outcome the authors attributed to sulfur deficiency.
After performing economic analyses, the authors concluded that if growers can obtain the price premiums associated with organic produce, the use of hydrolyzed fish fertilizer could be an economically feasible option in organic vegetable production. "Although yields were reduced in the crops grown in hydrolyzed fish fertilizer treatments, the premium price and resultant profit associated with organic products were enough to offset the reduced yield," the authors said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษา 2 ปีประเมินเป็นปุ๋ยปลาอินทรีย์ในหมุน สควอช/collard และเปรียบเทียบประสิทธิผลการแหล่งอนินทรีย์ แม้ว่าผลผลิตลดลงในพืชที่ปลูก ด้วย hydrolyzed ปลาปุ๋ยรักษา วิเคราะห์เศรษฐกิจพบว่า พรีเมี่ยมราคาและกำไรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์มีศักยภาพเพียงพอเพื่อชดเชยผลผลิตที่ลดลง ผู้เขียนกล่าวว่า การใช้ปุ๋ยปลา hydrolyzed อาจเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์ในการผลิตผักอินทรีย์ ไนโตรเจนมีความสำคัญ ยัง สามารถค่อนข้างเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการ จัดการไนโตรเจนจะท้าทายมากยิ่งขึ้นเมื่อเรียกใช้เอทิลีน mulch กับ fertigation เนื่องจากปฏิบัติผลิต ผู้เขียนเผยแพร่ใน HortScience การศึกษาใหม่พบว่า ปุ๋ยปลา hydrolyzed ถือสัญญาเป็นไนโตรเจน "อย่างเป็นไปได้" ปลูกผักอินทรีย์"แหล่งไนโตรเจนละลายอินทรีย์เหมาะสำหรับ fertigation เนื่องจากในการผลิตผักอินทรีย์มากบ้าง กล่าวว่า ผู้นำการศึกษา ชาร์ลส์ Ogles Ogles และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยออเบิร์นศึกษาผลกระทบของสามแหล่งไนโตรเจนที่แตกต่างกันระหว่างพืช 2 ปีลำดับของสควอชเหลืองและ collards นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ปุ๋ยปลา hydrolyzed มีสารอาหารรอง และไมโคร แหล่ง nitrogen(N) อนินทรีย์ไนโตรเจนอนินทรีย์มีสารอาหารรอง หรือไมโคร และควบคุมไนโตรเจนที่ศูนย์การศึกษา ไนโตรเจนที่ใช้: แนะนำและสควอชและ collards ราคาพิเศษ 80% ของอัตราแนะนำ และ 60% ของอัตราแนะนำ การศึกษาออกแบบรวมศูนย์ไนโตรเจนรักษาใช้เป็นตัวควบคุม"เพื่อกำจัดผลสั่งหมุน พืชถูกสลับแต่ละปี: สีเหลือง collard สควอชในปีหนึ่ง และฟักเหลือง collard ปีสอง, " อธิบาย Oglesในปีแรกของการศึกษา นักวิจัยพบว่า สควอชเหลืองได้ที่ 30% สูงกว่าผลตอบแทนเมื่อเติบโตขึ้นกับอนินทรีย์ไนโตรเจนตกสควอชปลูกปุ๋ยปลา hydrolyzed พบว่ามี 21% สูงกว่าผลตอบแทนเมื่อเติบโตขึ้นกับแหล่งไนโตรเจนอนินทรีย์มีสารอาหารรอง และขนาดเล็กเมื่อเทียบกับการเติบโตในปุ๋ยปลา hydrolyzed collards collards"ในปีการศึกษา อัตราผลตอบแทนสูงสุดของ collards อีกผลิตกับแหล่งไนโตรเจนอนินทรีย์มีสารอาหารรอง และไมโครรักษา ตามผู้ปลูกรักษาปุ๋ยปลา hydrolyzed กล่าวว่า ผู้เขียน "สองปีสควอชปลูกอนินทรีย์ N ผลิตการรักษาสูงสุดอัตราผลตอบแทน ขณะสควอชเติบโตในปุ๋ยปลามีผลผลิตต่ำกว่า 16% เมื่อเทียบกับที่ปลูกในแหล่งสองของ N อนินทรีย์"ผลลัพธ์เพิ่มเติมเปิดเผยว่า ไนโตรเจนอนินทรีย์ด้วยออกสารอาหารรอง หรือไมโครผลิต marketable collard ผลผลิตที่ต่ำกว่าการรักษา ผลผู้เขียนเกิดจากการขาดกำมะถันหลังจากที่ทำการวิเคราะห์เศรษฐกิจ ผู้เขียนสรุปว่า ถ้าเกษตรกรสามารถได้รับค่าจ้างพิเศษราคาที่เกี่ยวข้องกับเคมี ใช้ปุ๋ยปลา hydrolyzed อาจเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์ ผู้เขียนกล่าวว่า "ถึงแม้ว่าผลผลิตลดลงในพืชปลูกบำรุงปุ๋ยปลา hydrolyzed พรีเมี่ยมราคาและกำไรผลแก่ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์มีเพียงพอเพื่อชดเชยผลผลิตลดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาสองปีประเมินปุ๋ยปลาอินทรีย์ในการหมุนสควอช / ปลีและเมื่อเทียบประสิทธิภาพของแหล่งที่มานินทรีย์ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนที่ลดลงในพืชที่ปลูกกับการรักษาปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์, การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่าราคาพรีเมี่ยมและผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ก็เพียงพอที่จะชดเชยผลผลิตที่ลดลง ผู้เขียนกล่าวว่าการใช้ปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์อาจจะเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์.
ในการผลิตผักอินทรีย์ไนโตรเจนเป็นสิ่งที่สำคัญยังสามารถค่อนข้างค่าใช้จ่ายในการจัดการ การจัดการไนโตรเจนแม้จะมีความท้าทายมากขึ้นเมื่อการปฏิบัติที่เรียกร้องให้มีการผลิตใช้วัสดุคลุมดินพลาสติกรวมกับผู้เขียน fertigation.The การศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน HortScience ได้พบว่าปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์ถือสัญญาเป็น "ทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้" แหล่งไนโตรเจนสำหรับการเจริญเติบโตผักปลอดสารพิษ
"แหล่งไนโตรเจนที่ละลายน้ำอินทรีย์เหมาะสำหรับ fertigation ในการผลิตผักอินทรีย์ที่มีความจำเป็นมาก" ผู้เขียนนำการศึกษากล่าวว่าชาร์ลส์ Ogles Ogles และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยออเบิร์นการศึกษาผลกระทบของสามแหล่งไนโตรเจนที่แตกต่างกันระหว่างลำดับพืช 2 ปีของสควอชสีเหลืองและ collards นักวิทยาศาสตร์ใช้ปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์, นินทรีย์ไนโตรเจน (N) แหล่งที่มาที่มีสารอาหารรองและไมโครไนโตรเจนนินทรีย์ที่มีสารอาหารออกรองหรือไมโครและควบคุมไนโตรเจนเป็นศูนย์สำหรับการศึกษา ถูกนำมาใช้ไนโตรเจนในอัตราที่แนะนำสำหรับทั้งสควอชและ collards 80% ของอัตราแนะนำและ 60% ของอัตราที่แนะนำ . การออกแบบการศึกษารวมถึงการรักษาไนโตรเจนใช้เป็นศูนย์ควบคุม
"เพื่อลดผลกระทบเพื่อหมุนพืชถูกปิดในแต่ละปี: สควอช-ปลีเหลืองในปีหนึ่งและสควอชปลีสีเหลืองในปีที่สอง" อธิบาย Ogles.
ใน ปีแรกของการศึกษาวิจัยพบว่าสควอชสีเหลืองมีผลผลิตสูงถึง 30% เมื่อปลูกด้วยไนโตรเจนอนินทรีเมื่อเทียบกับสควอชที่ปลูกในปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์ collards แสดงให้เห็นว่า 21% อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเติบโตขึ้นโดยมีแหล่งไนโตรเจนนินทรีย์ที่มีสารอาหารรองและขนาดเล็กเมื่อเทียบกับ collards ปลูกในปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์.
"ในปีที่สองของการศึกษา, อัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดของ collards มีการผลิตอีกครั้งกับแหล่งไนโตรเจนนินทรีย์ที่มี การรักษาระดับมัธยมศึกษาและสารอาหารขนาดเล็กตามด้วยผู้ที่ปลูกในการรักษาปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์ "ผู้เขียนกล่าวว่า "สควอชปีที่สองที่ปลูกในการรักษายังไม่มีการผลิตอนินทรีอัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดในขณะที่สควอชที่ปลูกในปุ๋ยปลามีอัตราผลตอบแทนที่ 16% ลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ปลูกในสองแหล่งที่มาไม่มีนินทรีย์."
เพิ่มเติมผลการศึกษาพบว่าไนโตรเจนนินทรีย์ที่มีออกมารอง หรือสารอาหารที่ผลิตไมโครอัตราผลตอบแทนของตลาดที่ลดลงปลีกว่าการรักษาอื่น ๆ ผลที่ผู้เขียนนำมาประกอบกับการขาดกำมะถัน.
หลังจากดำเนินการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของผู้เขียนสรุปว่าถ้าเกษตรกรผู้ปลูกสามารถขอรับพรีเมี่ยมราคาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์, การใช้ปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์จะทำได้ เป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์ "แม้ว่าอัตราผลตอบแทนที่ลดลงในพืชที่ปลูกในการรักษาปุ๋ยปลาไฮโดรไลซ์ราคาพรีเมี่ยมและกำไรผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ก็เพียงพอที่จะชดเชยผลผลิตที่ลดลง" ผู้เขียนกล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาสองปีพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ในการหมุนสควอช / วัย และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแหล่งอนินทรีย์ แม้ว่าผลผลิตลดลง ในพืชที่ปลูกกับปุ๋ยปลาจากการ วิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ พบว่าราคาที่พรีเมี่ยมและผลกำไรที่มีศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้มากพอที่จะชดเชยการลดผลผลิตผู้เขียนบอกว่า การใช้ไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลาอาจจะเป็นตัวเลือกความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์ .
ในการผลิตผักอินทรีย์ไนโตรเจนเป็นสำคัญ ยังสามารถค่อนข้างแพงในการจัดการ การจัดการไนโตรเจนเป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นเมื่อการปฏิบัติการผลิตเรียกใช้พลาสติกคลุมดิน รวมกับน้ำ .ผู้เขียนของการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน hortscience พบว่าไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลาถือสัญญาเป็น " แหล่งไนโตรเจนที่เป็นไปได้ " ประหยัดปลูกผักอินทรีย์ .
" สารอินทรีย์ละลายน้ำในแหล่งไนโตรเจนที่เหมาะสมสำหรับการผลิตผักอินทรีย์ที่จำเป็นมาก " กล่าวว่า ผู้เขียนหลักของการศึกษา , ชาร์ลส์ ogles .ogles และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยออเบิร์น ศึกษาผลของ 3 แหล่งไนโตรเจนที่แตกต่างกันในระหว่างลำดับของพืช 2 สควอชสีเหลืองและค ลาร์ด . นักวิทยาศาสตร์ใช้ไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลา ปริมาณอนินทรีย์ไนโตรเจน ( N ) ที่มากับทุติยภูมิและ Micro สารอาหารอนินทรีย์ไนโตรเจนกับมัธยมหรือ Micro สารอาหารไนโตรเจนและศูนย์ควบคุมการศึกษา ไนโตรเจนที่ใช้อยู่ :แนะนำราคาสำหรับทั้งสองสควอชและค ลาร์ด , 80% ของอัตราที่แนะนำ และ 60% ของแนะนำอัตรา การศึกษาแบบรวมศูนย์การใช้ไนโตรเจนเป็นตัวควบคุม .
" เพื่อขจัดการหมุนเพื่อผล , พืชสลับกันในแต่ละปี : สควอชสีเหลืองวัยในหนึ่งปี และผักสีเหลืองสควอช ปี 2 " อธิบาย ogles .
ในช่วงปีแรกของการศึกษานักวิจัยพบว่า สควอชสีเหลืองมี 30% สูงกว่าเมื่อโต อนินทรีย์ไนโตรเจนเมื่อเทียบกับสควอชปลูกไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลา ค ลาร์ดจำนวน 21 % สูงกว่าเมื่อปลูกแหล่งไนโตรเจนอนินทรีย์กับรอง และไมโครรังเมื่อเทียบกับค ลาร์ดปลูกไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลา .
" ในปีที่สองของการศึกษาผลผลิตสูงสุดของค ลาร์ดอีกครั้งแหล่งไนโตรเจนอนินทรีย์กับผลิตด้วยไมโครรังรอง และ รักษา รองลงมาปลูกไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลา การรักษา , " ผู้เขียนกล่าว สควอช 2 ปี ปลูกในอนินทรีย์ไนโตรเจนให้ผลผลผลิตสูงสุดขณะที่สควอชที่ปลูกในปุ๋ยปลาได้ผลตอบแทน 16% ลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ปลูกอยู่สองแหล่งอนินทรีย์ไนโตรเจน "
เพิ่มเติมพบว่าอนินทรีย์ไนโตรเจนกับมัธยมหรือ Micro สารอาหารในผักที่ผลิตลดผลผลิตกว่าอื่น ๆรักษาผลผู้เกิดจากการขาดกำมะถัน
หลังจากดำเนินการวิเคราะห์เศรษฐกิจผู้เขียนสรุปว่า หากเกษตรกรสามารถขอรับราคาเบี้ยประกันที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอินทรีย์ การใช้ไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลาอาจจะเป็นตัวเลือกความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการผลิตผักอินทรีย์ " . แม้ว่าผลผลิตลดลง ในพืชที่ปลูกในการไฮโดรไลซ์ปุ๋ยปลา , การรักษาพรีเมี่ยมราคาและกำไรซึ่งเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อินทรีย์มีมากพอที่จะชดเชยการลดผลผลิต , " ผู้เขียนกล่าว