The fatty acid composition of the o

The fatty acid composition of the oil plays a significant role
when biodiesel is used as fuel in diesel engine[12]. Saturated fatty
acid esters have higher cetane values and oxidation stability but
poorer low temperature flow properties than those of unsaturated
ones[15,22]. The crude roselle oil consisted of a high proportion of
unsaturation, comprised primarily of oleic and linoleic acids and a
lower proportion of saturation, comprised mainly of palmitic acid.
In this study, the average molecular weight of the oil, from its composition, was calculated to be 854.1 g.
As in most other vegetable oils, the viscosity of the crude roselle
oil was very high compared to diesel (about 11.8 times higher). To
avoid any negative impacts on diesel engine performance, the viscosity had to be reduced to an acceptable level; therefore, alkalicatalyzed transesterification was performed. Several researchers
have established that free fatty acid (FFA) and moisture contents
in oils were significant factors affecting alkali-catalyzed transeste-rification[2,9,23]. The oil should have a low FFA content, and all
materials used in the reaction should be substantially anhydrous
[2]. Reports in the literature indicate that the FFA content in the
oil should be less than 1% prior to alkali-catalyzed transesterification[13,14]. The oil used in this study had an FFA content below 1%
and contained minute traces of water. Therefore, this oil had suitable characteristics to be used as a feedstock to produce biodiesel
by a one-step process, alkali-catalyzed transesterification.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

องค์ประกอบกรดไขมันของน้ำมันมีบทบาทสำคัญเมื่อมีใช้ไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล [12] ไขมันอิ่มตัวesters กรดมีค่าซีเธนสูงและเสถียรภาพออกซิเดชัน แต่คุณสมบัติของไหลอุณหภูมิต่ำย่อมกว่าของในระดับที่สมคน [15,22] น้ำมันดิบกระเจี๊ยบแดงประกอบด้วยสัดส่วนที่สูงของunsaturation ประกอบด้วยหลักของโอเลอิค และกรด linoleic และสัดส่วนที่ต่ำกว่าของความอิ่มตัว ส่วนใหญ่ของกรด palmiticในการศึกษานี้ น้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยของน้ำมัน จากองค์ประกอบภาพ ถูกคำนวณได้เท่ากับ 854.1 gในส่วนใหญ่อื่น ๆ น้ำมันพืช ความหนืดของกระเจี๊ยบแดงดิบน้ำมันไม่สูงมากเมื่อเทียบกับดีเซล (ประมาณ 11.8 ครั้งสูง) ถึงหลีกเลี่ยงการลบส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล ความหนืดก็จะลดลงสู่ระดับยอมรับได้ ดังนั้น เพิ่ม alkalicatalyzed ที่ดำเนินการ นักวิจัยหลาย ๆได้ก่อตั้งขึ้นที่กรดไขมันอิสระ (FFA) และเนื้อหาความชื้นในน้ำมันมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อด่างกระบวน transeste-rification [2,9,23] น้ำมันควรมีเนื้อหาเป็น FFA ต่ำ และทั้งหมดวัสดุที่ใช้ในปฏิกิริยาควรไดมาก[2] รายงานในวรรณคดีบ่งชี้ว่า เนื้อหา FFA ในการน้ำมันควรจะน้อยกว่า 1% ก่อนเพิ่มด่างกระบวน [13,14] น้ำมันที่ใช้ในการศึกษานี้มีเนื้อหา FFA ต่ำกว่า 1%และมีร่องรอยนาทีน้ำ ดังนั้น น้ำมันนี้มีลักษณะเหมาะที่จะใช้เป็นวัตถุดิบการผลิตไบโอดีเซลโดยกระบวนการขั้นตอนเดียว ด่างกระบวนการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องค์ประกอบของกรดไขมันในน้ำมันมีบทบาทสำคัญเมื่อไบโอดีเซลใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล [12]
ไขมันอิ่มตัวเอสเทอกรดมีค่าซีเทนและความมั่นคงการเกิดออกซิเดชันที่สูงขึ้นแต่ยากจนคุณสมบัติการไหลที่อุณหภูมิต่ำกว่าไม่อิ่มตัวคน[15,22] น้ำมันกระเจี๊ยบน้ำมันดิบประกอบด้วยสัดส่วนที่สูงของไม่อิ่มตัวประกอบด้วยหลักของกรดโอเลอิกและไลโนเลอิกและสัดส่วนที่ลดลงของความอิ่มตัวส่วนใหญ่ประกอบด้วยกรดปาล์มิติก. ในการศึกษานี้น้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยของน้ำมันจากองค์ประกอบของมันที่คำนวณได้ จะเป็น 854.1 กรัม. ขณะที่ในส่วนน้ำมันพืชชนิดอื่นความหนืดของกระเจี๊ยบน้ำมันดิบน้ำมันอยู่ในระดับสูงมากเมื่อเทียบกับดีเซล (ประมาณ 11.8 เท่าสูง) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลความหนืดจะต้องมีการปรับลดลงในระดับที่ยอมรับ; จึง transesterification alkalicatalyzed ได้ดำเนินการ นักวิจัยหลายมีการจัดตั้งว่ากรดไขมันอิสระ (FFA) และความชื้นในน้ำมันเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อด่างเร่งtranseste-rification [2,9,23] น้ำมันควรจะมีเนื้อหาปรับปรุงคุณภาพต่ำและวัสดุที่ใช้ในการตอบสนองที่ควรจะเป็นอย่างมากไม่มีน้ำ[2] รายงานในวรรณคดีระบุว่าเนื้อหา FFA ในน้ำมันควรจะน้อยกว่า1% ก่อนที่จะ transesterification ด่างเร่ง [13,14] น้ำมันที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีเนื้อหา FFA ต่ำกว่า 1% และมีร่องรอยนาทีของน้ำ ดังนั้นน้ำมันนี้มีลักษณะที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลโดยกระบวนการขั้นตอนหนึ่ง transesterification ด่างเร่งปฏิกิริยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และองค์ประกอบของกรดไขมันในน้ำมันมีบทบาทสำคัญ
เมื่อไบโอดีเซลใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล [ 12 ] กรดไขมันอิ่มตัว
กรดเอสเทอร์สูงกว่าค่าซีเทนและเสถียรภาพออกซิเดชันแต่
ยากจนต่ำอุณหภูมิการไหลสมบัติสูงกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัว
คน [ 15,22 ] น้ำมันสกัดจากกระเจี๊ยบแดงมีสัดส่วนของความไม่อิ่มตัว
,ประกอบด้วยกรดโอเลอิก และเป็นหลักของไลโนเลอิกและ
ลดสัดส่วนของการอิ่มตัว ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของกรดปาล์มิติค .
การศึกษาน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยของน้ำมัน จากองค์ประกอบ คือ คิดเป็น 854.1 G .
ในน้ำมันพืชอื่น ๆส่วนใหญ่ความหนืดของน้ำมันกระเจี๊ยบ
น้ำมันสูงมาก เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล ( ประมาณ 11.8 เท่าสูงกว่า )

หลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล ความหนืดจะลดลงเป็นระดับที่ยอมรับได้ ดังนั้น alkalicatalyzed กระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นได้ดำเนินการ หลายนักวิจัย
สร้างว่า กรดไขมันอิสระ ( FFA ) และความชื้นในน้ำมัน เป็นปัจจัยที่มีผลต่อ
- เร่ง transeste rification [ 2,9,23 ] น้ำมันควรมีเนื้อหา FFA และ
น้อยวัสดุที่ใช้ในปฏิกิริยาควรจะอย่างมากรัส
[ 2 ] รายงานในวรรณคดี บ่งชี้ว่า ปริมาณ FFA ใน
น้ำมันน่าจะน้อยกว่า 1% ก่อนจะเร่งกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นด่าง [ 13,14 ] น้ำมันที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี FFA เนื้อหาด้านล่าง 1 นาที %
มีร่องรอยของน้ำ . ดังนั้นน้ำมันนี้มีคุณลักษณะเหมาะที่จะใช้เป็นวัตถุดิบผลิตไบโอดีเซล
โดยกระบวนการขั้นตอนเดียว , ด่างปฏิกิริยาทรานสเอสเตอริฟิเคชัน .