Seub Nakhasathien tried to protect

Seub Nakhasathien tried to protect Huai Kha Kheang in every ways, but it was not enough to stop intrusions from those who seeked benefits. Protection and administration of a one-million-rai-forest with limited budget and human resources was very big responsibility and it constantly stressed him out. He found that the key problem of Huai Kha Kheang was poverty of those who lived around the forest. Poor villagers were used by rich and influential ones to work on illegal logging and hunting of wildlife in the area continuously.

In his view, one of ways to solve the problems were to create a buffer zone and moved villages to locate outside the zone, and at the same time developed the zone for villagers to make livings. However, Seub did not have enough power to materialize his idea, so he presented it to those with authorities. Unfortunately, no one listened, and Seub had to deal with the problems of Huai Kha Khaeng himself.

As Seub dedicated his life to conservation of forests, wildlife, and natural resources, his friends and colleagues agreed to carry on his will and dedication. Seub Nakhasathien Foundation was established with permission from the Ministry of Interior ten days after his royal-sponsored cremation, which was on September 18, 1990. Board members of the Foundation comprise those from various professionals who share the same idea with Seub. The Foundation was greatful to receive donation from Her Majesty the Queen in amount of 2,448,540 baht as starting funds, and from Her Royal Highness Princess Soamsavali in amount of 100,000 baht.

Besides this, the Foundation received donations from Seub’s relatives and friends. The Thai Government by former Prime Minister General Chartichai Choonhavan, took charge in fund raising for the Foundation. As a result, the starting funds of the Foundation was in total amount of 16.5 million baht. Only interest income of the starting funds is used for the Foundation’s activities. It can therefore be summarized that ideas of forest and wildlife conservations belongs to all walks of life; the Board Members are only those who help out in materializing the ideas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นาคะเสถียรพยายามปกป้องห้วยข่ารอมในทุกวิธี แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดการบุกรุกจากผู้ที่ seeked ประโยชน์ การป้องกันและการจัดการของหนึ่งล้านไร่ป่าด้วยงบประมาณจำกัดและบุคลากรรับผิดชอบที่ใหญ่มาก และมันตลอดเวลาเครียดเขา เขาพบว่า ปัญหาสำคัญของห้วยข่ารอม ความยากจนของผู้ที่อาศัยอยู่รอบป่า ชาวบ้านยากจนถูกใช้ โดยคนรวย และมีอิทธิพลทำผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบ และล่าสัตว์ของสัตว์ป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในมุมมองของเขา วิธีในการแก้ปัญหาการ สร้างบัฟเฟอร์โซน และย้ายหมู่บ้านเพื่อค้นหาภายนอกเขตพื้นที่ และในเวลาเดียวกันพัฒนาโซนของชาวบ้านเพื่อให้ท่าน อย่างไรก็ตาม Seub ไม่มีพลังพอที่จะเบิกความคิดของเขา เพื่อให้เขานำเสนอกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น อับ ไม่มีใครฟัง และ Seub ได้เพื่อจัดการกับปัญหาของห้วยขาแข้งตัวเองเป็น Seub ทุ่มเทชีวิตเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเขายอมรับให้เขาอุทิศและจะ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร Seub ก่อได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยสิบวันหลังจากเขาสนับสนุนโรงศพ ที่วันที่ 18 กันยายน 2533 คณะกรรมการของมูลนิธิประกอบด้วยจากผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ที่แบ่งปันความคิดเดียวกับ Seub มูลนิธิรับรู้สึกขอบคุณการรับบริจาค จากราชินีจำนวน 2,448,540 บาท เป็นเงินเริ่มต้น และ Soamsavali พระเจ้าลูกเธอในจำนวน 100,000 บาท นอกจากนี้ มูลนิธิได้รับบริจาคจากญาติและเพื่อนของ Seub รัฐบาลไทย โดยณหะวัณ Chartichai อดีตนายกรัฐมนตรีทั่วไป ใช้เวลาในการระดมทุนสำหรับมูลนิธิ เป็นผล กองทุนเริ่มต้นของมูลนิธิเป็นจำนวนเงิน 16.5 ล้านบาท ใช้เฉพาะดอกเบี้ยของเงินทุนเริ่มต้นสำหรับกิจกรรมของมูลนิธิ มันสามารถดังนั้นสรุปได้ว่า ความคิดเมื่อประมาณป่าและสัตว์ป่าเป็นของทุกเดินชีวิต คณะกรรมการมีเพียงผู้ที่ช่วยในการ materializing ความคิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สืบนาคะเสถียรพยายามที่จะปกป้องห้วยขา Kheang ในทุกวิธี แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดการโจมตีจากผู้ที่ seeked ประโยชน์ การป้องกันและการบริหารงานของไร่ป่าหนึ่งล้านด้วยงบประมาณและทรัพยากรมนุษย์ จำกัด เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มากและมันอย่างต่อเนื่องเน้นเขาออก เขาพบว่าปัญหาสำคัญของห้วยขา Kheang เป็นความยากจนของผู้ที่อาศัยอยู่รอบป่า ชาวบ้านยากจนที่ถูกนำมาใช้โดยคนที่อุดมไปด้วยและมีอิทธิพลในการทำงานกับการลักลอบตัดไม้และการล่าสัตว์ของสัตว์ป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง.

ในมุมมองของเขาเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาที่มีการสร้างเขตกันชนและย้ายหมู่บ้านเพื่อหาที่อยู่นอกเขตและ ในเวลาเดียวกันการพัฒนาโซนสำหรับชาวบ้านที่จะทำให้สิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตามสืบไม่ได้มีพลังมากพอที่จะทำให้ความคิดของเขาเพื่อให้เขานำเสนอไปยังผู้ที่มีเจ้าหน้าที่ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครฟังและสืบมีการจัดการกับปัญหาที่เกิดจากห้วยขาแข้งตัวเอง.

ในฐานะที่เป็นสืบอุทิศชีวิตของเขาเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติและเพื่อนร่วมงานของเขาตกลงที่จะดำเนินการในพระทัยและการอุทิศตนของเขา มูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ก่อตั้งขึ้นโดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยสิบวันหลังจากที่พระราชสนับสนุนการเผาศพของเขาซึ่งเป็นวันที่ 18 กันยายน 1990 คณะกรรมการของมูลนิธิประกอบด้วยผู้ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่แสดงความคิดเดียวกันกับสืบ มูลนิธิก็ขอบคุณที่จะได้รับการบริจาคจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีในวงเงิน 2,448,540 บาทเริ่มต้นเงินและจากการเสด็จ Soamsavali ในจำนวน 100,000 บาท.

นอกจากนี้มูลนิธิได้รับเงินบริจาคจากญาติสืบและเพื่อน รัฐบาลไทยโดยอดีตนายกรัฐมนตรีทั่วไป Chartichai ชุ ณ หะวัณ, เอาค่าใช้จ่ายในการระดมทุนสำหรับมูลนิธิ เป็นผลให้เงินทุนเริ่มต้นของมูลนิธิอยู่ในจำนวน 16.5 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยของเงินเริ่มต้นเพียงใช้สำหรับกิจกรรมของมูลนิธิฯ มันจึงสามารถสรุปได้ว่ามีความคิดของป่าและสัตว์ป่าอนุรักษ์เป็นของทุกเดินชีวิต; คณะสมาชิกเฉพาะผู้ที่ช่วยออกในรายอื่นคิด