This week on our national parks jou

This week on our national parks journey, we travel to the northwestern state of Oregon. Here, you will find a huge, deep lake. It waters seem impossibly blue. It is the deepest lake in America and one of the deepest lakes in the world. Its water among the clearest and purest found on Earth.

Around the lake runs the wall of an extinct volcano. In the middle of the lake a small island rises over 230 meters above the surface.

Welcome to Crater Lake National Park.

Reflections in Crater Lake
Reflections in Crater Lake

The lake’s beauty inspires artists, photographers and nature lovers. That beauty was born from the violent burst of Mount Mazama about 7,700 ago. Hot liquid -- called magma -- rose from deep under the mountain, causing it to collapse.

The powerful burst destroyed the surrounding area. Huge amounts of ash fell on the land. The burst also left an enormous, circular hole in the mountain’s center. Scientists call this a caldera.

An aerial view of Crater Lake National Park from NASA
An aerial view of Crater Lake National Park from NASA

Over the next hundreds of years, rain and snow filled the hole with water. Rainfall and snowfall are the lake’s only source of water. It has no connections to the rivers and streams around it. That is what keeps its waters so pure.

As water collected, plants began to grow in the area again and animals returned. Scientists say it took about 250 years for the lake to rise to its current level.

Crater Lake is 592 meters deep. It is one of the 10 deepest on Earth. But, its depth is not the only remarkable quality. People are awed by its water color and clarity.

Wizard Island and Crater Lake
Wizard Island and Crater Lake

Crater Lake is so clear that, on most days, you can see nearly 30 meters below the surface. The lake takes on its intense blue color because of the water’s clarity. Sunlight reaches deep into the water.

Crater Lake gets its name from geology. A crater is a large bowl-shaped area on top of a volcano. The crater that formed the lake sits within the larger caldera.

Human History

Native Americans were in the area even before the lake’s formation. Researchers have found artifacts buried under layers of ash and dust from the Mount Mazama's huge eruption.

Following the burst, Native Americans considered Crater Lake to be a holy place. Ancient Native American stories describe the eruption of Mount Mazama.

European explorers and settlers did not arrive in the area until the middle 1800s. In 1865, a hunter became one of the first non-Native Americans to reach the shores of Crater Lake.

In 1870, a boy in Kansas read a newspaper article about the strange lake in Oregon. The story about Crater Lake fascinated the young William Gladstone Steel. He promised himself he would one day see this lake.

In 1872, Steel’s family moved to Portland, Oregon, about 375 kilometers north of the lake. Thirteen years later, Steel honored his promise and visited Crater Lake. Its beauty moved him greatly. He began a 17-year fight to preserve the area as a public park.

Steel was a writer. He described one of his first visits to Crater Lake in 1886 in the “West Shore” magazine.

“Not a foot of the land about the lake has been touched or claimed. An overmastering conviction came to me that this wonderful spot must be saved, wild and beautiful, just as it was, for all future generations.”

His proposal of creating a national park did not please nearby sheep herders and miners.

But, his efforts succeeded anyway. On May 22, 1902 Crater Lake became the country’s fifth national park. It remains the only national park in Oregon. And William Gladstone Steel is called the “Father of Crater Lake.”

A park ranger speaks with visitors in the early days of Crater Lake National Park
A park ranger speaks with visitors in the early days of Crater Lake National Park

Visiting the Park

Crater Lake National Park covers 740 square kilometers. The lake itself makes up less than 10 percent of the park. It also includes surrounding mountains and thick forests. The trees shelter many kinds of animals, from black bears to elk to spotted owls.

The northern spotted owl
The northern spotted owl

About 480,000 people visit Crater Lake National Park each year. They explore by car, bicycle, or on foot.

Roads that encircle Crater Lake usually are open from July through October, depending on weather. They provide breathtaking displays of the lake’s unusual blue color as well as the thick forests around it.

Crater Lake National Park also has more than 140 kilometers of hiking trails. The Cleetwood Cove Trail drops more than 200 meters down to the edge of Crater Lake. It leads to a spot where swimming is permitted.

The water is extremely cold. Most swimmers cannot stay in for more than a few minutes. Crater Lake’s average water temperature is just three degrees Celsius. In summer, the lake’s surface warms to about 10 degrees Celsius.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัปดาห์นี้เดินสวนสาธารณะแห่งชาติ ทางเราเดินทางไปยังตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐโอเรกอน ที่นี่ คุณจะพบทะเลสาบใหญ่ ลึก มันน้ำดูเหมือนสีน้ำเงินเหลือ มันเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในอเมริกาและหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก น้ำใส และบริสุทธิ์ที่สุดที่พบบนโลกรอบทะเลสาบทำผนังของภูเขาไฟการสูญพันธุ์ กลางทะเลสาบ มีเกาะเล็ก ๆ ขึ้นกว่า 230 เมตรเหนือพื้นผิวยินดีต้อนรับสู่อุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสะท้อนในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสะท้อนในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟความงามของทะเลสาบเป็นแรงบันดาลใจศิลปิน ช่างภาพ และผู้รักธรรมชาติ ความงามที่เกิดจากการปะทุที่รุนแรงของ Mount Mazama ประมาณ 7,700 แล้ว ของเหลวร้อน -เรียกว่าหินหนืด - กุหลาบจากส่วนลึกใต้ภูเขา ก่อให้เกิดการยุบระเบิดพลังทำลายพื้นที่โดยรอบ เถ้าจำนวนมากลงบนแผ่นดิน ถ่ายภาพต่อเนื่องอยู่หลุมใหญ่ วงกลมกลางหุบเขา นักวิทยาศาสตร์เรียกนี้เป็นปล่องภูเขาไฟทัศนียภาพของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟจากนาซ่าทัศนียภาพของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟจากนาซ่ากว่าร้อยปีถัดไป ฝนและหิมะเต็มไปด้วยหลุมน้ำ ของทะเลสาบแหล่งเดียวของน้ำฝนและหิมะได้ เชื่อมต่อกับแม่น้ำและลำธารทั่วมันไม่ได้ ที่เป็นสิ่งที่ทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์ดังนั้นเรียกเก็บน้ำ พืชเริ่มเติบโตในพื้นที่อีกครั้ง และคืนสัตว์ นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ใช้เวลาประมาณ 250 ปีทะเลสาบเพิ่มขึ้นถึงระดับปัจจุบันทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเป็น 592 เมตรลึก มันเป็นหนึ่งใน 10 ที่ลึกที่สุดในโลก แต่ ลึกของไม่มีคุณภาพโดดเด่นเท่านั้น คนที่กลัวน้ำสีและความคมชัดช่วยสร้างเกาะและทะเลสาบปล่องภูเขาไฟช่วยสร้างเกาะและทะเลสาบปล่องภูเขาไฟทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเป็นที่ชัดเจนว่า ทุกวัน คุณสามารถดูเกือบ 30 เมตรใต้พื้นผิว ทะเลสาบใช้เวลาบนสีน้ำเงินเข้มเนื่องจากความคมชัดของน้ำ แสงแดดมาถึงน้ำลึกทะเลสาบปล่องภูเขาไฟได้รับชื่อจากธรณีวิทยา ปล่องที่มีพื้นที่รูปชามขนาดใหญ่ด้านบนของภูเขาไฟ ปล่องภูเขาไฟที่เกิดขึ้นมาตั้งอยู่ภายในปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาวอเมริกันพื้นเมืองในพื้นที่ก่อนการก่อตัวของทะเลสาบได้ นักวิจัยได้พบโบราณวัตถุที่ฝังอยู่ใต้ชั้นของเถ้าและฝุ่นละอองจาก Mount Mazama ใหญ่ปะทุต่อเนื่อง ชาวอเมริกันพื้นเมืองถือว่าเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เรื่องราวของชาวอเมริกันพื้นเมืองโบราณอธิบายการปะทุของ Mount Mazamaนักสำรวจชาวยุโรปและตั้งถิ่นฐานไม่ได้เข้ามาในพื้นที่จนถึงกลางศตวรรษที่ 19 ในปี 1865 นักล่ากลายเป็นหนึ่งของแรกปลอดชาวอเมริกันพื้นเมืองไปถึงชายฝั่งของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟในค.ศ. 1870 เด็กในแคนซัสอ่านบทความหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับทะเลสาบแปลกในโอเรกอน เรื่องราวเกี่ยวกับทะเลสาบปล่องภูเขาไฟหลงเหล็กหนุ่มวิลเลียมแกลดสโตน เขาสัญญาว่า ตัวเองเขาจะหนึ่งวันเห็นทะเลสาบนี้ใน 1872 เหล็กของครอบครัวย้ายไปพอร์ตแลนด์ โอเรกอน ประมาณ 375 กิโลเมตรทางเหนือของทะเลสาบ สิบสามปีต่อมา เหล็กรับเกียรติสัญญาของเขา และชมทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ งามย้ายเขาอย่างมาก เขาเริ่มการต่อสู้ 17 ปีเพื่อรักษาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะเหล็กเป็นตัวเขียน เขาอธิบายเขาแรกเข้าชมทะเลสาบปล่องภูเขาไฟน้ำพุในนิตยสาร "ฝั่งตะวันตก" อย่างใดอย่างหนึ่ง"ไม่เท้าที่ดินทะเลสาบถูกสัมผัส หรืออ้างว่า มีความเชื่อมั่น overmastering มากับผมว่าจุดนี้ดีต้องบันทึก สวย งาม และป่าเหมือนมันเป็น คนรุ่นหลังทั้งหมด"ข้อเสนอของพระองค์สร้างเป็นอุทยานแห่งชาติไม่ได้กรุณาแกะผู้ปล่อยไวรัสและคนงานเหมืองแต่ ความพยายามประสบความสำเร็จต่อไป บน 22 พฤษภาคม 1902 ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟกลายเป็น อุทยานแห่งชาติห้าของประเทศ มันยังคงเป็นเพียงอุทยานแห่งชาติในโอเรกอน สหรัฐ และวิลเลียมแกลดสโตนเหล็กเรียกว่า "บิดาแห่งทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ"เรนเจอร์พาร์คพูดกับผู้เข้าชมในวันแรก ๆ ของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเรนเจอร์พาร์คพูดกับผู้เข้าชมในวันแรก ๆ ของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเยี่ยมชมสวนอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟคลุม 740 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบตัวเองทำให้ค่าน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของสวน นอกจากนี้มันยังมีรอบภูเขาและป่า ต้นไม้บ้านหลายชนิดของสัตว์ จากหมีดำกับกวางกับนกฮูกด่างนกฮูกด่างภาคเหนือนกฮูกด่างภาคเหนือประมาณ 480,000 คนเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแต่ละปี พวกเขาสำรวจรถ จักรยาน หรือถนนที่ล้อมรอบทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมักจะมีตั้งแต่กรกฎาคมถึงตุลาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ พวกเขาให้แสดงงดงามของทะเลสาบผิดปกติสีน้ำเงินสีตลอดจนป่ารอบ ๆอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟยังมีเส้นทางเดินป่ากว่า 140 กิโลเมตร เส้นทางโคฟ Cleetwood หยดลงไปขอบของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟกว่า 200 เมตร จะนำไปสู่จุดที่ว่ายน้ำได้น้ำจะเย็นมาก นักว่ายน้ำส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าพักในมากกว่าไม่กี่นาที อุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอยู่เพียง 3 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อน พื้นผิวของทะเลสาบอุ่นไปประมาณ 10 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัปดาห์ในการเดินทางของสวนสาธารณะแห่งชาติของเรานี้เราเดินทางไปยังรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของโอเรกอน ที่นี่คุณจะพบมากในทะเลสาบลึก มันดูเหมือนน้ำทะเลสีฟ้าเป็นไปไม่ได้ มันเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในอเมริกาและเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก น้ำในหมู่ที่ชัดเจนและบริสุทธิ์ที่พบบนโลก.

รอบทะเลสาบวิ่งบนผนังของภูเขาไฟสูญพันธุ์ ในช่วงกลางของทะเลสาบเกาะเล็ก ๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 230 เมตรเหนือพื้นผิว.

ยินดีต้อนรับสู่อุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่อง.

สะท้อนในทะเลสาบปล่อง
สะท้อนในทะเลสาบปล่อง

ความงามของทะเลสาบแรงบันดาลใจให้ศิลปินช่างภาพและคนที่รักธรรมชาติ ความงามที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรง Mazama ประมาณ 7,700 ที่ผ่านมา ของเหลวอุ่น - เรียกว่าหินหนืด -. เพิ่มขึ้นจากลึกลงไปใต้ภูเขาทำให้มันยุบ

ระเบิดที่มีประสิทธิภาพทำลายพื้นที่โดยรอบ จำนวนมากของเถ้าลงบนแผ่นดิน ระเบิดยังเหลือมหาศาลหลุมวงกลมในใจกลางของภูเขา นักวิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่าสมรภูมิ.

มุมมองทางอากาศของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องจากองค์การนาซ่า
มุมมองทางอากาศของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องจากองค์การนาซ่า

ในรอบหลายร้อยปีต่อไปของฝนและหิมะที่เต็มไปด้วยหลุมที่มีน้ำ ปริมาณน้ำฝนและหิมะเป็นทะเลสาบแหล่งเดียวของน้ำ แต่ก็มีการเชื่อมต่อกับแม่น้ำและลำธารไม่มีที่อยู่รอบ ๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้น้ำบริสุทธิ์.

ขณะที่น้ำที่เก็บรวบรวมพืชเริ่มที่จะเติบโตในพื้นที่อีกครั้งและสัตว์กลับ นักวิทยาศาสตร์บอกว่ามันใช้เวลาประมาณ 250 ปีสำหรับทะเลสาบที่จะเพิ่มขึ้นในระดับปัจจุบัน.

ทะเลสาบปล่องเป็น 592 เมตรลึก มันเป็นหนึ่งใน 10 ที่ลึกที่สุดในโลก แต่ลึกของมันไม่ได้เป็นเพียงที่มีคุณภาพที่โดดเด่น ผู้คนจะกลัวโดยน้ำสีและความคมชัดของ.

เกาะตัวช่วยสร้างและทะเลสาบปล่อง
เกาะตัวช่วยสร้างและทะเลสาบปล่อง

ทะเลสาบปล่องเป็นที่ชัดเจนเพื่อให้ในวันที่มากที่สุดที่คุณสามารถดูเกือบ 30 เมตรใต้พื้นผิว ทะเลสาบจะใช้เวลาในสีฟ้าที่รุนแรงเพราะความชัดเจนของน้ำ แสงแดดถึงลึกลงไปในน้ำ.

ทะเลสาบปล่องได้รับชื่อจากธรณีวิทยา ปล่องภูเขาไฟเป็นพื้นที่ชามรูปขนาดใหญ่ด้านบนของภูเขาไฟ ปากปล่องภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นในทะเลสาบตั้งอยู่ภายในสมรภูมิขนาดใหญ่.

ประวัติศาสตร์ของมนุษย์

ชนพื้นเมืองอเมริกันอยู่ในพื้นที่แม้กระทั่งก่อนที่การก่อตัวของทะเลสาบ นักวิจัยได้พบสิ่งประดิษฐ์ที่ฝังอยู่ใต้ชั้นของเถ้าและฝุ่นละอองจากการระเบิดขนาดใหญ่ภูเขา Mazama ของ.

หลังจากการระเบิดอเมริกันพื้นเมืองถือว่าเป็นทะเลสาบปล่องที่จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เรื่องราวโบราณพื้นเมืองอเมริกันอธิบายระเบิดของภูเขาไฟ Mazama ได้.

สำรวจชาวยุโรปมาตั้งถิ่นฐานและไม่ประสบความสำเร็จในพื้นที่จนกว่าจะถึงปี 1800 กลาง ในปี 1865 นักล่ากลายเป็นหนึ่งในคนแรกที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาชาวอเมริกันที่จะไปถึงชายฝั่งของทะเลสาบปล่องได้.

ในปี 1870 เป็นเด็กในแคนซัสอ่านบทความในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับทะเลสาบแปลกในโอเรกอน เรื่องราวเกี่ยวกับทะเลสาบปล่องหลงใหลหนุ่มวิลเลียมแกลดสโตนเหล็ก เขาสัญญากับตัวเองวันหนึ่งเขาจะเห็นทะเลสาบแห่งนี้.

ใน 1,872 ครอบครัวเหล็กย้ายไปพอร์ตแลนด์โอเรกอนประมาณ 375 กิโลเมตรทางเหนือของทะเลสาบ สิบสามปีต่อมาเหล็กเกียรติสัญญาของเขาและเยี่ยมชมทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ความงามของมันย้ายเขาอย่างมาก เขาเริ่มต้นการต่อสู้ 17 ปีเพื่อรักษาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ.

สตีลเป็นนักเขียน เขาอธิบายหนึ่งของการเข้าชมครั้งแรกของเขาที่จะทะเลสาบปล่องในปี 1886 ใน "ฝั่งตะวันตก" นิตยสาร.

"ไม่เท้าของที่ดินเกี่ยวกับทะเลสาบที่ได้รับการสัมผัสหรืออ้างว่า เชื่อมั่น overmastering มากับผมว่าจุดที่ยอดเยี่ยมนี้จะต้องถูกบันทึกไว้ในป่าและสวยงามเช่นเดียวกับที่มันเป็นสำหรับคนรุ่นอนาคตทั้งหมด. "

ข้อเสนอของเขาในการสร้างสวนสาธารณะแห่งชาติไม่โปรดเลี้ยงแกะบริเวณใกล้เคียงและคนงานเหมือง.

แต่ความพยายามของเขาประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1902 ทะเลสาบปล่องกลายเป็นสวนสาธารณะแห่งชาติของประเทศที่ห้า มันยังคงอุทยานแห่งชาติเฉพาะในโอเรกอน และวิลเลียมแกลดสโตนเหล็กเรียกว่า "พระบิดาแห่งทะเลสาบปล่อง."

เรนเจอร์พาร์คพูดกับผู้เข้าชมในวันแรกของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่อง
เรนเจอร์พาร์คพูดกับผู้เข้าชมในวันแรกของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่อง

เยี่ยมชมสวนสาธารณะ

ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแห่งชาติ อุทยานครอบคลุม 740 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบของตัวเองทำให้ขึ้นน้อยกว่าร้อยละ 10 ของสวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีภูเขาล้อมรอบและป่าไม้หนา ต้นไม้ที่พักพิงหลายชนิดของสัตว์จากหมีสีดำกวางนกฮูกด่าง.

ภาคเหนือเห็นนกฮูก
เหนือเห็นนกฮูก

เกี่ยวกับ 480,000 คนเข้าชมอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องในแต่ละปี พวกเขาสำรวจโดยรถยนต์จักรยานหรือเดินเท้า.

ถนนที่ล้อมรอบทะเลสาบปล่องมักจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ พวกเขาให้การแสดงอันน่าทึ่งของสีฟ้าของทะเลสาบที่ผิดปกติเช่นเดียวกับป่าทึบรอบ.

อุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องนอกจากนี้ยังมีมากกว่า 140 กิโลเมตรของเส้นทางเดินป่า Cleetwood Cove Trail ลดลงกว่า 200 เมตรลงไปที่ขอบของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ จะนำไปสู่จุดที่ว่ายน้ำได้รับอนุญาต.

น้ำหนาวมาก นักว่ายน้ำส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่ในไม่กี่นาทีมากกว่า อุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยทะเลสาบปล่องเป็นเพียงสามองศาเซลเซียส ในช่วงฤดูร้อน, พื้นผิวของทะเลสาบอุ่นประมาณ 10 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัปดาห์นี้ในการเดินทางสวนสาธารณะแห่งชาติของเรา เราเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐโอเรกอน ที่นี่คุณจะพบขนาดใหญ่ลึกทะเลสาบ มันดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ น้ำสีฟ้า มันเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในอเมริกาและเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก น้ำบริสุทธิ์และในหมู่ที่พบบนโลกรอบๆทะเลสาบวิ่งผนังของภูเขาไฟสูญพันธุ์ ในช่วงกลางของทะเลสาบเกาะเล็ก ๆขึ้นกว่า 230 เมตรเหนือพื้นผิวยินดีต้อนรับสู่ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอุทยานแห่งชาติสะท้อนในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสะท้อนในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟของทะเลสาบที่สวยงามแรงบันดาลใจจากศิลปิน , ช่างภาพและผู้รักธรรมชาติ ความงามที่เกิดจากการระเบิดที่รุนแรงของสาธารณชนเกี่ยวกับภูเขาหน้ามาแล้ว ของเหลวร้อน -- เรียกว่าหินหนืด - เพิ่มขึ้นจากลึกใต้ภูเขา ทำให้เกิดการยุบระเบิดพลังทำลายพื้นที่โดยรอบ ขนาดใหญ่ปริมาณของเถ้าตกบนแผ่นดิน ระเบิดยังเหลือมหาศาลวงกลมหลุมตรงกลางของภูเขา นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า Caldera .เป็นมุมมองทางอากาศของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟจากนาซาเป็นมุมมองทางอากาศของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟจากนาซากว่าร้อยปีถัดไป , ฝนและหิมะถมหลุมกับน้ำ ฝนและหิมะที่ทะเลสาบเป็นแหล่งเดียวของน้ำ มันไม่มีความสัมพันธ์กับแม่น้ำและลำธารล้อมรอบ นั่นคือสิ่งที่ทำให้น้ำมันบริสุทธิ์เหมือนน้ำที่รวบรวมพืชเริ่มเติบโตในพื้นที่อีกครั้ง และสัตว์ที่กลับมา นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามันใช้เวลาประมาณ 250 ปี ทะเลสาบจะเพิ่มขึ้นในระดับปัจจุบันของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเป็น 592 เมตรลึก มันเป็นหนึ่งใน 10 ที่ลึกที่สุดในโลก แต่ ความลึกของมันไม่ได้เป็นเพียงที่มีคุณภาพโดดเด่น คนถูกเรียกตามสี น้ำ และความชัดเจนของเกาะ พ่อมด และ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเกาะ พ่อมด และ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟทะเลสาบปล่องภูเขาไฟจึงชัดเจนว่า วันมากที่สุด คุณสามารถดูเกือบ 30 เมตรใต้พื้นผิว ทะเลสาบสีฟ้าเข้ม เพราะจะใช้ของของน้ำชัดเจน แสงแดดถึงลึกลงไปในน้ำทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ได้รับชื่อจากธรณีวิทยา ปล่องภูเขาไฟเป็นชามขนาดใหญ่ รูปทรง พื้นที่ด้านบนของภูเขาไฟ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ภายในขนาดใหญ่ Caldera .ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาวอเมริกันพื้นเมืองในพื้นที่ก่อนการก่อตัวของทะเลสาบ นักวิจัยได้พบวัตถุโบราณที่ฝังอยู่ภายใต้ชั้นของเถ้าและฝุ่นจากภูเขามาซามาใหญ่โตของการระเบิดดังระเบิด คนอเมริกันถือว่าเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ พื้นเมืองอเมริกันเรื่องราวอธิบายการระเบิดของภูเขาไฟสาธารณชน .และนักสำรวจชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานไม่ได้มาถึงในพื้นที่จนกว่า 1800 กลาง ใน 1865 ล่าเป็นหนึ่งในแรกที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันพื้นเมืองที่จะถึงชายฝั่งของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟในปี 1870 , เด็กผู้ชายในแคนซัสอ่านบทความในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับทะเลสาบที่แปลกในโอเรกอน เรื่องราวเกี่ยวกับทะเลสาบปล่องภูเขาไฟหลงใหลหนุ่มวิลเลียมแกลดสโตนเหล็ก เขาสัญญากับตัวเองเขาวันหนึ่งจะเห็นทะเลสาบนี้ใน 1872 , ครอบครัวเหล็กก็ย้ายไป Portland , Oregon , 375 กิโลเมตรทางเหนือของทะเลสาบ สิบสามปีต่อมา , เหล็กเกียรติสัญญาของเขาและเยี่ยมชมทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ความงามของมันย้ายเขาอย่างมาก เขาเริ่มการต่อสู้กับ 17 ปี เพื่อรักษาพื้นที่ที่เป็นสวนสาธารณะเหล็กเป็นนักเขียน เขาอธิบายหนึ่งของการเยี่ยมชมครั้งแรกของเขาไปยังทะเลสาบปล่องภูเขาไฟใน 1886 ใน " ชายฝั่งตะวันตก " นิตยสาร" ไม่ใช่เท้าของที่ดินเกี่ยวกับทะเลสาบได้รับการแตะต้อง หรืออ้างว่า การ overmastering ความเชื่อมั่นมาว่าจุดที่ยอดเยี่ยมนี้จะช่วยเสริมและสวยงาม มันเป็นเพียงสำหรับคนรุ่นอนาคตทั้งหมด”ข้อเสนอของเขาในการสร้างสวนสาธารณะแห่งชาติไม่ได้กรุณาเลี้ยงแกะในบริเวณใกล้เคียงและผู้ปฏิบัติแต่ความพยายามของเขาสำเร็จแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1902 กลายเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอุทยานแห่งชาติที่ห้าของประเทศ มันยังคงเป็นเพียงอุทยานแห่งชาติในโอเรกอน และวิลเลียมแกลดสโตนเหล็กเรียกว่า " บิดาแห่งทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ "เจ้าหน้าที่อุทยานได้พูดกับผู้เข้าชมในวันแรก ๆของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเจ้าหน้าที่อุทยานได้พูดกับผู้เข้าชมในวันแรก ๆของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟเยี่ยมชมสวนสาธารณะทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอุทยานแห่งชาติครอบคลุม 740 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบนั้นทำให้ขึ้นน้อยกว่าร้อยละ 10 ของสวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังรวมถึง ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้หนา ต้นไม้ที่พักพิงสัตว์หลายชนิดจากหมีดำกวางจะเห็นนกฮูกนกฮูกเหนือด่างนกฮูกเหนือด่างประมาณ 480 , 000 คนเข้าชมปล่องภูเขาไฟทะเลสาบสวนสาธารณะแห่งชาติในแต่ละปี พวกเขาสำรวจโดยรถยนต์ , จักรยานหรือการเดินเท้าถนนที่โอบล้อมทะเลสาบปล่องภูเขาไฟมักจะเปิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ พวกเขาให้การแสดงที่งดงามของทะเลสาบสีฟ้าที่ผิดปกติเช่นเดียวกับหนาป่ารอบๆทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอุทยานแห่งชาติยังมีมากกว่า 140 กิโลเมตรของเส้นทางเดินป่า การ cleetwood Cove เส้นทางลดลงกว่า 200 เมตรไปขอบของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ มันนำไปสู่จุดที่ว่ายน้ำเป็น อนุญาตน้ำหนาวมาก นักว่ายน้ำส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่ในนานกว่าไม่กี่นาที ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟของอุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 3 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อน , พื้นผิวของทะเลสาบอุ่นประมาณ 10 องศาเซลเซียส