To reduce the environmental impact

To reduce the environmental impact of a product efficiently, it is crucial to consider the entire value chain of the product; that is, to apply life cycle thinking, to avoid suboptimization and identify the areas where the largest potential improvements can be made. This study analyzed the carbon footprint (CF) of butter and dairy blend products, with the focus on fat content and size and type of packaging (including product waste at the consumer level). The products analyzed were butter with 80% fat in 250-g wrap, 250-g tub, and 10-g mini tub, and blends with 80% and 60% fat in 250-g tubs. Life cycle assessment was used to account for all greenhouse gas emissions from cow to consumer. A critical aspect when calculating the CF is how emissions are allocated between different products. Here, allocation of raw milk between products was based on a weighted fat and protein content (1:1.7), based on the price paid for raw milk to dairy farmers. The CF (expressed as carbon dioxide equivalents, CO2 for 1 kg of butter or blend (assuming no product waste at consumer) ranged from 5.2 kg (blend with 60% fat content) to 9.3 kg of CO2e (butter in 250-g tub). When including product waste at the consumer level, the CF ranged from 5.5 kg of CO2e (blend with 60% fat content) to 14.7 kg of CO2e (butter in mini tub). Fat content and the proportion of vegetable oil in products had the greatest effect on CF of the products, with lower fat content and a higher proportion of vegetable oil resulting in lower CF. Hence, if the same functionality as butter could be retained while shifting to lower fat and higher proportions of vegetable oil, the CF of the product would be decreased. Size and type of packaging were less important, but it is crucial to have the correct size and type of packaging to avoid product losses at the consumer. The greatest share of greenhouse gas emissions associated with butter production occurred at the farm level; thus, minimizing product losses in the whole value chain--from cow to consumer--is essential for efficient production.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของผลิตภัณฑ์นั่นคือความคิดที่จะใช้วงจรชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงการ suboptimization และระบุพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดของการปรับปรุงที่มีศักยภาพสามารถทำ การศึกษานี้วิเคราะห์รอยเท้าคาร์บอน (CF) ของเนยและนมผสมผลิตภัณฑ์โดยมุ่งเน้นที่ปริมาณไขมันและขนาดและชนิดของบรรจุภัณฑ์ (รวมทั้งของเสียของผลิตภัณฑ์ในระดับที่ผู้บริโภค) ผลิตภัณฑ์ที่นำมาวิเคราะห์เป็นเนยที่มีไขมัน 80% ใน 250 กรัมห่อ, อ่าง 250 กรัมและ 10 กรัมมินิอ่างอาบน้ำและผสมผสานกับ 80% และ 60% ไขมันใน 250 กรัมอ่าง การประเมินวัฏจักรชีวิตถูกใช้ในการบัญชีสำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากวัวให้กับผู้บริโภคลักษณะที่สำคัญเมื่อคำนวณ CF เป็นวิธีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะถูกจัดสรรระหว่างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ที่นี่การจัดสรรน้ำนมดิบระหว่างผลิตภัณฑ์อยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักไขมันและปริมาณโปรตีน (1:1.7) บนพื้นฐานของราคาที่จ่ายให้น้ำนมดิบให้กับเกษตรกรโคนม CF (แสดงเป็นรายการเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ต่อ 1 กิโลกรัมของเนยหรือผสมผสาน (สมมติว่าเสียไม่มีสินค้าที่ผู้บริโภค) ตั้งแต่ 52 กก. (ผสมผสานกับปริมาณไขมัน 60%) เป็น 9.3 กิโลกรัม co2e (เนยในอ่าง 250 กรัม) เมื่อรวมทั้งของเสียของผลิตภัณฑ์ในระดับผู้บริโภคที่ CF ตั้งแต่ 5.5 กก. ของ co2e (ผสมผสานกับปริมาณไขมัน 60%) ที่ 14.7 กิโลกรัม co2e (เนยในอ่างมินิ) ปริมาณไขมันและสัดส่วนของน้ำมันพืชในผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน CF ของผลิตภัณฑ์มีปริมาณไขมันต่ำและมีสัดส่วนที่สูงขึ้นของน้ำมันพืชผลใน CF ที่ต่ำกว่า ด้วยเหตุนี้ถ้าทำงานเช่นเดียวกับเนยจะถูกเก็บรักษาไว้ในขณะที่ขยับไปสู่​​การลดไขมันและสัดส่วนที่สูงขึ้นของน้ำมันพืช CF ของผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับการลดลง ขนาดและชนิดของบรรจุภัณฑ์ที่มีความสำคัญน้อยกว่าแต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีขนาดที่ถูกต้องและชนิดของบรรจุภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียของสินค้าที่ผู้บริโภค หุ้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเนยที่เกิดขึ้นในระดับฟาร์มดังนั้นการลดการสูญเสียของสินค้าในห่วงโซ่คุณค่าทั้ง - จากวัวให้กับผู้บริโภค - เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการพิจารณาห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ นั่นคือ การใช้วงจรคิด หลีกเลี่ยง suboptimization และระบุพื้นที่ที่สามารถทำการปรับปรุงเป็นไปได้มากที่สุด ศึกษาวิเคราะห์รอยเท้าคาร์บอน (CF) ของเนยและผลิตภัณฑ์จากนมผสม โดยเน้นไขมันขนาด และชนิดของบรรจุภัณฑ์ (รวมถึงผลิตภัณฑ์เสียในระดับผู้บริโภค) ผลิตภัณฑ์วิเคราะห์มีเนย มีไขมัน 80% ในตัด 250 g, 250 g อ่างอาบ น้ำ อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก 10 g และผสมกับไขมัน 80% และ 60% ในอ่าง 250 g ใช้การประเมินวงจรชีวิตของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากวัวเพื่อผู้บริโภค ด้านสำคัญเมื่อคำนวณการ CF เป็นวิธีปล่อยถูกปันส่วนระหว่างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่นี่ การจัดสรรน้ำนมดิบระหว่างผลิตภัณฑ์ขึ้นถ่วงน้ำหนักไขมันและโปรตีน (1:1.7), ขึ้นอยู่กับราคาที่จ่ายสำหรับน้ำนมดิบกับเกษตรกร CF (แสดงเป็นเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 สำหรับ 1 กิโลกรัมเนยหรือผสม (สมมติว่าไม่มีเสียผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภค) มา 52 กิโลกรัม (ผสม 60% ไขมัน) ถึง 9.3 กิโลกรัมของ CO2e (เนยในอ่างอาบน้ำ 250 g อยู่ในเมื่อรวมผลิตภัณฑ์เสียในระดับผู้บริโภค CF ที่ช่วงจาก 5.5 กก.ของ CO2e (ผสมกับไขมัน 60%) ถึง 14.7 กิโลกรัมของ CO2e (เนยในอ่างอาบน้ำขนาดเล็ก) ไขมันและสัดส่วนของน้ำมันพืชในผลิตภัณฑ์ได้ผลมากที่สุดใน CF ของผลิตภัณฑ์ มีไขมันต่ำกว่าและสูงกว่าสัดส่วนของน้ำมันพืช ผลล่างมัทธิว Hence ถ้าสามารถรักษาฟังก์ชันการทำงานเดียวกันเป็นเนยในขณะที่ต้องลดไขมัน และสูงกว่าสัดส่วนของน้ำมันพืช CF ของผลิตภัณฑ์จะสามารถลด ขนาดและชนิดของบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญน้อยกว่า แต่การมีขนาดที่ถูกต้องและชนิดของบรรจุภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภค ใช้ร่วมกันมากที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเนยเกิดขึ้นในระดับฟาร์ม ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ขาดทุนที่สำคัญในห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด - จากวัวเพื่อผู้บริโภค - เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ ผลิตภัณฑ์ ที่ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของ ผลิตภัณฑ์ ที่มีการใช้ความคิดการใช้ชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยง suboptimization และระบุส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการปรับปรุงจะทำให้ การศึกษานี้วิเคราะห์ปริมาณคาร์บอน( CF )ของ ผลิตภัณฑ์ การผสมผสาน ผลิตภัณฑ์ นมและเนยพร้อมด้วยการมุ่งเน้นในขนาดและ ประเภท และไขมันของบรรจุ ภัณฑ์ (รวมถึงขยะของ ผลิตภัณฑ์ ในระดับที่) สินค้าที่นำมาวิเคราะห์เป็นเนยสดพร้อมด้วย 80% ไขมันในผสมผสานและ 250 - สรุปรวบรวมผล G 250 - G และอ่างอาบน้ำ 10 - G ขนาดมินิอ่างอาบน้ำพร้อมด้วย 80% และ 60% ไขมันใน 250 - อ่าง G การประเมินวงจรชีวิตถูกใช้ในแอคเคาท์สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดจากวัวให้กับ ผู้บริโภคลักษณะที่สำคัญเมื่อคำนวณ CF จะอยู่ได้อย่างไรการปล่อยได้รับการจัดสรรให้ระหว่าง ผลิตภัณฑ์ อื่น ที่นี่การจัดสรรนมดิบระหว่างว่าเป็นสินค้าที่ใช้เนื้อหาไขมันและโปรตีนที่ถ่วงน้ำหนัก( 1 : 1.7 )ซึ่งใช้สำหรับราคาที่จ่ายเงินในการทำนมดิบให้เกษตรกรโคนม CF (หน่วยเป็นเท่ากันปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ความร่วมมือ 2 สำหรับ 1 กก.ของการผสมผสานหรือเนย(ไม่มีขยะ ผลิตภัณฑ์ ที่ ผู้บริโภค )จาก 52 กก.(ผสมผสานเข้ากับไขมัน 60% )ถึง 9.3 กก. CO 2 E (ใส่เนยลงไปในอ่างน้ำ 250 - G ) เมื่อรวมขยะของ ผลิตภัณฑ์ ในระดับที่ CF จะจาก 5.5 กก.ของความร่วมมือ 2 E (ผสมผสานเข้ากับเนื้อหาอ้วน 60% )ถึง 14.7 กก. CO 2 E (ใส่เนยลงไปในอ่างอาบน้ำมินิ) ไขมันและสัดส่วนของน้ำมันพืชในสินค้ามีผลที่สุดใน CF ของสินค้าที่พร้อมด้วยเนื้อหาไขมันต่ำและมีสัดส่วนที่สูงขึ้นส่งผลให้น้ำมันพืชให้อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นหากมีฟังก์ชันการทำงานเหมือนกับที่เป็นเนยสดไม่สามารถจะเก็บเอาไว้ในขณะที่การเปลี่ยนรูปแบบการลดสัดส่วนที่เพิ่มสูงและไขมันจากน้ำมันพืช CF ของ ผลิตภัณฑ์ ที่จะได้รับการลด ขนาดและ ประเภท ของบรรจุ ภัณฑ์ มีความสำคัญน้อยแต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะมีขนาดและ ประเภท ที่ถูกต้องของบรรจุ ภัณฑ์ เพื่อป้องกันความเสียหายของ ผลิตภัณฑ์ ที่ ผู้บริโภค ใช้ร่วมกันมากที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเนยขึ้นในระดับฟาร์มจึงลดการสูญเสียของ ผลิตภัณฑ์ ในห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดจากวัวให้กับ ผู้บริโภค เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตงานที่มี ประสิทธิภาพ