A student development theory based

A student development theory based on student involvement is presented and described, and the implications for practice and research are discussed.
Even a casual reading of the extensive literature on student development in higher education can create confusion and perplexity. One finds not only that the problems being studied are highly diverse but also that investigators who claim to be studying the same problem frequently do not look at the same variables or employ the same methodologies. And even when they are investigating the same variables, different investigators may use completely different terms to describe and discuss these variables. My own interest in articulating a theory of student development is partly practical—I would like to bring some order into the chaos of the literature—and partly self-protective. I and increasingly bewildered by the muddle of findings that have emerged from my own research in student development, research that I have been engaged in for more than 20 years. The theory of student involvement that I describe in this article appeals to me for several reasons. First, it is simple: I have not needed to draw a maze consisting of dozens of boxes interconnected by two-headed arrows to explain the basic elements of the theory to others. Second, the theory can explain most of the empirical knowledge about environmental influences on student development that researchers have gained over the years. Third, it is capable of embracing principles from such widely divergent sources as psychoanalysis and classical learning theory. Finally, this theory of student involvement can be used both by researchers to guide their investigation of student development—and by college administrators and faculty—to help them design more effective learning environments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดง และอธิบายทฤษฎีพัฒนานักเรียนตามที่นักเรียนมีส่วนร่วม และมีการกล่าวถึงผลวิจัยและปฏิบัติแม้อ่านสบาย ๆ ของวรรณกรรมอย่างกว้างขวางในการพัฒนานักเรียนในระดับอุดมศึกษาสามารถสร้างความสับสนและ perplexity หนึ่งพบว่า ไม่ เพียงว่า ปัญหาที่มีการศึกษามีความหลากหลายสูง แต่ยัง ว่านักสืบผู้อ้างจะต้องศึกษาปัญหาเดียวกันบ่อยไม่ดูที่ตัวแปรเดียว หรือใช้วิธีเดียวกัน และแม้ว่าพวกเขาจะตรวจสอบตัวแปรเดียว นักวิจัยแตกต่างกันอาจใช้ศัพท์ต่างกันอย่างสมบูรณ์จะอธิบาย และพูดคุยเกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้ มีบางส่วนของตัวเองสนใจในทฤษฎีของการพัฒนานักเรียนอย่างชัดเจน — อยากสั่งบางให้ความสับสนวุ่นวายของวรรณกรรม — และ self-protective บางส่วน ฉัน และสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยยุ่งเหยิงของการค้นพบที่ได้เกิดจากงานวิจัยของตัวเองในการพัฒนานักศึกษา งานวิจัยที่ฉันมีการหมั้นในมากกว่า 20 ปี ทฤษฎีของนักเรียนมีส่วนร่วมว่า ผมอธิบายในบทความนี้ดึงดูดใจฉันด้วยเหตุผลหลายประการ ครั้งแรก มันเป็นเรื่องง่าย: ฉันมีไม่จำเป็นต้องวาดเขาวงกตที่ประกอบด้วยหลายสิบของกล่องที่สองหัวลูกศรเพื่ออธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของทฤษฎีให้ผู้อื่นเข้าใจ ที่สอง ทฤษฎีสามารถอธิบายมากที่สุดของความรู้เชิงประจักษ์เกี่ยวกับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมในการพัฒนานักเรียนที่นักวิจัยได้รับในปี ที่สาม ก็สามารถกอดหลักจากแหล่งดังกล่าวแตกต่างกันอย่างแพร่หลายเป็นจิตใน และคลาสสิกทฤษฎีการเรียนรู้ ในที่สุด ทฤษฎีนี้ของนักเรียนมีส่วนร่วมสามารถใช้ทั้ง โดยนักวิจัยเพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนของนักพัฒนา — และ โดยผู้ดูแลระบบวิทยาลัยและคณาจารย์ — เพื่อช่วยในการออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการพัฒนานิสิตนักศึกษาอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของนักเรียนจะนำเสนอและอธิบายและความหมายสำหรับการปฏิบัติและการวิจัยที่จะกล่าวถึง.
แม้การอ่านสบาย ๆ ของวรรณกรรมอย่างกว้างขวางในการพัฒนานิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาสามารถสร้างความสับสนและความฉงนสนเท่ห์ หนึ่งที่พบว่าไม่เพียงว่าปัญหาที่มีการศึกษามีความหลากหลายสูง แต่ยังว่านักวิจัยที่อ้างว่าเป็นการศึกษาปัญหาเดียวกันบ่อยไม่ได้ดูที่ตัวแปรเดียวกันหรือจ้างวิธีการเดียวกัน และถึงแม้พวกเขาจะตรวจสอบตัวแปรเดียวกันนักวิจัยที่แตกต่างกันอาจจะใช้เงื่อนไขที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงในการอธิบายและหารือเกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้ ความสนใจของผมเองในการสื่อสารทฤษฎีของการพัฒนานักเรียนเป็นจริงผมส่วนหนึ่งต้องการที่จะนำคำสั่งบางอย่างในความสับสนวุ่นวายของวรรณกรรมและอีกส่วนหนึ่งด้วยตนเองป้องกัน ฉันและสับสนยุ่งเหยิงมากขึ้นโดยผลการวิจัยที่ได้เกิดจากการวิจัยของตัวเองในการพัฒนานักเรียนวิจัยที่ฉันได้รับการว่าจ้างในมานานกว่า 20 ปี ทฤษฎีของการมีส่วนร่วมของนักเรียนที่ผมอธิบายไว้ในบทความนี้ดึงดูดความสนใจให้ฉันด้วยเหตุผลหลายประการ ครั้งแรกมันเป็นเรื่องง่าย: ฉันไม่ได้จำเป็นที่จะดึงเขาวงกตที่ประกอบด้วยหลายสิบกล่องเชื่อมต่อกับสองหัวลูกศรที่จะอธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของทฤษฎีกับคนอื่น ๆ ประการที่สองทฤษฎีที่สามารถอธิบายได้ว่ามากที่สุดของความรู้เชิงประจักษ์เกี่ยวกับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมในการพัฒนานักเรียนที่นักวิจัยได้รับมากกว่าปีที่ผ่านมา ที่สามก็คือความสามารถในการกอดหลักการดังกล่าวมาจากแหล่งที่มาที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นจิตวิเคราะห์และทฤษฎีการเรียนรู้ที่คลาสสิก สุดท้ายทฤษฎีของการมีส่วนร่วมของนักเรียนนี้สามารถใช้ทั้งโดยนักวิจัยเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนของพวกเขาในการพัฒนานักศึกษาและผู้บริหารวิทยาลัยและคณะเพื่อช่วยให้พวกเขาออกแบบการเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น