In an empirical investigation of th

In an empirical investigation of this subject, McGrath (2013) found that state-level
politicians in the United States were willing to act on their preferences for “radical”
civil service reform (characterized by the decentralization of the personnel management
system) only when their political party held a majority of the seats in the state
legislature. He found further that their probability of success in moving a reform
174 Public Personnel Management 45(2)
forward depended on the size of their majority (McGrath, 2013); that is, reforms were
more likely to be enacted when the size of the majority was larger. When the majority
was small or thin, members of the majority party were more cautious as they realized
that a switch in majority control could mean that their opponents could overturn any
reform passed or might even benefit from the reform if they became the majority.
Importantly, McGrath (2013) found also that the propensity for reform was tempered
by the strength of public employee unions and by the proportion of seats in the legislature
held by Democrats. The period of time covered by McGrath’s study was from
1996 to 2005. In short, reform during this period was more likely to occur in states
where Republicans were in control politically, where their majority in the state legislature
was significant, and where public employee unions were weak. The fact that
reform was more probable when Republicans were in control is not surprising as the
agenda fits well with a conservative political ideology, as noted above, and conservatives
may be interested in reining in public bureaucracies that are perceived as sympathetic
to liberal Democratic objectives

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการสืบสวนเชิงประจักษ์ของแบบนี้ McGrath (2013) พบว่าระดับรัฐนักการเมืองในไทยก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะสำหรับ "อนุมูลอิสระ"การกระจายการบริหารจัดการบุคลากรปฏิรูปราชการระบบ) ก็ต่อเมื่อพรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่นั่งที่จัดขึ้นในรัฐเท่านั้นสภานิติบัญญัติ เขาพบเพิ่มเติมว่าน่าเป็นของพวกเขาประสบความสำเร็จในการย้าย reform บุคลากรสาธารณะ 174 45(2) การจัดการข้างหน้าขึ้นกับขนาดของส่วนใหญ่ของพวกเขา (McGrath, 2013); นั่นคือ การปฏิรูปได้โน้มที่จะถูกประกาศใช้เมื่อขนาดของส่วนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ เมื่อส่วนใหญ่ขนาดเล็ก หรือบาง สมาชิกส่วนใหญ่มีความระมัดระวังมากขึ้นพวกเขาตระหนักสวิตช์ควบคุมส่วนใหญ่อาจหมายถึง ว่า คู่แข่งสามารถคว่ำใด ๆปฏิรูปผ่าน หรืออาจได้ประโยชน์จากการปฏิรูปถ้าพวกเขาเป็นส่วนใหญ่สำคัญ McGrath (2013) พบยังที่ถูกอารมณ์นิสัยชอบการปฏิรูปด้วยความแรง ของสหภาพพนักงานสาธารณะ และสัดส่วนของที่นั่งในสภานิติบัญญัติจัด โดยประชาธิปัตย์ ระยะเวลาที่ครอบคลุมของ McGrath ศึกษามาจากปี 1996 2005 ในระยะสั้น ปฏิรูปช่วงนี้ถูกมากมักจะเกิดขึ้นในอเมริกาเพราะอยู่ในการควบคุมทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ของพวกเขาในสภานิติบัญญัติรัฐอย่างมีนัยสำคัญ และสหภาพพนักงานสาธารณะมาอ่อนแอที่ ความจริงที่การปฏิรูปก็น่าจะเพิ่มเติมเมื่อเพราะควบคุมไม่น่าแปลกใจเป็นการเหมาะกับวาระด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม ตามที่ระบุข้างต้น และพรรคอนุรักษ์นิยมสนใจ reining ใน bureaucracies สาธารณะที่มีการรับรู้เป็นเห็นอกเห็นใจวัตถุประสงค์ประชาธิปไตยเสรีนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการสืบสวนเชิงประจักษ์ของเรื่องนี้ McGrath (2013) พบว่าระดับรัฐ
นักการเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาก็เต็มใจที่จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการตั้งค่าของพวกเขาสำหรับ "รุนแรง"
การปฏิรูปข้าราชการพลเรือน (โดดเด่นด้วยการกระจายอำนาจในการบริหารบุคลากร
ของระบบ) เฉพาะเมื่อพวกเขา พรรคการเมืองที่จัดขึ้นส่วนใหญ่ของที่นั่งในรัฐ
สมาชิกสภานิติบัญญัติ เขาพบว่าต่อไปว่าน่าจะเป็นของความสำเร็จในการย้ายการปฏิรูป
174 งานบริหารบุคลากร 45 (2)
ข้างหน้าขึ้นอยู่กับขนาดของคนส่วนใหญ่ของพวกเขา (McGrath, 2013) นั้น ว่ามีการปฏิรูปมี
แนวโน้มที่จะได้รับการประกาศเมื่อขนาดของคนส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ เมื่อคนส่วนใหญ่
เป็นขนาดเล็กหรือบางสมาชิกของพรรคส่วนใหญ่เป็นระมัดระวังมากขึ้นขณะที่พวกเขาตระหนัก
ว่าสวิทช์ในการควบคุมส่วนใหญ่อาจหมายความว่าฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาอาจคว่ำใด ๆ
การปฏิรูปผ่านหรือแม้กระทั่งอาจได้รับประโยชน์จากการปฏิรูปถ้าพวกเขากลายเป็นส่วนใหญ่.
ที่สำคัญ McGrath (2013) นอกจากนี้ยังพบว่านิสัยชอบให้มีการปฏิรูปถูกอารมณ์
โดยความแรงของสหภาพพนักงานประชาชนและตามสัดส่วนของที่นั่งในสภานิติบัญญัติ
ที่จัดขึ้นโดยพรรคประชาธิปัตย์ ระยะเวลาที่ได้รับการคุ้มครองโดยการศึกษา McGrath คือจาก
ปี 1996 ถึงปี 2005 ในระยะสั้นการปฏิรูปในช่วงเวลานี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในรัฐ
ที่รีพับลิกันในการควบคุมทางการเมืองซึ่งส่วนใหญ่ของพวกเขาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
อย่างมีนัยสำคัญและสถานที่ที่ประชาชนสหภาพแรงงานพนักงาน กำลังอ่อนแอ ความจริงที่ว่า
การปฏิรูปก็น่าจะเป็นมากขึ้นเมื่อรีพับลิกันในการควบคุมไม่น่าแปลกใจเป็น
วาระพอดีกับอุดมการณ์ทางการเมืองอนุรักษนิยมตามที่ระบุไว้ข้างต้นและอนุรักษ์นิยม
อาจจะสนใจในการตื่นตัวในการปกครองของประชาชนที่จะรับรู้เป็นความเห็นอกเห็นใจ
กับวัตถุประสงค์ประชาธิปไตยเสรีนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการสืบสวนเชิงประจักษ์ของเรื่องนี้ McGrath ( 2013 ) พบว่าระดับรัฐนักการเมืองในสหรัฐอเมริกายินดีที่จะทำตามความต้องการของพวกเขาสำหรับ " รุนแรง "การปฏิรูประบบราชการ ( ลักษณะการกระจายอำนาจการบริหารบุคลากรระบบ ) เท่านั้น เมื่อพรรคการเมืองของตนถือส่วนใหญ่ของที่นั่งในรัฐรัฐสภา . เขาพบต่อไปว่า ความน่าจะเป็นของความสำเร็จในการปฏิรูปการบริหารงานบุคคลหรือการจัดการ 45 ( 2 )ข้างหน้า ขึ้นอยู่กับขนาดของส่วนใหญ่ของพวกเขา ( McGrath , 2013 ) ; นั่นคือ การปฏิรูปคือมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อขนาดของส่วนใหญ่เป็นขนาดใหญ่ เมื่อคนส่วนใหญ่ตัวเล็กหรือผอม สมาชิกของพรรคที่ได้เสียงข้างมากได้ระมัดระวังมากขึ้นตามที่พวกเขาตระหนักที่สวิตช์ในการควบคุมเสียงส่วนใหญ่อาจหมายความ ว่า คู่แข่งของพวกเขาสามารถคว่ำใด ๆการปฏิรูป ผ่าน หรือ อาจจะได้รับประโยชน์จากการปฏิรูป หากพวกเขาเป็น ส่วนใหญ่คัญ McGrath ( 2013 ) ยังพบว่า ความโน้มเอียงเพื่อการปฏิรูปเป็นอารมณ์โดยความแรงของพนักงานและสหภาพแรงงาน โดยสัดส่วนของที่นั่งในรัฐสภาที่จัดขึ้นโดยประชาธิปัตย์ ระยะเวลาที่ครอบคลุมโดย McGrath ของการศึกษาจากปี พ.ศ. 2548 ในระยะสั้น , การปฏิรูปในช่วงระยะเวลานี้เป็นมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่รีพับลิกันในการควบคุมทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นสำคัญ และที่พนักงานสหภาพแรงงานอ่อนแอ ความจริงที่ว่าการปฏิรูปจะมากขึ้นเมื่อรีพับลิกันในการควบคุม ไม่น่าแปลกใจเป็นวาระที่เหมาะกับพวกอนุรักษ์นิยมทางการเมือง อุดมการณ์ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น และอนุรักษนิยมอาจจะสนใจใน reining ในการปกครองประชาชนที่มีการรับรู้อย่างสงสารวัตถุประสงค์ของประชาธิปไตยเสรีนิยม