Dirty shared toilets are a health r

Dirty shared toilets are a health risk to users in urban slum settlements. For health and nonhealth benefits among users of shared toilets to be guaranteed, their cleanliness is important. The objective of this study was to investigate the cleanliness situation of shared toilets in Kampala’s slums and the psychological and social dilemma factors influencing users’ cleaning behaviour and commitment by using the risks, attitudes, norms, ability and selfregulation (RANAS) model and factors derived from the social dilemma theory. Methods We conducted a cross-sectional study in three slums of Kampala between December 2012 and January 2013. Data were collected from 424 household respondents that were primarily using shared toilets. Semi-structured questionnaires administered through face-to-face interviews were used in data collection. Linear regression was done for the multivariate analysis to test for the association between respondent cleaning behaviour and a combination of RANAS and social dilemma predictors. Results Out of 424 respondents interviewed, 44.3% reported cleaning the shared toilet daily, 34.4% cleaned once or several times a week, 1.4% cleaned every second week, 5.4% cleaned once or several times a month and 14.4% did not participate in cleaning. The main RANAS factors significantly associated with respondents’ cleaning behaviour were: attitudinal affective belief associated with cleaning a shared toilet (β = −0.13, P = 0.00) and self-regulating factors, such as coping planning (β = 0.42, P = 0.00), commitment (β = 0.24, P = 0.00), and remembering (β = 0.10, P = 0.01). For social dilemma factors, only the social motive factor was statistically significant (β = 0.15, P = 0.00). The R square for the linear model on factors influencing cleaning behaviour was 0.77 and R square for factors influencing cleaning commitment was 0.70. Conclusion The RANAS factors provide a more robust understanding of shared toilet users’ cleaning behaviour than social dilemma factors. Self-regulating factors and changing the negative affective cleaning feelings are shown to be very important for interventions to increase shared toilet users’ collective participation in their cleaning. In addition to RANAS, social dilemma factors have an important influence on slum residents’ commitment to clean their shared toilets

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้องน้ำสกปรกที่ใช้ร่วมกันจะเสี่ยงต่อสุขภาพผู้ใช้ในชุมชนแออัดเมืองการชำระเงิน สุขภาพและ nonhealth ผลประโยชน์ระหว่างผู้ใช้ห้องน้ำร่วมสามารถรับประกัน ความสะอาดของตนเป็นสำคัญ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบสถานการณ์ความสะอาดของห้องน้ำใช้ร่วมกันของคัมปาลา slums และลำบากใจทางจิตวิทยา และสังคมปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำความสะอาดและความมุ่งมั่นของผู้ใช้ โดยใช้ความเสี่ยง ทัศนคติ บรรทัดฐาน ความสามารถ และรุ่น selfregulation (RANAS) และปัจจัยที่มาจากทฤษฎีสังคมลำบากใจ วิธีที่เราดำเนินการศึกษาเหลวใน slums สามของคัมปาลาระหว่าง 2555 ธันวาคมเดือน 2013 มกราคม ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ตอบบ้าน 424 ที่ได้ใช้ห้องน้ำร่วมกัน แบบสอบถามกึ่งโครงสร้างจัดการผ่านสัมภาษณ์ลมีถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ถดถอยเชิงเส้นถูกทำสำหรับการวิเคราะห์ตัวแปรพหุการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการทำความสะอาด respondent และ RANAS และ predictors ลำบากใจทางสังคม ผลลัพธ์ของ 424 ผู้ตอบสัมภาษณ์ 44.3% รายงานซักร่วมห้องน้ำทุกวัน 34.4% ล้างครั้งเดียว หรือหลายครั้งต่อสัปดาห์ 1.4% ทำความสะอาดทุกสัปดาห์ที่สอง 5.4% ล้างครั้งเดียว หรือหลายครั้งเดือน และ 14.4% ไม่มีส่วนร่วมในการทำความสะอาด RANAS ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำความสะอาดผู้ตอบมากขึ้น: attitudinal เชื่อผลเกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดห้องน้ำใช้ร่วมกัน (β = −0.13, P = 0.00) และ ปัจจัยที่ควบคุมตนเอง เช่นการวางแผนรับมือ (β = 0.42, P = 0.00), มั่น (β = 0.24, P = 0.00), และจดจำ (β = 0.10, P = 0.01) การ สำหรับปัจจัยสังคมลำบากใจ เฉพาะปัจจัยแรงจูงใจทางสังคมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β = 0.15, P = 0.00) ตาราง R ในแบบจำลองเชิงเส้นกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำความสะอาด 0.77 และ R สแควร์สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำความสะอาดความมุ่งมั่น 0.70 ปัจจัย RANAS สรุปให้เข้าใจมากขึ้นแข็งแกร่งพฤติกรรมทำความสะอาดห้องน้ำใช้ร่วมกันผู้กว่าลำบากใจสังคมปัจจัย ปัจจัยที่ควบคุมตนเอง และการเปลี่ยนแปลงความรู้สึกทำความสะอาดผลลบแสดงให้มีความสำคัญมากสำหรับการรักษาเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ห้องน้ำร่วมกันรวมคน นอกจาก RANAS ลำบากใจสังคมปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญในชุมชนแออัดอาศัยความมุ่งมั่นทำความสะอาดห้องน้ำใช้ร่วมกันของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันสกปรกที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพให้กับผู้ใช้ในการชำระหนี้ในสลัมในเมือง เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพและ nonhealth ในหมู่ผู้ใช้ส้วมที่ใช้ร่วมกันที่จะรับประกันความสะอาดของพวกเขาเป็นสิ่งที่สำคัญ วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาสถานการณ์ความสะอาดของห้องสุขาที่ใช้ร่วมกันในชุมชนแออัดของกัมปาลาและภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางด้านจิตใจและสังคมปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำความสะอาดของผู้ใช้และความมุ่งมั่นโดยใช้ความเสี่ยงที่ทัศนคติบรรทัดฐานความสามารถและความ selfregulation (Ranas) รูปแบบและปัจจัยที่ได้มา จากทฤษฎีภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสังคม วิธีการที่เราดำเนินการศึกษาแบบตัดขวางในสามชุมชนแออัดของกัมปาลาระหว่างเดือนธันวาคมปี 2012 และมกราคม 2013 เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถาม 424 ครัวเรือนที่ได้รับส่วนใหญ่ใช้ส้วมที่ใช้ร่วมกัน แบบสอบถามกึ่งโครงสร้างการบริหารงานผ่านการสัมภาษณ์ใบหน้าเพื่อใบหน้าถูกนำมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การถดถอยเชิงเส้นได้ทำสำหรับการวิเคราะห์หลายตัวแปรเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการทำความสะอาดตอบและการรวมกันของ Ranas และพยากรณ์ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสังคม ผลจาก 424 ผู้ตอบแบบสอบถามสัมภาษณ์ 44.3% รายงานการทำความสะอาดห้​​องน้ำที่ใช้ร่วมกันทุกวัน 34.4% ทำความสะอาดครั้งเดียวหรือหลายครั้งต่อสัปดาห์ 1.4% ทำความสะอาดทุกสัปดาห์ที่สอง 5.4% ทำความสะอาดครั้งเดียวหรือหลายครั้งต่อเดือนและ 14.4% ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำความสะอาด . ปัจจัยหลักที่ Ranas ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการทำความสะอาดผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าความเชื่อทัศนคติอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดห้​​องน้ำที่ใช้ร่วมกัน (β = -0.13, P = 0.00) และปัจจัยที่ควบคุมตัวเองเช่นการวางแผนการรับมือ (β = 0.42, P = 0.00 ) ความมุ่งมั่น (β = 0.24, P = 0.00) และความทรงจำ (β = 0.10, P = 0.01) สำหรับปัจจัยภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสังคมเพียงปัจจัยแรงจูงใจทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β = 0.15, P = 0.00) ตาราง R สำหรับรูปแบบเชิงเส้นในปัจจัยที่มีอิทธิพลพฤติกรรมการทำความสะอาดเป็น 0.77 และ R ตารางสำหรับความมุ่งมั่นของปัจจัยที่มีอิทธิพลในการทำความสะอาดเป็น 0.70 สรุปปัจจัย Ranas ให้ความเข้าใจที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ใช้ในการทำความสะอาดห้​​องน้ำที่ใช้ร่วมกันกว่าปัจจัยภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสังคม ปัจจัยที่ควบคุมตัวเองและการเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่ทำความสะอาดอารมณ์เชิงลบจะแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการแทรกแซงเพื่อเพิ่มผู้ใช้ห้องน้ำร่วมกันมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดโดยรวมของพวกเขา นอกจากนี้ในการ Ranas ปัจจัยภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสังคมที่มีอิทธิพลสำคัญในความมุ่งมั่นของผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด 'ในการทำความสะอาดห้​​องน้ำที่ใช้ร่วมกันของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สกปรกใช้ห้องน้ำเป็น ความเสี่ยงด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้ในชุมชนแออัดการชำระหนี้ . เพื่อสุขภาพและประโยชน์ nonhealth ในหมู่ผู้ใช้ร่วมกันห้องน้ำที่จะรับประกันความสะอาดของตนเองเป็นสำคัญการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ร่วมกัน ความสะอาดห้องน้ำในกัมปาลาเป็นชุมชนแออัดและทางจิตวิทยาและสังคมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ไม่ทำความสะอาดและความมุ่งมั่นโดยใช้ความเสี่ยง , ทัศนคติ , บรรทัดฐาน , ความสามารถและการกำกับ ( เรนาส ) รูปแบบและปัจจัยที่มาจากทฤษฎีทางสังคมวิธีการที่เราทำการศึกษาใน 3 ชุมชนของกัมปาลา ระหว่างเดือนธันวาคม และมกราคม 2012 2013 เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 424 ครัวเรือนที่ถูกหลักการใช้ห้องสุขา แบบสอบถามแบบกึ่งสมบูรณ์ ผ่านการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการถดถอยเชิงเส้นถูกทำสำหรับการวิเคราะห์หลายตัวแปรในการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมและการรวมกันของการทำความสะอาดวัดและสังคมเรนาสไม่พยากรณ์ ผลจาก 424 ผู้ตอบสัมภาษณ์เท่ากับ % รายงานทำความสะอาดห้องน้ำทุกวัน ร้อยละ 34.4 ทำความสะอาดครั้งเดียวหรือหลายครั้งต่อสัปดาห์ 1.4% ทำความสะอาดทุกสองสัปดาห์ที่ 54 % ทำความสะอาดครั้งเดียวหรือหลายครั้งต่อเดือน และ 14.4% และไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำความสะอาด เรนาสหลักปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อและความอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดห้องน้ำ ( บีตา = − 0.13 , p = 0.00 ) และตนเอง ควบคุมปัจจัย เช่น การวางแผน ( บีตา = 0.42 , p = 0.00 ) ความมุ่งมั่น ( บีตา = 0.24 , p = 0.00 )และจดจำ ( บีตา = 0.10 , p = 0.01 ) สำหรับปัจจัยทางสังคม เพียงแต่เหตุปัจจัยทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( บีตา = 0.15 , p = 0.00 ) R Square สำหรับแบบจำลองเชิงเส้นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำความสะอาดเป็น 0.77 และ R Square สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันเท่ากับ 0.70 ความ .สรุป เรนาสปัจจัยให้เกิดความเข้าใจร่วมกันของผู้ใช้ที่แข็งแกร่งมากขึ้น ห้องน้ำสะอาดมากกว่าปัจจัยทางพฤติกรรมทางสังคม ตนเอง ควบคุมปัจจัยและการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบความจะแสดงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการแทรกแซงของผู้ใช้ห้องน้ำรวมใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดของพวกเขา นอกจากเรนาส ,ปัจจัยวิกฤตทางสังคมมีอิทธิพลสำคัญในชุมชนแออัดของประชากร ความสะอาดของห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน