Finally, the term “appeasement” is

Finally, the term “appeasement” is frequently used to disparage diplomatic efforts to negotiate an end to North Korea’s nuclear program. Many commentators on the right have argued, for example, that North Korea is a bad country that does illegal things and therefore offering any kind of carrot to induce the North Koreans to stop doing these things would be “appeasement” encouraging more behavior—as if a sovereign nation should be treated like an errant child. As already mentioned above, the concept of illegality that lies behind this assessment is of limited applicability. Moreover, because the right of self defense is the most fundamental right of a sovereign nation, measures a country takes to implement that right can easily be argued to supercede almost any other obligation. Even if a supranational body like the United Nations deemed that North Korea shouldn’t have nuclear weapons, say, the North Koreans could cite their inalienable right to self defense as justification for such weapons, undermining the legitimacy of even UN claims of illegality. Nations acting in self-defense, in fact, are almost impossible to legitimately punish.[7] For this reason, negotiations between nations involve give and take, carrots and sticks. If all carrots are called “appeasement”, however, one is left without the ability to offer inducements (positive sanctions) in order to gain compliance. This makes diplomacy almost impossible. States could try to get other states to do what they want through threats. But when we had a system based on the use of threats in the 19th and early 20th centuries, wars were very frequent. The frequency of devastating wars, in fact, is what led to the development of the present international system with the United Nations serving as an international forum, and national sovereignty guaranteed. Going back to the earlier system not only would lead to numerous wars, but these wars would now be fought with weapons of almost unimaginable destructiveness. A system lacking positive sanctions does not seem to be one that would increase world security in the long run.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในที่สุด คำ "appeasement" มักใช้เหยียดหยามความพยายามทางการทูตเจรจาให้ยุติการโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ นักพากย์หลายด้านขวามีโต้เถียง เช่น ที่ เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ไม่ดีที่ไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย และดังนั้น สิ่งใดก็แครอทชวนชาวเกาหลีเหนือจะหยุดทำสิ่งเหล่านี้จะเป็น "appeasement" ส่งเสริมการทำงานเพิ่มเติม — เช่นถ้าประเทศมีอธิปไตยอย่างไรเด็กพเนจร แล้วข้าง แนวคิดของกฎหมายที่อยู่เบื้องหลังการประเมินนี้มีความเกี่ยวข้องจำกัด นอกจากนี้ เนื่องจากด้านขวาของป้องกันตัวเองเป็นสิทธิพื้นฐานที่สุดของประเทศอธิปไตย มาตรการที่จะใช้สิทธิที่ประเทศสามารถได้อย่างง่ายดายจะแย้งไป supercede เกือบทุกหน้าที่อื่น แม้ว่าร่างกายเป็นองค์กรเหนือรัฐเช่นสหประชาชาติถือว่า เกาหลีเหนือไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์ บอกว่า ชาวเกาหลีเหนืออาจอ้างสิทธิของตนยึดครองเพื่อป้องกันตัวเองเป็นเหตุผลสำหรับอาวุธดังกล่าว บั่นทอนความชอบธรรมของ UN แม้อ้างว่า การกระทำผิดกฎหมาย ประเทศที่ทำหน้าที่ในการป้องกันตนเอง ความเป็นจริง มีเกือบจะถูกต้องตามกฎหมายลงโทษ [7] ด้วยเหตุผลนี้ เจรจาต่อรองระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องและคา แครอท และแท่ง ถ้าแครอททั้งหมดเรียกว่า "appeasement" อย่างไรก็ตาม หนึ่งที่เหลือไม่สามารถเสนอสิ่งจูงใจ (ลงโทษบวก) เพื่อให้ได้ปฏิบัติตาม ทำให้ทูตเกือบ อเมริกาอาจพยายามที่ได้รับสถานะอื่น ๆ เพื่อทำสิ่งที่พวกเขาต้องผ่านภัยคุกคาม แต่เมื่อเรามีระบบที่อิงการคุกคามในศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 สงครามบ่อยมาก ความถี่ของการสงคราม การทำลายล้างความเป็นจริง เป็นสิ่งนำไปสู่การพัฒนาของระบบนานาชาติปัจจุบันกับสหประชาชาติให้เป็นเวทีระหว่างประเทศ และอำนาจอธิปไตยแห่งชาติรับประกัน กลับไปที่ระบบก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่จะนำไปสู่สงครามมากมาย แต่สงครามเหล่านี้จะอยู่จะสู้ ด้วยอาวุธของ destructiveness เกือบเป็นไปไม่ได้ ระบบการลงโทษบวกขาดไม่ สามารถที่จะเพิ่มความปลอดภัยของโลกในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในที่สุดคำว่า "สงบ" มักจะถูกใช้ในการดูถูกความพยายามทางการทูตในการเจรจาให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลายคนที่อยู่ด้านขวาได้ถกเถียงกันยกตัวอย่างเช่นว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ไม่ดีที่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและดังนั้นจึงเสนอชนิดของแครอทใด ๆ ที่จะทำให้เกิดเกาหลีเหนือที่จะหยุดการทำสิ่งเหล่านี้จะเป็น "ปลอบใจ" ให้กำลังใจมากขึ้นพฤติกรรมราวกับว่า จักรพรรดิประเทศชาติควรได้รับการปฏิบัติเหมือนเด็กหลงทาง ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นแนวคิดของผิดกฏหมายที่อยู่เบื้องหลังการประเมินนี้เป็นของการบังคับ จำกัด นอกจากนี้เนื่องจากทางขวาของการป้องกันตัวเองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดของประเทศอธิปไตยขนาดประเทศที่ใช้เวลาในการดำเนินการที่เหมาะสมที่สามารถจะเป็นที่ถกเถียงกันเพื่อหักล้างเกือบภาระผูกพันอื่น ๆ แม้ว่าร่างกายเหนือรัฐเช่นสหประชาชาติเห็นว่าเกาหลีเหนือไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์กล่าวว่าเกาหลีเหนืออาจอ้างถูกยึดครองของพวกเขาเพื่อป้องกันตัวเองเป็นข้ออ้างสำหรับอาวุธดังกล่าวบั่นทอนความชอบธรรมของแม้กระทั่งการเรียกร้องของสหประชาชาติผิดกฏหมาย เนชั่นทำหน้าที่ในการป้องกันตัวเองในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้เกือบจะถูกต้องตามกฎหมายลงโทษ. [7] ด้วยเหตุนี้การเจรจาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการให้และใช้เวลาแครอทและ sticks ถ้าแครอททั้งหมดจะถูกเรียกว่า "สงบ" แต่หนึ่งถูกทิ้งไว้โดยไม่มีความสามารถในการที่จะนำเสนอสิ่งจูงใจ (การลงโทษบวก) เพื่อให้ได้รับการปฏิบัติตาม นี้จะทำให้การเจรจาต่อรองไม่ได้เกือบ สหรัฐอเมริกาได้พยายามที่จะได้รับรัฐอื่น ๆ ที่จะทำสิ่งที่พวกเขาต้องการผ่านภัยคุกคาม แต่เมื่อเรามีระบบขึ้นอยู่กับการใช้งานของภัยคุกคามในศตวรรษที่ 19 และ 20 ในช่วงต้นสงครามบ่อยมาก ความถี่ของการสงครามทำลายล้างในความเป็นจริงคือสิ่งที่นำไปสู่​​การพัฒนาของระบบระหว่างประเทศปัจจุบันกับสหประชาชาติที่ทำหน้าที่เป็นเวทีระหว่างประเทศและอธิปไตยของชาติรับประกัน จะกลับไปที่ระบบก่อนหน้านี้ไม่เพียง แต่จะนำไปสู่​​สงครามจำนวนมาก แต่ตอนนี้สงครามเหล่านี้จะได้รับการต่อสู้กับอาวุธทำลายล้างเป็นไปไม่ได้เกือบ ขาดระบบการลงโทษบวกไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งที่จะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของโลกในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สุดท้าย คำว่า " การ " ถูกใช้บ่อย การดูถูกความพยายามทางการทูตเพื่อเจรจายุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แสดงความเห็นหลายด้านขวาได้ถกเถียงกัน เช่น ว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่เลวร้ายที่ไม่สิ่งที่ผิดกฎหมาย และดังนั้นจึง เสนอ ชนิดใด ๆของแครอท จะกระตุ้นให้เกาหลีเหนือหยุดทำสิ่งต่าง ๆเหล่านี้ จะเป็น " การ " ส่งเสริมพฤติกรรมมากขึ้น ถ้าประเทศอธิปไตยที่ควรปฏิบัติ เช่น เด็กที่ประพฤติชั่ว . ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น แนวคิดของผิดกฎหมายที่อยู่หลังการประเมินนี้มีจำกัดการบังคับใช้ นอกจากนี้ เพราะสิทธิของการป้องกันตนเองคือ สิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดของประเทศอธิปไตยประเทศจะใช้มาตรการที่เหมาะสมสามารถจะแย้ง supercede เกือบภาระผูกพันอื่น ๆ แม้ว่าร่างกายซึ่งเกี่ยวพันกับหลายๆ ประเทศ เช่น สหประชาชาติ เห็นว่าไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้อ้างของพวกเขาพื้นฐานสิทธิการป้องกันตนเองเป็นเหตุให้ เช่น อาวุธ บ่อนทำลายความชอบธรรมของแม้ UN อ้างกฏหมาย . หน้าที่ในการป้องกันประเทศ ในความเป็นจริงเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกต้องตามกฎหมายลงโทษ [ 7 ] สำหรับเหตุผลนี้ การเจรจาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการรับและการให้ , แครอทและ sticks . ถ้าแครอทจะเรียกว่า " การ " แต่หนึ่งที่เหลือไม่มีความสามารถ ที่จะให้ inducements ( การบวก ) เพื่อจะได้ปฏิบัติตาม นี้ทำให้การทูตเกือบเป็นไปไม่ได้ สหรัฐอเมริกาได้พยายามที่จะได้รับรัฐอื่น ๆที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการจากภัยคุกคาม แต่เมื่อเรามีระบบตามการใช้งานของภัยคุกคามในศตวรรษที่ 20 ที่ 19 และต้น สงครามมีความถี่มาก ความถี่ของสงคราม ซึ่งในความเป็นจริงเป็นสิ่งที่นำไปสู่พัฒนาการของระบบระหว่างประเทศปัจจุบันกับสหประชาชาติทำหน้าที่เป็นเวทีระหว่างประเทศและอธิปไตยแห่งชาติ รับประกัน กลับไปที่ระบบก่อนหน้านี้ที่ไม่เพียง แต่จะนำไปสู่สงครามมากมาย แต่สงครามเหล่านี้จะต่อสู้ด้วยอาวุธเกือบเป็นไปไม่ได้การทำลาย . เป็นระบบที่ขาดการบวกไม่ได้เป็นหนึ่งที่จะเพิ่มความมั่นคงของโลกในระยะยาว