From Fig. 6(a) it can be observed t

From Fig. 6(a) it can be observed that there is a decrease in the share of buses from 46% before application of the
policy to 43% after the application of the policy. In addition to that there is an increase in the modal share of the
two wheelers from 31% to 45% after the application of the policy. Thus by increasing the travel cost of buses in
conjunction with improvement in comfort index, it was observed that commuters are switching over to private
modes of transport from public transport. From Fig. 6(b), it can be observed that there is 11% increase in the
modal share of buses under increase in comfort with no travel cost increase policy. In addition, there is a 6%
decrease in the share of private transport modes like two wheelers after application of the policy which shows
that if comfort of buses is improved without any change in travel cost then more commuters are expected to
travel by buses than private modes. This result is in consistent with the data collected from the commuters who
are giving high importance to comfort during household survey on reasons for using their personal modes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก Fig. 6(a) มันจะสังเกตได้จากว่า มีการลดลงในสัดส่วนของรถจาก 46% ก่อนใช้การนโยบาย 43% หลังจากโปรแกรมประยุกต์ของนโยบาย นอกจากนั้นที่ มีการเพิ่มส่วนแบ่งแบบของการสอง wheelers จาก 31% 45% หลังจากโปรแกรมประยุกต์ของนโยบาย ดังนั้น โดยการเพิ่มต้นทุนการเดินทางของรถโดยสารในร่วมกับการปรับปรุงในดัชนีความสบาย มันถูกตรวจสอบว่า มีการสลับผู้ผ่านไปส่วนตัวโหมดการขนส่งจากระบบขนส่งสาธารณะ จาก Fig. 6(b) มันจะสังเกตได้จากว่า มีเพิ่มขึ้น 11%รถบัสภายใต้เพิ่มด้วยไม่มีนโยบายเพิ่มต้นทุนการเดินทางแบบแบ่ง นอกจากนี้ มี 6%ลดสัดส่วนของโหมดการขนส่งเอกชนเช่น wheelers สองหลังจากโปรแกรมประยุกต์ของนโยบายซึ่งแสดงที่ถ้าความสะดวกสบายของรถเพิ่มขึ้น โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในการเดินทางต้นทุน แล้วคาดว่าการสำรวจเพิ่มเติมเดินทาง โดยรถประจำทางกว่าโหมดส่วนตัว ผลนี้เป็นการรวบรวมสอดคล้องกับข้อมูลจากการสำรวจที่จะให้ความสำคัญสูงเพื่อความสะดวกสบายในระหว่างการสำรวจครัวเรือนในเหตุผลการใช้โหมดส่วนตัวของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากรูปที่ 6 (ก) ก็สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตว่ามีการลดลงในส่วนแบ่งของรถโดยสารจาก 46% ก่อนที่จะประยุกต์ใช้
นโยบายที่จะลดลง 43% หลังจากการประยุกต์ของนโยบาย นอกจากนั้นมีการเพิ่มขึ้นในส่วนแบ่งของคำกริยา
สองล้อจาก 31% เป็น 45% หลังจากการประยุกต์ของนโยบาย ดังนั้นโดยการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางของรถโดยสารใน
ร่วมกับการปรับปรุงในดัชนีความสะดวกสบายมันก็ตั้งข้อสังเกตว่าผู้โดยสารจะเปลี่ยนไปส่วนตัว
รูปแบบการขนส่งจากการขนส่งสาธารณะ จากรูปที่ 6 (ข) ก็สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตว่ามีการเพิ่มขึ้น 11% ใน
หุ้นกิริยาของรถโดยสารภายใต้การเพิ่มขึ้นของความสะดวกสบายด้วยการขึ้นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่มี นอกจากนี้ยังมีเป็น 6%
การลดลงของส่วนแบ่งของโหมดการขนส่งเอกชนเหมือนสองขวักไขว่หลังจากการประยุกต์ของนโยบายซึ่งแสดงให้เห็น
ว่าถ้าความสะดวกสบายของรถจะดีขึ้นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้นแล้วผู้โดยสารที่คาดว่าจะ
เดินทางโดยรถประจำทางกว่าส่วนตัว โหมด ผลนี้อยู่ในสอดคล้องกับข้อมูลที่เก็บจากผู้โดยสารที่
จะให้ความสำคัญสูงเพื่อความสะดวกสบายระหว่างการสำรวจครัวเรือนเหตุผลสำหรับการใช้โหมดส่วนตัวของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากรูปที่ 6 ( ) จะสามารถสังเกตได้ว่ามีการลดลงในส่วนของรถโดยสารจาก 46% ก่อนที่ใบสมัครของ
นโยบาย 43% หลังจากการใช้นโยบาย นอกจากนั้นมีการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการของ
สองล้อจาก 31 ถึง 45 % หลังการใช้นโยบาย ดังนั้นโดยการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางของรถใน
ร่วมกับการปรับปรุงดัชนีความสบายสังเกตได้ว่าผู้โดยสารจะสลับไปที่โหมดส่วนตัว
ขนส่งจากการขนส่งสาธารณะ จากรูปที่ 6 ( B ) พบว่ามี 11 เพิ่มขึ้น
แบ่งปันกิริยาของรถเพิ่มความสะดวกสบายในกับเดินทางไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนโยบาย นอกจากนี้ยังมี 6 %
ลดลงในส่วนของโหมดการขนส่งส่วนบุคคล เช่น สองล้อ หลังการใช้นโยบายที่แสดง
ถ้าความสะดวกสบายของรถจะดีขึ้น โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆในค่าใช้จ่ายเดินทาง แล้วผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าเดินทางโดยรถโดยสารกว่า

โหมดส่วนตัว ผลที่ได้นี้สอดคล้องกับข้อมูลที่รวบรวมจากผู้โดยสารที่ให้ความสำคัญสูงเพื่อความสะดวกสบาย
ในครัวเรือนการสำรวจเหตุผลในการใช้โหมดส่วนบุคคลของพวกเขา