Cough is the most common symptom br

Cough is the most common symptom bringing patients to the primary care physician’s office, and acute bronchitis is usually the diagnosis in these patients. Acute bronchitis should be differentiated from other common diagnoses, such as pneumonia and asthma, because these conditions may need specific therapies not indicated for bronchitis. Symptoms of bronchitis typically last about three weeks. The presence or absence of colored (e.g., green) sputum does not reliably differentiate between bacterial and viral lower respiratory tract infections. Viruses are responsible for more than 90 percent of acute bronchitis infections. Antibiotics are generally not indicated for bronchitis, and should be used only if pertussis is suspected to reduce transmission or if the patient is at increased risk of developing pneumonia (e.g., patients 65 years or older). The typical therapies for managing acute bronchitis symptoms have been shown to be ineffective, and the U.S. Food and Drug Administration recommends against using cough and cold preparations in children younger than six years. The supplement pelargonium may help reduce symptom severity in adults. As patient expectations for antibiotics and therapies for symptom management differ from evidence-based recommendations, effective communication strategies are necessary to provide the safest therapies available while maintaining patient satisfaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไอเป็นอาการพบบ่อยที่สุดที่นำผู้ป่วยไปดูแลแพทย์ และหลอดลมอักเสบเฉียบพลันมักจะ วินิจฉัยในผู้ป่วยเหล่านี้ หลอดลมอักเสบเฉียบพลันควรแยกแยะจากวิเคราะห์อื่น ๆ ทั่วไป โรคปอดและโรคหอบหืด เนื่องจากเงื่อนไขเหล่านี้อาจต้องรักษาเฉพาะที่ไม่ระบุโรคหลอดลมอักเสบ อาการของโรคหลอดลมอักเสบโดยทั่วไปประมาณสามสัปดาห์ สถานะการขาดงานของสี (เช่น เขียว) sputum ไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างแบคทีเรีย และไวรัสลดลงหายใจติดเชื้อ ไวรัสคือรับผิดชอบมากกว่าร้อยละ 90 ของการติดเชื้อหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ยาปฏิชีวนะมีโดยทั่วไปไม่ระบุโรคหลอดลมอักเสบ และควรจะใช้เฉพาะ ถ้า pertussis ถูกสงสัยว่าลดเกียร์ หรือถ้าผู้ป่วยที่เสี่ยงเกิดโรคปอดบวม (เช่น ผู้ป่วย 65 ปี หรือมากกว่า) รักษาทั่วไปสำหรับการจัดการอาการหลอดลมอักเสบเฉียบพลันได้รับการแสดงมีผล และสหรัฐอเมริกาอาหารและยาแนะนำต่อโดยใช้ไอและเย็นเตรียมในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี Pelargonium เสริมอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการในผู้ใหญ่ เป็นความคาดหวังของผู้ป่วยสำหรับยาปฏิชีวนะและการรักษาสำหรับการจัดการอาการแตกต่างจากหลักฐานตามคำแนะนำ กลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องให้การรักษาปลอดภัยในขณะการรักษาความพึงพอใจผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไอเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดนำผู้ป่วยไปยังสำนักงานของแพทย์ดูแลหลักและหลอดลมอักเสบเฉียบพลันมักจะวินิจฉัยในผู้ป่วยเหล่านี้ โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันควรจะแตกต่างจากการวินิจฉัยทั่วไปอื่น ๆ เช่นโรคปอดบวมและโรคหอบหืดเพราะเงื่อนไขเหล่านี้อาจจำเป็นต้องรักษาที่เฉพาะเจาะจงไม่ได้ระบุสำหรับโรคหลอดลมอักเสบ อาการของโรคหลอดลมอักเสบมักจะมีอายุการใช้งานประมาณสามสัปดาห์ มีหรือไม่มีสี (เช่นสีเขียว) เสมหะไม่น่าเชื่อถือความแตกต่างระหว่างที่ต่ำกว่าแบคทีเรียและไวรัสติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ไวรัสมีความรับผิดชอบมากกว่าร้อยละ 90 ของการติดเชื้อหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ยาปฏิชีวนะมักจะไม่แสดงสำหรับหลอดลมอักเสบและควรจะใช้เฉพาะในกรณีที่ไอกรนเป็นผู้ต้องสงสัยในการลดการส่งหรือถ้าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนาโรคปอดบวม (เช่นผู้ป่วย 65 ปีขึ้นไป) การรักษาโดยทั่วไปสำหรับการจัดการอาการหลอดลมอักเสบเฉียบพลันได้รับการแสดงจะไม่ได้ผลและอาหารและยาของสหรัฐแนะนำให้ใช้ไอเย็นและการเตรียมการในเด็กอายุน้อยกว่าหกปี Pelargonium อาหารเสริมอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการในผู้ใหญ่ ในฐานะที่เป็นความคาดหวังของผู้ป่วยยาปฏิชีวนะและการรักษาสำหรับการจัดการกับอาการแตกต่างจากคำแนะนำหลักฐานที่ใช้กลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้การรักษาที่ปลอดภัยที่สุดที่มีอยู่ในขณะที่รักษาความพึงพอใจของผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไอ เป็นบ่อยที่สุด อาการนำผู้ป่วยไปยังสำนักงานของแพทย์และการดูแลสุขภาพ , โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มักจะมีการวินิจฉัยในผู้ป่วยเหล่านี้ หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ควรมีความแตกต่างจากรายอื่น ๆทั่วไป เช่น ปอดบวม และโรคหอบหืด เพราะเงื่อนไขเหล่านี้อาจต้องการการรักษาที่เฉพาะเจาะจงไม่ได้ระบุสำหรับหลอดลมอักเสบ อาการของโรคหลอดลมอักเสบมักจะผ่านมาประมาณสามอาทิตย์มี หรือ ไม่มีสี เช่น สีเขียว ) เสมหะไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างแบคทีเรียและไวรัสทางเดินหายใจส่วนล่างเชื้อ ไวรัสจะรับผิดชอบมากกว่าร้อยละ 90 ของเชื้อโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ยาปฏิชีวนะโดยทั่วไปจะไม่พบสำหรับหลอดลมอักเสบและควรใช้เฉพาะในกรณีที่พบว่าลดการส่งผ่านโรคไอกรนหรือถ้าผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนาปอดอักเสบ ( เช่นผู้ป่วย 65 ปีหรืออายุมากกว่า ) การรักษาทั่วไปสำหรับการจัดการอาการหลอดลมอักเสบเฉียบพลันได้ถูกแสดงเป็น โมฆะ และองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาแนะนำกับการใช้ไอเย็นและการเตรียมการในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปีอาหารเสริม Pelargonium อาจช่วยลดความรุนแรงของอาการในผู้ใหญ่ ตามที่ผู้ป่วยคาดหวังยาปฏิชีวนะและการจัดการกับอาการแตกต่างจากคำแนะนำตามหลักฐาน กลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย ใช้ได้ในขณะที่การรักษาความพึงพอใจของผู้ป่วย