Although he would eventually shift

Although he would eventually shift his focus away from electronic music, the genre that first gained for him public notice,[citation needed] by the 1980s, Babbitt wrote both electronic music and music for conventional musical instruments, often combining the two. Philomel (1964), for example, was written for soprano and a synthesized accompaniment (including the recorded and manipulated voice of Bethany Beardslee, for whom the piece was composed) stored on magnetic tape.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าในที่สุดเขาจะเปลี่ยนโฟกัสของเขาจากเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทที่แรก ต้องรับเขาประกาศ, [อ้างจำเป็น] 1980, Babbitt เขียนเพลงอิเล็กทรอนิกส์และเพลงสำหรับเครื่องดนตรีทั่วไป มักจะรวมทั้งสอง เขียน philomel (1964), เช่น สำหรับโซปราโน และดนตรีสังเคราะห์ที่ (รวมถึงเสียงบันทึก และแรก ๆ ของเบธานี Beardslee ประกอบชิ้นส่วนที่) เก็บไว้ในเทปแม่เหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าในที่สุดเขาก็จะเปลี่ยนโฟกัสของเขาออกไปจากดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ประเภทที่ได้รับเป็นครั้งแรกสำหรับเขาแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสาธารณะ [ต้องการอ้างอิง] โดย 1980 หน้าเลือดเข​​ียนทั้งเพลงอิเล็กทรอนิกส์และเพลงเครื่องดนตรีทั่วไปมักจะรวมสอง Philomel (1964), ตัวอย่างเช่นถูกเขียนขึ้นสำหรับนักร้องเสียงโซปราโนและคลอสังเคราะห์ (รวมถึงเสียงที่บันทึกไว้และจัดการเบธานี Beardslee สำหรับผู้ที่ชิ้นประกอบด้วย) ที่เก็บไว้ในเทปแม่เหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ในที่สุดเขาก็จะเปลี่ยนโฟกัสของเขาห่างจากเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทแรกที่ได้รับเขาประกาศสาธารณะ , [ อ้างอิงที่จำเป็น ] โดยไฟต์ แบ็บบิตเขียนทั้งดนตรีและเพลงสำหรับเครื่องดนตรีปกติ มักจะรวมสอง ฟิลโลเมล ( 1964 ) , ตัวอย่างเช่น , เขียนสำหรับ Soprano และสังเคราะห์เสียง ( รวมถึงการบันทึกและตัดต่อเสียงของเบทานีเบียดสลี่ ที่ชิ้นประกอบด้วย ) ที่เก็บไว้ในเทปแม่เหล็ก