Based on the findings obtained from

Based on the findings obtained from the tests, it can be said that the FE and TS of the particleboards were significantly affected by hardener type. The lowest FE and TS values were found for the particleboards made with ammonium chloride while the highest values were found for the particleboards made with aluminium sulphate. The lowest pH value for the UF resin was found to be 4.33 as the ammonium chloride was incorporated into the resin, followed by ammonium sulphate (4.64) and aluminium sulphate (5.01). Akyuz et al. [19] reported that the optimum pH value of UF resin used in the manufacture of particleboard was between 4 and 5, which resulted in better adhesive performance among the wood particles. The lowest contact angle and surface roughness values were found for the particleboards made with ammonium chloride, followed by ammonium sulphate and aluminium sulphate, respectively. In a previous study, it was reported that adhesion bonds and wettability of rough surface were lower than that of smooth surface [20]. Specific adhesion force in rough surfaces is lower than smooth surfaces. This results in lower adhesive performance between wood particles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยที่ได้รับจากการทดสอบ มันสามารถถูกกล่าวว่า FE และ TS particleboards มากถูกกระทบ โดย hardener ชนิด พบค่า FE และ TS ที่ต่ำสุดสำหรับ particleboards ที่ทำในขณะที่ตรวจพบค่าสูงสุดสำหรับ particleboards ที่ทำ ด้วยอลูมิเนียมซัลเฟตแอมโมเนียมคลอไรด์ พบค่า pH ต่ำสุดสำหรับยาง UF เป็น 4.33 เป็นแอมโมเนียมคลอไรด์ถูกรวมเข้าไปในเรซิน ตาม ด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต (4.64) และอลูมิเนียมซัลเฟต (5.01) Akyuz et al. [19] ได้รายงานว่า ค่า pH ที่เหมาะสมของยาง UF ที่ใช้ในการผลิตของอัดซีเมนต์ไม่ระหว่าง 4 และ 5 ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพกาวระหว่างอนุภาคไม้ ติดต่อมุมต่ำและค่าความเรียบผิวพบการ particleboards กับแอมโมเนียมคลอไรด์ ตาม ด้วยแอมโมเนียมซัลเฟตและอลูมิเนียมซัลเฟต ตามลำดับ ในการศึกษาก่อนหน้านี้ มันเป็นรายงานที่ ยึดติดผูกพันและความสามารถเปียกได้ของพื้นผิวหยาบได้ต่ำกว่าที่ผิวเรียบ [20] แรงยึดติดเฉพาะในพื้นผิวหยาบจะต่ำกว่าพื้นผิวเรียบ ซึ่งผลในประสิทธิภาพกาวล่างระหว่างอนุภาคไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากผลที่ได้จากการทดสอบก็อาจกล่าวได้ว่า FE และ TS ของไม้อัดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญโดยแบ่งตามชนิด hardener ต่ำสุด FE และ TS ค่าได้พบชิ้นไม้อัดที่ทำกับแอมโมเนียมคลอไรด์ในขณะที่มีค่าสูงสุดที่พบสำหรับไม้อัดทำด้วยอลูมิเนียมซัลเฟต ค่าพีเอชต่ำสุดสำหรับเรซิน UF พบว่ามี 4.33 เป็นแอมโมเนียมคลอไรเป็น บริษัท ในเรซินตามด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต (4.64) และอลูมิเนียมซัลเฟต (5.01) Akyuz และคณะ [19] รายงานว่าค่าพีเอชที่เหมาะสมในการ UF เรซินใช้ในการผลิตไม้อัดระหว่าง 4 และ 5 ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นในหมู่กาวอนุภาคไม้ ต่ำสุดติดต่อมุมและพื้นผิวขรุขระค่าถูกพบชิ้นไม้อัดที่ทำกับแอมโมเนียมคลอไรด์ตามด้วยแอมโมเนียมซัลเฟตและอลูมิเนียมซัลเฟตตามลำดับ ในการศึกษาก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพันธบัตรการยึดเกาะและความสามารถเปียกของพื้นผิวขรุขระมีค่าต่ำกว่าพื้นผิวเรียบ [20] แรงยึดเกาะที่เฉพาะเจาะจงในพื้นผิวขรุขระต่ำกว่าพื้นผิวเรียบ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำกว่ากาวระหว่างอนุภาคไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการทดสอบ สามารถกล่าวว่า เหล็กและ TS ของแผ่นชิ้นไม้อัดอย่างมีนัยสำคัญผลกระทบจากประเภทสาร . เหล็กและค่าต่ำสุดเป็นพบในแผ่นชิ้นไม้อัดด้วยแอมโมเนียมคลอไรด์ในขณะที่ค่าสูงสุดพบในแผ่นชิ้นไม้อัดให้กับซัลเฟตอลูมิเนียม ค่า pH ค่า MF เรซินพบว่ามี 433 เป็นแอมโมเนียมคลอไรด์ถูกรวมเข้าไปในยาง ตามด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต ( 4.64 ) และซัลเฟตอลูมิเนียม ( 5.01 ) akyuz et al . [ 19 ] รายงานว่า พีเอชที่เหมาะสมค่า MF เรซิน ที่ใช้ในการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดอยู่ระหว่าง 4 และ 5 ซึ่งเป็นผลดีกว่ากาวสมรรถนะของไม้ อนุภาคต่ำสุดและค่ามุมสัมผัสพื้นผิวขรุขระ พบในแผ่นชิ้นไม้อัดด้วยแอมโมเนียมคลอไรด์ , ซัลเฟตแอมโมเนียม ซัลเฟต และตามด้วยอลูมิเนียม ตามลำดับ ในการศึกษาก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า พันธบัตรและการเปียกของผิวหยาบต่ำกว่าที่ของพื้นผิวเรียบ [ 20 ] แรงยึดติดเฉพาะในพื้นผิวหยาบกว่าพื้นผิวที่เรียบผลนี้ในการลดประสิทธิภาพของกาวระหว่างอนุภาคไม้