The active ingredients in green tea

The active ingredients in green tea are called polyphenols. In 2008, the FDA found benefits from green tea in treating prostate cancer to be inconclusive. This prompted researchers at Louisiana State University Health Sciences Center to conduct an open-label, single-arm, Phase II clinical trail. Twenty-six men participated in the small study. They ranged in age from 41 to 68, and were all suffering from prostate cancer and scheduled for radical prostatectomy surgery. They were given the equivalent of 12 cups of green tea a day for an average of 34 days. This was 1.3 gram of polyphenon E (EGCG). On the day before their scheduled surgery, the men were reevaluated. The biomarkers for prostate cancer were reduced in each of the men. Hepatocyte growth factor (HGF) was reduced by an average of almost 19%. Vascular endothelial growth factor (VEGF) was reduced by 9.9%, and prostate specific antigen (PSA) was reduced by 10.4%. Some of the men showed numbers reduced by as much as one third.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนประกอบสำคัญในชาเขียวจะเรียกว่าโพลีฟีน ใน 2008, FDA ยังพบประโยชน์จากชาเขียวในการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากจะ inconclusive นี้แจ้งนักวิจัยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัยรัฐหลุยเซียน่าที่จะทำการเปิดป้าย แขนเดียว Phase II คลินิกทาง ยี่สิบหกคนเข้าร่วมในการศึกษาขนาดเล็ก พวกเขาอยู่ในช่วงในยุคจาก 41 ไป 68 และมีทั้งหมดทุกข์จากมะเร็งต่อมลูกหมาก และกำหนดการผ่าตัด prostatectomy รุนแรง พวกเขาได้รับเทียบเท่ากับ 12 ถ้วยของชาเขียววันค่าเฉลี่ย 34 วัน นี้เป็น 1.3 กรัมของ polyphenon E (EGCG) ในวันก่อนผ่าตัดตามตารางเวลาของพวกเขา คนถูก reevaluated Biomarkers สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากได้ลดลงในแต่ละคน ปัจจัยการเจริญเติบโต hepatocyte (HGF) ถูกลดลง โดยเฉลี่ยเกือบ 19% ปัจจัยการเจริญเติบโตที่บุผนังหลอดเลือดของหลอดเลือด (VEGF) ถูกลดลง 9.9% และตรวจหาเฉพาะต่อมลูกหมาก (PSA) ถูกลดลง 10.4% บางคนพบว่าตัวเลขลดลงถึงหนึ่งในสาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนผสมที่ใช้งานในชาเขียวที่เรียกว่าโพลีฟีนจะ ในปี 2008 องค์การอาหารและยาพบว่าได้รับประโยชน์จากชาเขียวในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากจะเป็นที่ค้างคา แจ้งเตือนเรื่องนี้นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยรัฐลุยเซียนาศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่จะดำเนินการแบบ open-label แขนเดียวระยะที่สองเส้นทางทางคลินิก ยี่สิบหกคนมีส่วนร่วมในการศึกษาขนาดเล็ก พวกเขาอยู่ในช่วงอายุ 41-68 และทุกคนที่ทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและที่กำหนดไว้สำหรับการผ่าตัดต่อมลูกหมากรุนแรง พวกเขาได้รับเทียบเท่า 12 ถ้วยของชาเขียววันสำหรับค่าเฉลี่ยของ 34 วัน นี่คือ 1.3 กรัม polyphenon อี (EGCG) ในวันก่อนการผ่าตัดที่กำหนดของพวกเขาคนถูกทบทวน biomarkers สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากลดลงในแต่ละคน ปัจจัยการเจริญเติบโต hepatocyte (HGF) ลดลงโดยเฉลี่ยเกือบ 19% ปัจจัยการเจริญเติบโตของหลอดเลือดหลอดเลือด (VEGF) ลดลง 9.9% และแอนติเจนที่เฉพาะเจาะจงต่อมลูกหมาก (PSA) ลดลง 10.4% ผู้ชายบางคนแสดงให้เห็นว่าตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดเท่าที่หนึ่งในสาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนผสมในชาเขียวที่เรียกว่าโพลีฟีน . ใน 2008 , FDA พบประโยชน์จากชาเขียวในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากจะไม่ประสบความสำเร็จ นี้แจ้งนักวิจัยที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยหลุยเซียน่าเพื่อดำเนินการป้าย เปิดเดี่ยวแขน ตามระยะที่ 2 คลินิก ยี่สิบหกคนเข้าร่วมในการศึกษาขนาดเล็ก พวกเขาอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 41 ถึง 68 ,และมีความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และเข้ารับการผ่าตัดต่อมลูกหมากหัวรุนแรง พวกเขาได้รับเทียบเท่า 12 ถ้วยน้ำชาวันสีเขียวเฉลี่ย 34 วัน นี้คือ 1.3 กรัม polyphenon E ( EGCG ) ในวันก่อนการผ่าตัดของพวกเขา ผู้ชายเป็นพวก . ช่วงใหม่ของมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง ของแต่ละคนปัจจัยการเจริญเติบโตของตับ ( ด้วย ) ลดลงโดยเฉลี่ยเกือบ 19 เปอร์เซ็นต์ เซลล์บุผนังหลอดเลือดปัจจัยการเจริญเติบโต ( การศึกษา ) ลดลงร้อยละ 9.9 และ prostate เฉพาะ antigen ( PSA ) ลดลง 10.4 % ผู้ชายบางคนพบว่าตัวเลขลดลงมากที่สุดเท่าที่หนึ่งสาม