3.2 Two stage fermentationpH in the

3.2 Two stage fermentation
pH in the hydrogen fermentation (first stage) slightly decreased and stabilized at 5.4 until the end of
fermentation, while that in the methane fermentation (second stage) was stabilized at the narrow range of 7.11 –
7.22 (Fig. 5). Those stabilized pH ranges are optimum for hydrogen- and methane-producing bacteria. Since no
buffer was added into the reactor, the results suggested that the stabilized pH in both stages was due to the buffer
capacity from the banana peel.
4

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.2 สองระยะหมักpH ในหมักไฮโดรเจน (ระยะแรก) ลดลง และเสถียรที่ 5.4 จนจบเล็กน้อยหมัก ขณะที่หมักมีเทน (ระยะสอง) ที่เสถียรที่ช่วงแคบของ 7.11 –7.22 (fig. 5) ที่เสถียรช่วงค่า pH เหมาะสมสำหรับการผลิตไฮโดรเจน และมีเทนแบคทีเรีย เนื่องจากไม่มีบัฟเฟอร์ถูกเพิ่มเข้าไปในระบบ ผลแนะนำว่า pH เสถียรในทั้งสองขั้นได้เนื่องจากบัฟเฟอร์ผลิตจากเปลือกกล้วย4

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.2 ขั้นตอนการหมักสอง
ค่า pH ในการหมักไฮโดรเจน (ตอนแรก) ลดลงเล็กน้อยและมีความเสถียรที่ 5.4 จนถึงสิ้น
การหมักในขณะที่ในการหมักก๊าซมีเทน (ขั้นตอนที่สอง) มีเสถียรภาพในช่วงแคบ ๆ ของ 7.11 -
(Fig. 5) 7.22 . ผู้ที่ช่วงค่า pH ที่มีความเสถียรเป็นที่เหมาะสมสำหรับ hydrogen- และมีเทนแบคทีเรียที่ผลิต เนื่องจากไม่มี
บัฟเฟอร์ถูกเพิ่มเข้าไปในเครื่องปฏิกรณ์ที่ผลการชี้ให้เห็นว่าค่า pH เสถียรภาพทั้งในขั้นตอนเป็นเพราะบัฟเฟอร์
กำลังการผลิตจากเปลือกกล้วย.
4

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.2 สองขั้นตอนการหมัก
pH ในไฮโดรเจนหมัก ( ระยะแรก ) ลดลงเล็กน้อย และความเสถียรที่ 5.4 จนจบ
หมัก ขณะที่ในมีเทนหมัก ( ขั้นตอนที่สอง ) คือความเสถียรในช่วงแคบของ 7.11 –
7.22 ( ภาพที่ 5 ) ผู้ทำให้ pH ช่วงที่เหมาะสมสำหรับไฮโดรเจน - และผลิตมีเทนแบคทีเรีย เนื่องจากไม่มี
บัฟเฟอร์ที่เพิ่มลงในเครื่องปฏิกรณ์ซึ่งพบว่าเสถียรภาพ pH ในขั้นตอนทั้งสองเนื่องจากความจุบัฟเฟอร์

4 จากเปลือกกล้วย