When you want to resolve a conflict

When you want to resolve a conflict with someone, make sure to pick a good time for both of you to discuss it. Just because you have an urgent need to resolve the conflict does not mean that the other person is ready. If you force the encounter, you will surely compound the conflict. In the workspace scenario, A did not think about her timing when she confronted B with her observations, as a result, she created a bigger conflict. Most of the time when we approach someone about a conflict, we want to prove that our view is right and we want them to understand our view; yet most of the time we are unwilling to hear the other side. When this happens, both people usually end up more frustrated and typically give up and don’t ever really resolve the original conflict. Having one unresolved conflict between theme makes it more likely they’ll run into more conflict and problems.
Whenever you don’t resolve a conflict, it leaves the door open to bigger ones in the future. Again using the workspace scenario, because A didn’t use good judgment in deciding when to confront B, they will be looking for other things that don’t work between them, and undoubtedly they will find them. This will make it even more difficult to resolve any future conflict, because they will have to go back to the original conflict and resolve that one before they can move on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อต้องการแก้ไขความขัดแย้งกับผู้อื่น ให้แน่ใจว่าจะเลือกเวลาดีสำหรับทั้งสองของคุณให้พูดคุย เพียง เพราะคุณมีการจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไข ความขัดแย้งไม่ได้ ว่า บุคคลอื่นจะพร้อมอย่าง ถ้าพบการบังคับ คุณจะก็ผสมความขัดแย้ง ในสถานการณ์สมมติพื้นที่ A ไม่คิดเกี่ยวกับระยะเวลาของเธอเมื่อเธอเผชิญ B กับข้อสังเกตของเธอ ดัง เธอสร้างความขัดแย้งใหญ่ ส่วนใหญ่เมื่อเข้าหาผู้อื่นเกี่ยวกับความขัดแย้ง ที่เราต้องการพิสูจน์ว่า มุมมองของเราอยู่ และเราต้องการเข้าใจมุมมองของเรา แต่ส่วนใหญ่เราจะไม่เต็มใจฟังด้านอื่น ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ทั้งสองคนมักจะจบมากผิดหวัง และมักจะแพ้ และไม่เคยจริง ๆ ขัดเดิม มีความขัดแย้งยังไม่ได้แก้ไขหนึ่งระหว่างชุดรูปแบบทำให้มีแนวโน้มจะเรียกใช้เป็นปัญหาและความขัดแย้งเพิ่มเติม เมื่อคุณไม่แก้ไขความขัดแย้ง ทำประตูเปิดจะใหญ่ในอนาคตขึ้น อีกครั้ง โดยใช้สถานการณ์พื้นที่ เนื่องจากการไม่ได้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ B พวกเขาจะมองหาสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ทำงานกัน และไม่ต้องสงสัยพวกเขาจะพบพวกเขา นี้จะทำให้มันยิ่งยากที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งใด ๆ ในอนาคต เนื่องจากพวกเขาจะมีการกลับไปที่ความขัดแย้งเดิม และแก้ไขที่หนึ่งก่อนที่จะสามารถย้ายใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อคุณต้องการที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งกับใครสักคนให้แน่ใจว่าจะเลือกช่วงเวลาที่ดีสำหรับคุณทั้งสองจะหารือเกี่ยวกับมัน เพียงเพราะคุณมีความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งไม่ได้หมายความว่าคนอื่น ๆ มีความพร้อม ถ้าคุณบังคับให้พบคุณก็จะเพิ่มความขัดแย้ง ในสถานการณ์สมมติพื้นที่ทำงานไม่ได้คิดเกี่ยวกับระยะเวลาของเธอเมื่อเธอเผชิญหน้า B กับข้อสังเกตของเธอเป็นผลให้เธอสร้างความขัดแย้งที่ใหญ่กว่า ส่วนใหญ่เวลาที่เราเข้าใกล้คนที่เกี่ยวกับความขัดแย้งที่เราต้องการที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่ามุมมองของเราที่ถูกต้องและเราต้องการให้พวกเขาเข้าใจมุมมองของเรา; แต่ส่วนมากของเวลาที่เราจะไม่เต็มใจที่จะได้ยินด้านอื่น ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ทั้งสองคนมักจะจบลงด้วยความผิดหวังมากขึ้นและมักจะยอมแพ้และไม่เคยจริงๆแก้ปัญหาความขัดแย้งเดิม มีหนึ่งความขัดแย้งระหว่างยังไม่ได้แก้ไขรูปแบบทำให้มันมีแนวโน้มมากขึ้นพวกเขาจะใช้เป็นความขัดแย้งมากขึ้นและปัญหา.
เมื่อใดก็ตามที่คุณไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งที่จะออกจากประตูเปิดให้คนที่ใหญ่กว่าในอนาคต อีกครั้งโดยใช้สถานการณ์ในพื้นที่ทำงานเพราะไม่ได้ใช้วิจารณญาณที่ดีในการตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ B, พวกเขาจะมองหาสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำงานระหว่างพวกเขาและไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะได้พบกับพวกเขา ซึ่งก็จะทำให้ยิ่งยากที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งในอนาคตใด ๆ เพราะพวกเขาจะต้องกลับไปที่ความขัดแย้งเดิมและแก้ไขปัญหาที่หนึ่งก่อนที่พวกเขาสามารถย้าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อคุณต้องการที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งกับใคร ให้แน่ใจว่าได้เลือกเวลาที่ดีสำหรับคุณทั้งสองที่จะพูดถึงมัน เพียงเพราะคุณมีความต้องการเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งไม่ได้หมายความ ว่า บุคคลอื่นจะพร้อม ถ้าคุณบังคับให้พบ คุณจะผสมความขัดแย้ง สถานการณ์ในพื้นที่ และไม่ได้คิดเรื่องเวลาของเธอเมื่อเธอเผชิญหน้ากับบี ด้วยการสังเกตของเธอ ส่งผลให้เธอสร้างความขัดแย้งมากขึ้น ส่วนมากของเวลาเมื่อเราเข้าใกล้ใครบางคนเกี่ยวกับความขัดแย้ง เราต้องการที่จะพิสูจน์ว่า มุมมองของเราถูกต้อง เราต้องการให้พวกเขาเข้าใจมุมมองของเรา แต่ส่วนมากของเวลาที่เราไม่ต้องการจะได้ยินในด้านอื่น ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ คนทั้งคู่มักจะสิ้นสุดขึ้นหงุดหงิดและมักจะยอมแพ้ และไม่เคยแก้ปัญหาความขัดแย้งเดิม มีหนึ่งปัญหาความขัดแย้งระหว่างธีมให้มีโอกาสมากขึ้นพวกเขาจะวิ่งเข้าไปในความขัดแย้ง และปัญหาเมื่อคุณไม่แก้ปัญหาขัดแย้ง มันใบประตูเปิดที่ใหญ่กว่าในอนาคต อีกครั้งที่ใช้งานสมมติ เพราะไม่ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ บี พวกเขาจะมองหาสิ่งอื่น ๆที่ไม่ได้ทำงานระหว่างพวกเขา และแน่นอนพวกเขาจะพบพวกเขา นี้จะทำให้มันมากขึ้นยากที่จะแก้ไขความขัดแย้งใด ๆในอนาคต เพราะพวกเขาจะต้องกลับไปที่เดิม และแก้ไขความขัดแย้งนั้นก่อนที่พวกเขาจะสามารถก้าวต่อไปได้