The fortress was improved during th

The fortress was improved during the 16th century under the direction of King Gustav I and his sons King Eric XIV and King John III, who turned the medieval fortress into a castle fit for a renaissance king. Kalmar Castle suffered heavy damage during the Kalmar War of 1611-13 and was badly damaged by a fire in 1642. Repairs were begun but from the end of the seventeenth century the castle was allowed to fall into disrepair.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ป้อมปราการถูกดีขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ภายใต้ทิศทางของกษัตริย์กุสตาฟผมและบุตรคิงเอริค XIV และ III จอห์นคิง ที่เปิดป้อมปราการยุคกลางปราสาทขนาดเรเนซองส์ ปราสาทคาลมาร์ประสบความเสียหายหนักในช่วงสงคราม Kalmar 1611-13 และแก้ไขความเสียหายจากไฟไหม้ใน 1,642 ซ่อมแซมได้เริ่ม แต่ปลายศตวรรษสิบเจ็ด ปราสาทได้รับอนุญาตให้อยู่ในสภาพทรุดโทรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ป้อมปราการที่ได้รับการปรับปรุงในช่วงศตวรรษที่ 16 ภายใต้การดูแลของกษัตริย์กุสตาฟผมและบุตรชายของเอริคคิงส์ที่สิบสี่และกษัตริย์จอห์นที่สามที่หันป้อมปราการยุคกลางเป็นปราสาทพอดีสำหรับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยากษัตริย์ ปราสาทคาลมาร์ได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามคาลของ 1611-1613 และได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ใน 1642 การซ่อมแซมเริ่มมี แต่จากจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่สิบเจ็ดปราสาทได้รับอนุญาตให้ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ป้อมปราการที่ถูกพัฒนาในช่วงศตวรรษที่ 16 ภายใต้ทิศทางของกษัตริย์กุสตาฟและบุตรชายของเขา คิง เอริค XIV และกษัตริย์จอห์น III ที่เปลี่ยนเป็นปราสาทป้อมปราการยุคกลางกับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา กษัตริย์ Kalmar ในคาลมาร์ปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนักและสงคราม 1611-13 เสียหายอย่างหนักจากไฟไหม้ใน 1642 . ซ่อมถูกเริ่ม แต่จากปลายศตวรรษที่สิบเจ็ดปราสาทได้รับอนุญาตให้อยู่ใน สภาพทรุดโทรม