The present study shows that the co

The present study shows that the commonly used
bactericide triclosan and/or its metabolites are omnipresent
in plasma and milk from nursing mothers. Triclosan
was found, in a broad range of concentrations, in
all plasma and milk samples from both the control and
the exposed group (Figs. 2 and 3). The presence of
triclosan in the whole study population suggests that
there are sources of human exposure other than personal
care products. Indeed, triclosan is used in textile and
plastics (Adolfsson-Erici et al., 2002) and has been
found in fatty food (Remberger et al., 2002), but the
influence of these sources on triclosan levels in the
human body has not been studied. We note that improper
labeling or incomplete collection of personal care
products in the control group may have occurred consequently
placing exposed mothers in the control group.
Hence, no conclusions can be drawn from our data about
the upper range of plasma and milk concentrations resulting
from exposure to these other sources.
Sandborgh-Englund et al. (2006) found triclosan in
plasma at 0.1–8.1 ng/ml in 10 subjects, of which five
were exposed and five not exposed to triclosan via
personal care products. In that study, there was no apparent
difference in plasma triclosan concentrations between
the two groups. In the present study, there was an
even broader range of triclosan concentrations in plasma
(0.010–38 ng/g) and a large within group variability.
However, in contrast to the findings by Sandborgh-
Englund et al. (2006), the present study showed that the
triclosan concentrations in both plasma and milk were
clearly and significantly higher in the exposed group
than in the control group (Table 1) (Figs. 2 and 3). It is
noteworthy that the two individuals who were exposed
via soap and deodorant had the lowest triclosan
concentration in the exposed group on the first sampling
occasion; the seven who used toothpaste all had higher
levels. The results support the main hypothesis of the
study, namely that triclosan containing personal care
products are the dominant source of exposure to triclosan
in the general population.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าใช้บ่อยไทรโคลซาน bactericide หรือ metabolites มีรตุในพลาสมาและน้ำนมจากแม่พยาบาล ไทรโคลซานพบ ในช่วงกว้างของความเข้มข้น ในตัวอย่างพลาสม่าและนมจากทั้งสองตัวควบคุมทั้งหมด และการสัมผัสกลุ่ม (Figs. 2 และ 3) สถานะของแนะนำไทรโคลซานในประชากรศึกษาทั้งหมดที่มีแหล่งของการสัมผัสมนุษย์ไม่ใช่ส่วนตัวผลิตภัณฑ์ดูแล แน่นอน ใช้ไทรโคลซานในสิ่งทอ และพลาสติก (Adolfsson Erici et al., 2002) และได้รับพบในอาหารไขมัน (Remberger et al., 2002), แต่อิทธิพลของแหล่งเหล่านี้ในระดับไทรโคลซานในการไม่ได้ศึกษาร่างกายมนุษย์ เราทราบว่า ไม่เหมาะสมคอลเลกชันการติดฉลาก หรือไม่สมบูรณ์ของบุคคลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มควบคุมอาจเกิดขึ้นดังนั้นวางสัมผัสมารดาในกลุ่มควบคุมดังนั้น บทสรุปไม่สามารถดึงจากข้อมูลเกี่ยวกับช่วงบนของพลาสมาและนมความเข้มข้นที่ได้จากการสัมผัสกับแหล่งเหล่านี้Sandborgh Englund et al. (2006) พบไทรโคลซานในพลาสม่าที่ 0.1 – 8.1 ng/ml ใน 10 เรื่อง ที่ห้าได้สัมผัส และห้าการไทรโคลซานได้อย่างง่าย ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ในการศึกษา มีไม่ชัดเจนความแตกต่างในความเข้มข้นของไทรโคลซานพลาสมาระหว่างกลุ่มสอง ในการศึกษาปัจจุบัน มีการแม้กว้างช่วงของไทรโคลซานความเข้มข้นในพลาสม่า(ng 0.010 – 38 กรัม) และขนาดใหญ่ภายในกลุ่มสำหรับความผันผวนอย่างไรก็ตาม ตรงข้ามผลการวิจัยโดย Sandborgh-Englund et al. (2006), การศึกษาปัจจุบันพบว่าการไทรโคลซานความเข้มข้นในพลาสมาและน้ำนมได้อย่างชัดเจน และอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าในกลุ่มที่สัมผัสกว่าในการควบคุมกลุ่ม (ตารางที่ 1) (Figs. 2 และ 3) จึงสำคัญที่บุคคลทั้งสองที่ได้สัมผัสสบู่และยาดับกลิ่นมีไทรโคลซานต่ำความเข้มข้นในกลุ่มสัมผัสบนสุ่มตัวอย่างแรกโอกาส เซเว่นที่ใช้ยาสีฟันทั้งหมดมีสูงระดับการ ผลสนับสนุนสมมติฐานหลักของการศึกษา คือว่าไทรโคลซานประกอบด้วยการดูแลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์เป็นแหล่งที่มาหลักของการสัมผัสกับไทรโคลซานในประชากรทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าที่ใช้กันทั่วไป
Triclosan bactericide และ /
หรือสารที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งในพลาสมาและนมจากแม่พยาบาล Triclosan
พบในช่วงกว้างของความเข้มข้นในทุกพลาสม่าและตัวอย่างนมจากทั้งการควบคุมและกลุ่มที่สัมผัส(มะเดื่อ. 2 และ 3) การปรากฏตัวของTriclosan ของประชากรในการศึกษาทั้งแสดงให้เห็นว่ามีแหล่งที่มาของการสัมผัสของมนุษย์ส่วนบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ดูแล อันที่จริง Triclosan ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและพลาสติก(Adolfsson-Erici et al., 2002) และได้รับการพบในอาหารไขมัน (Remberger et al., 2002) แต่อิทธิพลของแหล่งข้อมูลเหล่านี้ในระดับTriclosan ในร่างกายมนุษย์ไม่ได้ได้รับการศึกษา เราทราบว่าที่ไม่เหมาะสมการติดฉลากหรือการจัดเก็บที่ไม่สมบูรณ์ของการดูแลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มควบคุมอาจจะเกิดขึ้นดังนั้นการวางสัมผัสมารดาในกลุ่มควบคุม. ดังนั้นข้อสรุปที่ไม่สามารถดึงออกมาจากข้อมูลของเราเกี่ยวกับช่วงบนของพลาสม่าและความเข้มข้นของนมที่เกิดจากการสัมผัสไปยังแหล่งอื่น ๆ เหล่านี้. Sandborgh Englund-et al, (2006) พบ Triclosan ในพลาสม่าที่0.1-8.1 ng / ml ใน 10 วิชาที่ห้าได้สัมผัสและห้าไม่ได้สัมผัสกับTriclosan ผ่านทางผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ในการศึกษาที่ไม่มีที่ชัดเจนแตกต่างในความเข้มข้นในพลาสมา Triclosan ระหว่างทั้งสองกลุ่ม ในการศึกษาปัจจุบันมีความกว้างมากยิ่งความเข้มข้นของ Triclosan ในพลาสมา (.010-38 ng / g) และขนาดใหญ่ที่อยู่ในความแปรปรวนของกลุ่ม. แต่ในทางตรงกันข้ามกับผลการวิจัยโดย Sandborgh- Englund et al, (2006) การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่ามีความเข้มข้นTriclosan ทั้งในพลาสม่าและนมได้อย่างชัดเจนและอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในกลุ่มสัมผัสกว่าในกลุ่มควบคุม(ตารางที่ 1) (มะเดื่อ. 2 และ 3) มันเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสองบุคคลที่ได้สัมผัสผ่านและสบู่ระงับกลิ่นกายที่มีTriclosan ต่ำสุดเข้มข้นในกลุ่มสัมผัสในการสุ่มตัวอย่างครั้งแรกโอกาส; เจ็ดใช้ยาสีฟันที่ทุกคนจะได้สูงกว่าระดับ ผลการสนับสนุนสมมติฐานหลักของการศึกษาคือว่า Triclosan ที่มีการดูแลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์ที่มีแหล่งที่มาที่โดดเด่นของการสัมผัสกับTriclosan ในประชากรทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าใช้กัน
bactericide ไตรและ / หรือสารมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง
ในพลาสมาและนมจากมารดาพยาบาล ไตรโคลซาน
ถูกพบในความหลากหลายของความเข้มข้นในพลาสมาและตัวอย่างนมทั้งหมด

ทั้งควบคุมและเปิดเผยกลุ่ม ( Figs 2 และ 3 ) การปรากฏตัวของ
ไตรในประชากรที่ศึกษาทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า
มีแหล่งที่มาของการสัมผัสของมนุษย์ นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล

แน่นอน ไตรที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและพลาสติก ( adolfsson
erici et al . , 2002 ) และได้ถูก
ที่พบในอาหารไขมัน ( remberger et al . , 2002 ) แต่อิทธิพลของแหล่งที่มาเหล่านี้

ระดับไตร ในร่างกายมนุษย์ได้ศึกษา เราทราบว่าไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์คอลเลกชันของการติดฉลาก

ดูแลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่อาจจะเกิดขึ้นจึง
วางสัมผัสมารดาในกลุ่มควบคุม
ดังนั้นข้อสรุปไม่สามารถดึงจากข้อมูลเกี่ยวกับ
ช่วงด้านบนของพลาสมาและน้ำนมเข้มข้นที่เกิดจากการสัมผัสกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ
.
sandborgh งลุนด์ et al . ( 2006 ) ที่พบในพลาสมาไตร
ที่ 0.1 – 1 ng / ml ใน 10 คน ซึ่ง 5
ถูกเปิดเผยและไม่เปิดเผย ผ่าน 5 ไตร
ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ในการศึกษานั้น ไม่มีความแตกต่างชัดเจน

) ไตรพลาสมาระหว่างสองกลุ่ม ในการศึกษาครั้งนี้มี
ได้กว้างช่วงของไตรโคลซานความเข้มข้นในพลาสมา
( 0.010 - 38 กรัม / กรัม ) และขนาดใหญ่ภายในของกลุ่ม .
แต่ในทางตรงกันข้ามผลโดย sandborgh -
งลันด์ et al .( 2006 ) , การศึกษาพบว่า ความเข้มข้นของพลาสม่าและไตร

นมเป็นอย่างชัดเจนและสูงกว่าในกลุ่ม
เปิดเผยมากกว่าในกลุ่มควบคุม ( ตารางที่ 1 ) ( Figs 2 และ 3 ) มันเป็นน่าสังเกตว่าบุคคลสองคน

ที่ได้รับผ่านสบู่และดับกลิ่น มีความเข้มข้นของไตร
ต่ำสุดในกลุ่มที่สัมผัสแรกของการสุ่มตัวอย่าง
โอกาส7 ที่ใช้ยาสีฟันที่มีระดับที่สูงขึ้น

ผลการวิจัยสนับสนุนสมมติฐานหลักของ
ศึกษา คือไตรประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลเป็นแหล่งเด่น

เปิดรับไตรในประชากรทั่วไป