Vygotsky differed from Piaget in th

Vygotsky differed from Piaget in that he considered development after age 2 as, at least partially determined by language. He believed that egocentric speech serves the function of self-guidance, and eventually becomes internalized. It is only spoken aloud because the child has not yet learned how to internalize it. He found that egocentric speech decreased when the child's feeling of being understood diminished, as when there was no listener or the listener was occupied with other matters. These ideas, while intriguing, have never been adequately researched, so it is difficult to evaluate their significance.

While there can be wide variation of activities and content in a Vygotskian classroom, four principles always apply:
1. Learning and development is a social, collaborative activity
2. The Zone of Proximal Development can serve as a guide for curricular and lesson planning
3. Classroom activity should be reality-based and applicable to the real world
4. Learning extends to the home and other out-of-school environments and activities and all learning situations should be related.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Vygotsky แตกต่างจากปียาแฌที่เขาถือว่าพัฒนาจากยุคเป็น น้อยบางส่วนตามภาษา เขาเชื่อว่า คำพูด egocentric รองรับการทำงานของการแนะนำตนเอง และในที่สุดกลายเป็น internalized ก็เพียงพูดออกเสียงเนื่องจากเด็กมีไม่ได้เรียนรู้วิธีการ internalize มัน เขาพบว่า เสียง egocentric ลดลงเมื่อการเข้าใจความรู้สึกของเด็กลดลง เมื่อมี ไม่ฟังหรือฟังที่มีการครอบครองกับเรื่องอื่น ๆ ความคิดเหล่านี้ ขณะตลอด มีไม่ได้อย่างเพียงพอเมือ ดังนั้นจึงยากที่จะประเมินความสำคัญของพวกเขา ในขณะที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายของกิจกรรมและเนื้อหาในห้องเรียน Vygotskian หลักสี่จะใช้: 1. เรียนรู้และพัฒนา กิจกรรมทางสังคม ความร่วมมือ 2.โซนของ Proximal พัฒนาสามารถใช้เป็นคู่มือสำหรับเสริม และแผนการสอน 3. ห้องเรียนกิจกรรมควร ตามความเป็นจริง และใช้ได้กับโลกจริง 4. เรียนรู้ขยายไปถึงบ้าน และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ออกของโรงเรียน และกิจกรรม และสถานการณ์การเรียนรู้ทั้งหมดควรจะเกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Vygotsky แตกต่างจากเพียเจต์ในการที่เขาคิดว่าการพัฒนาหลังจากอายุ 2 เป็นอย่างน้อยบางส่วนโดยกำหนดภาษา เขาเชื่อว่าคำพูดที่เห็นแก่ตัวทำหน้าที่การทำงานของตัวเองคำแนะนำและในที่สุดก็จะกลายเป็น internalized มันเป็นเรื่องที่พูดออกมาดัง ๆ เพียงเพราะเด็กยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการที่จะ internalize มัน เขาพบว่าคำพูดที่เห็นแก่ตัวลดลงเมื่อความรู้สึกของเด็กจากการถูกเข้าใจลดน้อยลงเช่นเมื่อมีผู้ฟังหรือไม่ฟังก็ยุ่งอยู่กับเรื่องอื่น ๆ . ความคิดเหล่านี้ในขณะที่รัก, ไม่เคยมีการวิจัยอย่างเพียงพอดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความสำคัญของพวกเขาในขณะที่จะมีความหลากหลายของกิจกรรมและเนื้อหาในห้องเรียน Vygotskian สี่หลักการเคยใช้: 1 การเรียนรู้และการพัฒนาทางสังคมเป็นกิจกรรมร่วมกัน2 โซนพัฒนา Proximal สามารถใช้เป็นคู่มือสำหรับหลักสูตรและการวางแผนบทเรียนที่3 กิจกรรมในชั้นเรียนควรจะเป็นจริงตามและใช้บังคับกับโลกแห่งความจริง4 การเรียนรู้ขยายไปถึงบ้านและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ออกจากโรงเรียนและกิจกรรมการเรียนรู้และสถานการณ์ที่ทุกคนควรจะเกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนวคิดที่แตกต่างจากเพียเจต์ ที่เขาพิจารณาหลังจากอายุ 2 การพัฒนาอย่างน้อยบางส่วนโดยกำหนดภาษา เขาเชื่อว่า เห็นแก่ตัว พูดให้บริการฟังก์ชั่นนำทางด้วยตนเอง และในที่สุดจะกลายเป็น internalized . มันเป็นเพียงพูดออกเสียง เพราะเด็กไม่ได้เรียนรู้วิธีการเข้าถึงมันเขาพบว่าเห็นแก่ตัวพูดลดลงเมื่อลูกรู้สึกเข้าใจลดลง เมื่อไม่ฟัง หรือฟังก็ยุ่งกับเรื่องอื่น ความคิดเหล่านี้ ในขณะที่ที่รัก ไม่เคยค้นคว้าอย่างเพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะประเมินความสำคัญของพวกเขา

ในขณะที่สามารถมีความหลากหลายของกิจกรรมและเนื้อหาใน vygotskian ห้องเรียนสี่หลักมักจะใช้ :
1 การเรียนรู้และพัฒนาเป็นสังคม กิจกรรมร่วมกัน
2 ส่วนโซนพัฒนาการ สามารถใช้เป็นคู่มือสำหรับหลักสูตรและบทเรียนวางแผน
3 กิจกรรมในชั้นเรียนควรความเป็นจริงตามและใช้ในโลกจริง
4การเรียนรู้ ขยายไปถึงบ้านและออกอื่น ๆของสภาพแวดล้อมในโรงเรียนและกิจกรรมและการเรียนรู้สถานการณ์ที่น่าจะเกี่ยวข้อง