Free public college” is a great pol

Free public college” is a great political talking point, but it is flawed policy.

First, free college isn’t free, it simply shifts costs from students to taxpayers and caps tuition at zero. That tuition cap limits college spending to whatever the public is willing to invest. But it does not change the cost of college, or what institutions actually spend per student. If the past is any guide, that cost will continue to grow, and an influx of federal money may lead profligate administrators to spend even more. Enrollments will also increase, further multiplying the cost of free college.

A national push for tuition-free college would strain public budgets even further, leading to shortages rather than increased access.
The key question, then, is what happens if public generosity does not keep pace with rising college costs, increases in demand, or both? Barring a drastic improvement in efficiency, tuition-free colleges won’t have the resources to serve additional students without compromising the quality of their offerings.

As progressive advocates of free college are so eager to point out, public funding hasn’t kept up with such changes in the past. For instance, California has the cheapest community college fees in the nation. During the recession, enrollments boomed and the state budget for higher education took a hit. Unable to raise additional revenue through a tuition increase, California’s community colleges turned away 600,000 students.

A national push for tuition-free college would strain public budgets even further, leading to shortages rather than increased access. And because middle and upper-income students will gobble up many of the free public slots, rationing will hurt those who need access the most.

Advocates will likely argue that federal policy can simply force policymakers to increase funding in response to changes. But today’s political coalition will be hardpressed to tie the hands of tomorrow’s, especially when times are tough.

Second, free college plans assume that tuition prices are the main obstacle to student success, looking past problems of educational quality and college readiness. Take community colleges, where federal grants cover the price of tuition for the average low-income student. Despite free tuition, just one-third of students from the bottom income quartile who started at a community college in 2003 finished a degree or certificate by 2009. Two-year students from the top income quartile didn’t do much better (42 percent).

These numbers suggest that lackluster outcomes are not entirely, or even mostly, a function of tuition prices, but reflect deeper problems. Like the fact that 60 to 70 percent of community college students have to take at least one remedial course, as do 40 percent of those at public four-year institutions. Or the fact that students who attend public four-year colleges with lower graduation rates are less likely to finish than similar peers who attend better schools.

Rather than spread scarce federal money across all students, policymakers should instead target those resources toward those who need it most and empower them to choose the option — public or private — that fits their needs. A valuable degree is worth the investment even if you have to pay something for it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟรีสาธารณะวิทยาลัย"เป็นจุดการพูดคุยทางการเมืองที่ดี แต่เป็นข้อผิดพลาดนโยบายวิทยาลัยแรก ฟรีไม่ฟรี มันแค่เปลี่ยนแปลงต้นทุนจากนักเรียนผู้เสียภาษีและหมวกที่ศูนย์ ว่า เรียนฝาจำกัดวิทยาลัยจ่ายสิ่งสาธารณะเป็นยินดีที่ลงทุน แต่มันไม่เปลี่ยนแปลงต้นทุนของวิทยาลัย หรืออะไรสถาบันจริงใช้ต่อนักเรียน ถ้าผ่านมาเป็นการแนะนำ ทุนจะยังคงเติบโต และการไหลเข้าของเงินรัฐบาลอาจทำ profligate ผู้ดูแลการใช้จ่ายมากขึ้น ลงจะเพิ่มขึ้น การ คูณต้นทุนของวิทยาลัยฟรีกดชาติสำหรับค่าเล่าเรียนฟรีวิทยาลัยจะต้องสาธารณะงบประมาณยิ่ง นำไปสู่การขาดแคลนมากกว่าถึงเพิ่มขึ้นมากที่สำคัญคำถาม แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสาธารณะความเอื้ออาทรไม่ทันต้นทุนวิทยาลัยเพิ่มขึ้น การเพิ่มความต้องการ หรือทั้งสอง Barring การปรับปรุงอย่างมากในประสิทธิภาพ ฟรีค่าเล่าเรียนวิทยาลัยจะไม่มีทรัพยากรที่ให้บริการนักเรียนเพิ่มเติมโดยไม่สูญเสียคุณภาพของตนเป็นผู้สนับสนุนที่ก้าวหน้าของวิทยาลัยฟรีจึงอยากจะชี้ เงินทุนสาธารณะยังไม่เก็บค่ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในอดีต เช่น แคลิฟอร์เนียมีค่าวิทยาลัยชุมชนที่ถูกที่สุดในประเทศ ในช่วงภาวะถดถอย boomed ลง และเอางบประมาณรัฐที่สูงตี สามารถเพิ่มรายได้เพิ่มเติมผ่านการขึ้นค่าเล่าเรียน วิทยาลัยชุมชนของแคลิฟอร์เนียหันไปเรียน 600,000กดชาติสำหรับค่าเล่าเรียนฟรีวิทยาลัยจะต้องสาธารณะงบประมาณยิ่ง นำไปสู่การขาดแคลนมากกว่าถึงเพิ่มขึ้นมาก และเนื่องจากนักเรียนระดับกลาง และบนรายได้จะสวาปามขึ้นหลายช่องสาธารณะฟรี ปันส่วนจะเจ็บผู้ที่ต้องการเข้าถึงมากสุดผู้สนับสนุนอาจจะเถียงว่า นโยบายของรัฐก็สามารถบังคับให้ผู้กำหนดนโยบายในการเพิ่มเงินทุนในการเปลี่ยนแปลง แต่วันนี้การเมืองรัฐบาลจะ hardpressed ผูกมือของของวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลายากลำบากแผนสอง ฟรีวิทยาลัยสมมติว่า ค่าเล่าเรียนราคาเป็นอุปสรรคหลักสู่ความสำเร็จนักเรียน การมองปัญหาของการเตรียมพร้อมในการศึกษาคุณภาพและวิทยาลัยที่ผ่านมา ใช้ที่วิทยาลัยชุมชน ซึ่งเงินอุดหนุนที่รัฐบาลกลางครอบราคาค่าเล่าเรียนสำหรับนักเรียนที่มีรายได้ต่ำโดยเฉลี่ย แม้ มีค่าเล่าเรียนฟรี เพียงหนึ่งในสามของนักเรียนจากสัดส่วนรายได้ของล่างที่เริ่มต้นที่วิทยาลัยชุมชนใน 2003 จบปริญญาหรือใบรับรอง โดย 2009 นักเรียนสองปีจากสัดส่วนรายได้ด้านบนไม่มากดีกว่า (ร้อยละ 42)ตัวเลขเหล่านี้แนะนำว่า เรื่องผลลัพธ์ไม่ทั้งหมด หรือแม้กระทั่งส่วน ใหญ่ ฟังก์ชันของค่าเล่าเรียนราคา แต่สะท้อนปัญหาลึกซึ้ง ชอบความจริงที่ว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนมีการเรียนแก้ไขน้อย เป็นทำร้อยละ 40 ของผู้ที่สถาบันของรัฐ 4 ปี หรือความจริงที่ว่านักเรียนที่เข้าร่วมสาธารณะสี่ปีวิทยาลัย มีอัตราสำเร็จการศึกษาต่ำ มีแนวโน้มขึ้นเสร็จสิ้นกว่าเพื่อนคล้ายที่เข้าโรงเรียนดีกว่าแทนที่จะกระจายเงินกลางหายากทั้งนักเรียน ผู้กำหนดนโยบายควรแทนกำหนดเป้าหมายทรัพยากรเหล่านั้นต่อผู้ที่ต้องการมากที่สุด และทำการเลือกตัวเลือก — ส่วนตัว หรือสาธารณะ — ที่เหมาะกับความต้องการ ในระดับคุณค่าที่คุ้มการลงทุนแม้ว่าคุณจะต้องจ่ายสิ่งที่มัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟรีวิทยาลัยสาธารณะ "เป็นจุดการพูดคุยทางการเมืองที่ดี แต่มันเป็นนโยบายข้อบกพร่อง. ครั้งแรกที่วิทยาลัยฟรีไม่ฟรีก็เพียงแค่เปลี่ยนค่าใช้จ่ายจากนักเรียนผู้เสียภาษีและหมวกที่ศูนย์การเรียนการสอน ข้อ จำกัด หมวกการเรียนการสอนที่วิทยาลัยการใช้จ่ายกับสิ่งที่ประชาชนยินดีที่จะลงทุน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนค่าใช้จ่ายของวิทยาลัยหรือสิ่งที่สถาบันการใช้จ่ายจริงต่อนักเรียน หากที่ผ่านมาเป็นคู่มือใด ๆ ค่าใช้จ่ายที่จะยังคงเติบโตและการไหลเข้าของเงินของรัฐบาลกลางอาจนำไปสู่ผู้บริหารเสเพลที่จะใช้จ่ายมากขึ้นแม้กระทั่ง การลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อไปคูณค่าใช้จ่ายของวิทยาลัยฟรี. ผลักดันชาติสำหรับวิทยาลัยค่าเล่าเรียนฟรีจะได้สายพันธุ์งบประมาณของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นนำไปสู่การขาดแคลนมากกว่าการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้น. คำถามที่สำคัญก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าความเอื้ออาทรของประชาชนไม่ได้ ให้ทันกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวิทยาลัยการเพิ่มขึ้นในความต้องการหรือทั้งสอง? แบริ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างมากในวิทยาลัยค่าเล่าเรียนฟรีจะไม่ได้มีทรัพยากรที่จะให้บริการนักเรียนเพิ่มเติมโดยไม่สูญเสียคุณภาพของเสนอของพวกเขาได้. ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนความก้าวหน้าของวิทยาลัยฟรีจึงกระตือรือร้นที่จะชี้ให้เห็นการระดมทุนของประชาชนยังไม่ได้เก็บไว้กับ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในอดีตที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่นแคลิฟอร์เนียมีค่าธรรมเนียมถูกที่สุดชุมชนของวิทยาลัยในประเทศ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย, การลงทะเบียนดังและงบประมาณของรัฐเพื่อการศึกษาที่สูงขึ้นเอาตี ไม่สามารถที่จะยกระดับรายได้เพิ่มเติมด้วยการเพิ่มขึ้นของการเรียนการสอนที่วิทยาลัยชุมชนแคลิฟอร์เนียหันไป 600,000 นักเรียน. ผลักดันชาติสำหรับวิทยาลัยค่าเล่าเรียนฟรีจะได้สายพันธุ์งบประมาณของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นนำไปสู่การขาดแคลนมากกว่าการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้น และเนื่องจากนักเรียนกลางและบนที่มีรายได้จะฮุบหลายช่องสาธารณะปันส่วนจะทำร้ายผู้ที่ต้องการเข้าถึงมากที่สุด. ประชาสัมพันธ์มีแนวโน้มที่จะยืนยันว่านโยบายของรัฐบาลกลางก็สามารถบังคับให้ผู้กำหนดนโยบายที่จะเพิ่มเงินทุนในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง แต่วันนี้ของรัฐบาลทางการเมืองจะได้รับการ hardpressed จะผูกมือของวันพรุ่งนี้โดยเฉพาะเมื่อครั้งเป็นยาก. ประการที่สองแผนวิทยาลัยฟรีสมมติว่าราคาค่าเล่าเรียนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสำเร็จของนักเรียนมองปัญหาที่ผ่านมาของการศึกษาที่มีคุณภาพและความพร้อมของวิทยาลัย ใช้วิทยาลัยชุมชนที่ครอบคลุมทุนรัฐบาลกลางราคาของการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนที่มีรายได้ต่ำเฉลี่ย แม้จะมีการเรียนการสอนฟรีเพียงหนึ่งในสามของนักศึกษาจากรายได้ด้านล่างควอไทล์ที่เริ่มต้นที่วิทยาลัยชุมชนในปี 2003 เสร็จสิ้นการศึกษาระดับปริญญาหรือใบรับรองโดยนักเรียนปี 2009 สองปีจากรายได้ด้านบนควอไทล์ไม่ได้ทำดีมาก (ร้อยละ 42) . ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าผลที่น่าเบื่อไม่ได้ทั้งหมดหรือแม้กระทั่งส่วนใหญ่ฟังก์ชั่นของราคาค่าเล่าเรียน แต่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นลึกลงไป เช่นเดียวกับความจริงที่ว่า 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเยียวยารักษาได้แน่นอนเช่นเดียวกับร้อยละ 40 ของผู้ที่มีประชาชนสถาบันสี่ปี หรือความจริงที่ว่านักเรียนที่เข้าร่วมวิทยาลัยสาธารณะสี่ปีที่มีอัตราการสำเร็จการศึกษาที่ต่ำกว่ามีโอกาสน้อยที่จะเสร็จสิ้นกว่าเพื่อนที่คล้ายกันที่เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีกว่า. มากกว่าการแพร่กระจายเงินที่หายากของรัฐบาลกลางทั่วนักเรียนทุกคนกำหนดนโยบายควรกำหนดเป้าหมายทรัพยากรเหล่านั้นไปยังผู้ที่ต้องการมัน มากที่สุดและช่วยให้พวกเขาเลือกตัวเลือก - รัฐหรือเอกชน - ที่เหมาะกับความต้องการของพวกเขา ระดับที่มีคุณค่ามีมูลค่าการลงทุนแม้ว่าคุณจะมีบางสิ่งบางอย่างที่จะจ่ายสำหรับมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาลัยประชาชนฟรีเป็นจุดพูดที่ดีทางการเมือง แต่เป็นนโยบายที่สมบูรณ์ครั้งแรกที่วิทยาลัยไม่ได้ ฟรี ฟรี เพียงแต่เปลี่ยนจากนักศึกษาผู้เสียภาษีค่าใช้จ่ายและค่าเล่าเรียนหมวกที่ศูนย์ ที่การเล่าเรียนวิทยาลัยการใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่หมวก จำกัด มหาชนยินดีที่จะลงทุน แต่มันไม่ได้เปลี่ยนค่าใช้จ่ายของวิทยาลัย หรือสถาบันจริงใช้จ่ายต่อนักศึกษา ถ้าอดีตเป็นคู่มือการใด ๆที่ต้นทุนจะยังคงเติบโต และการไหลเข้าของเงินของรัฐบาลกลางอาจนำผู้บริหารสุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายมากขึ้น นักศึกษาก็จะเพิ่มเติม คูณค่าใช้จ่ายของวิทยาลัยฟรีผลักดันชาติวิทยาลัยฟรีค่าเล่าเรียนจะความเครียดงบประมาณสาธารณะมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการขาดแคลนมากกว่าการเพิ่มการเข้าถึงคีย์ถาม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสาธารณะแบบไม่ให้ทันกับค่าใช้จ่ายวิทยาลัยเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นในความต้องการ หรือทั้งสองอย่าง นอกจากการปรับปรุงอย่างมากในประสิทธิภาพ วิทยาลัย ฟรีค่าเล่าเรียนจะไม่ได้มีทรัพยากรที่จะให้นักเรียนเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องสูญเสียคุณภาพของข้อเสนอของพวกเขาเป็นโปรเกรสซีฟสนับสนุนวิทยาลัยฟรีจึงกระตือรือร้นที่จะชี้ให้เห็นสาธารณะเดิมไม่ได้เก็บไว้กับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในอดีต ตัวอย่างเช่นรัฐแคลิฟอร์เนียมีวิทยาลัยชุมชนค่าธรรมเนียมถูกที่สุดในประเทศ ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู และงบประมาณของรัฐนักศึกษา , อุดมศึกษา เอาตี . ไม่สามารถเพิ่มรายได้เพิ่มเติมจากค่าเรียนเพิ่ม วิทยาลัยชุมชนรัฐแคลิฟอร์เนียหันไป 600000 นักเรียนผลักดันชาติวิทยาลัยฟรีค่าเล่าเรียนจะความเครียดงบประมาณสาธารณะมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการขาดแคลนมากกว่าการเพิ่มการเข้าถึง และเพราะว่า กลาง และบน นักศึกษา รายได้จะฮุบหลายของฟรีสาธารณะช่อง การทำให้ผู้ที่ต้องการมากที่สุดสนับสนุนอาจจะเถียงว่า นโยบายของรัฐบาลกลางสามารถบังคับนโยบายเพื่อเพิ่มเงินทุนในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลง แต่กลุ่มการเมืองวันนี้จะเป็น hardpressed ผูกมือของวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครั้งเป็นยาก2 , แผนวิทยาลัยฟรีสมมติว่าราคาค่าเล่าเรียนมีอุปสรรคหลักเพื่อความสำเร็จของนักเรียน มองปัญหาที่ผ่านมาของ คุณภาพการศึกษาวิทยาลัยและเตรียมความพร้อม . เอาวิทยาลัยชุมชนที่รัฐบาลมอบครอบคลุมราคาค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษา รายได้เฉลี่ย แม้ค่าเล่าเรียนฟรี แค่ 1 ใน 3 ของนักเรียนจากด้านล่างรายได้เวลาที่เริ่มต้นที่วิทยาลัยในปี 2003 จบปริญญาหรือประกาศนียบัตร 2009 สองนักศึกษาจากยอดรายได้ควอร์ไทล์ไม่ได้ทำที่ดีมาก ( 42 เปอร์เซ็นต์ )ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าผลต่อไปจะไม่ทั้งหมดหรือส่วนใหญ่เป็นฟังก์ชันของราคาค่าเรียน แต่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ลึกกว่า ชอบที่ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเสริมหลักสูตร เป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่สี่ปีของสถาบันสาธารณะ หรือความจริงที่ว่านักเรียนที่เข้าร่วมวิทยาลัยสี่ปีสาธารณะที่มีอัตราการศึกษาระดับโอกาสน้อยที่จะทำมากกว่ากัน เพื่อนที่ไปโรงเรียนดีกว่าแทนที่จะกระจายทั่วสหรัฐขาดแคลนเงินนักเรียนทั้งหมด นอกจากนี้ ควรแทนเป้าหมายทรัพยากรเหล่านั้นไปยังผู้ที่ต้องการมากที่สุด และช่วยให้พวกเขาในการเลือกตัวเลือกที่ภาครัฐหรือเอกชน - ที่เหมาะกับความต้องการของพวกเขา ระดับคุณค่าคุ้มค่ากับการลงทุน แม้ว่าคุณจะต้องจ่ายสำหรับมัน