Liu and Liu (2000) examined the imp

Liu and Liu (2000) examined the impact of social and academic integration on college students’ satisfaction and retention in the theoretical context of Tinto. Results showed that academic integration, social integration and academic performance all had positive influences on student satisfaction (with social integration as the most influential factor). Academic integration, academic performance and student satisfaction all influenced student retention and persistence. Social integration was not significant, however. Liu and Liu offer two definitions of social integration to clarify this point. One definition of social integration is the “absence of estrangement and alienation” which is presumed to be “positively associated with persistence.” Yet, when defined in terms of “frequencies of social interaction” with others, the “relationship between persistence and social integration is not necessarily positive.” Neither gender, age, nor ethnicity showed any impact on either satisfaction or retention.
McKay and Estrella (2008) did a study on whether academic and social integration were enhanced for students who took a course in a community service training program which was given by the faculty. Results seem to suggest that the training program could well do so, given that much interaction takes place between the students and the faculty members (conducting the course). Ultimate success relies on academic and social integration, both of which could be determined wholly or partially by communication between said parties. Their results also indicate a strong relationship between the quality of the interaction and the students’ belief about achieving their academic goals.
Tinto (1997) explored a special program of Seattle Central Community College. Called the Coordinated Studies Program (CSP), its aim was to give its students a different kind of classroom experience by linking courses to one another based on some theme rather than the traditional system of separated, individual courses with no significant links to other courses. The other aspect of the CSP is fostering a collaborative environment by having the students learn interdependently. Still in the realm of student persistence, this study redirects attention to the importance of the classroom experience in terms of retaining students. While a great deal of effort in student retention programs deal with the issues outside the classroom (student affairs), this focuses on the issues within the classroom. Research into the CSP showed significant differences in terms of satisfaction with the learning environment, as students enrolled in the special program had a greater amount of satisfaction than those enrolled in the conventional course curriculum.
Kanfer et al. (2010) looked at how to predict academic and job performance by testing college students’ cognitive ability (verbal, numerical and spatial) and non-ability traits (personality, motivations, interests, self-assessment). Both were found to be important predictors of academic performance. Their study, though not directly related to this one, is good to consider for conducting research on the subject of retention

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลิวและหลิว (2000) ตรวจสอบผลกระทบด้านสังคม และวิชาการรวมกับความพึงพอใจของนักเรียนและการเก็บรักษาในทฤษฎีของ Tinto ผลลัพธ์แสดงรวมที่วิชาการ ทางสังคมและผลการศึกษาทั้งหมดมีอิทธิพลในเชิงบวกกับความพึงพอใจของนักเรียน (โดยรวมทางสังคมเป็นปัจจัยมีอิทธิพลมากที่สุด) รวมศึกษา ผลการศึกษา และเก็บข้อมูลนักเรียนความพึงพอใจทั้งหมดที่มีผลต่อนักเรียน และคงอยู่ ทางสังคมไม่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เล่าและเล่าให้นิยามทั้งสองของบูรณาการทางสังคมเพื่อชี้แจงจุดนี้ คำจำกัดความหนึ่งของสังคมรวมเป็น "ขาดงาน estrangement และจำหน่าย" ซึ่ง presumed เป็น "บวกเกี่ยวข้องกับคงอยู่" ยัง เมื่อกำหนดในแง่ของ "ความถี่ของสังคม" กับผู้อื่น การ "ความสัมพันธ์ระหว่างการมีอยู่และทางสังคมไม่ได้บวกจำเป็นต้อง" ไม่มีเพศ อายุ หรือเชื้อชาติพบว่าผลกระทบใด ๆ บนความพึงพอใจหรือรักษาแม็กเคย์และ Estrella (2008) ทำการศึกษาว่ามีเพิ่มวิชาการ และสังคมรวมเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้หลักสูตรในโปรแกรมการฝึกอบรมการบริการชุมชนซึ่งถูกกำหนด โดยคณะ ผลลัพธ์ดูเหมือนจะ แนะนำว่า โปรแกรมการฝึกอบรมดีไม่ได้ ระบุว่าโต้ตอบมากขึ้นระหว่างนักเรียนและคณาจารย์ (ดำเนินการหลักสูตร) ความสำเร็จที่ดีที่สุดอาศัยวิชาการ และสังคมรวม ทั้งที่ไม่ได้กำหนดทั้งหมด หรือบางส่วน โดยการสื่อสารระหว่างบุคคลดังกล่าว ผลของพวกเขายังระบุความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณภาพของการโต้ตอบและความเชื่อของนักเรียนเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายการศึกษา Tinto (1997) สำรวจโปรแกรมพิเศษของซีแอตเทิลกลางวิทยาลัยชุมชน เรียกว่าโปรแกรมการศึกษาประสาน (CSP), เป้าหมายสำคัญคือเพื่อ ให้นักเรียนของชนิดแตกต่างของประสบการณ์ในห้องเรียน โดยการเชื่อมโยงหลักสูตรอื่นตามชุดรูปแบบบางอย่าง แทนระบบดั้งเดิมของ คั่น เชื่อมโยงหลักสูตรอื่น ๆ ไม่สำคัญแต่ละคอร์ส ด้านอื่น ๆ ของ CSP จะทำนุบำรุงสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกัน โดยมีนักเรียนที่เรียน interdependently ยังอยู่ในขอบเขตของการคงอยู่ของนักเรียน การศึกษานี้เปลี่ยนเส้นทางให้ความสนใจกับความสำคัญของประสบการณ์ในการรักษานักเรียนห้องเรียน ในขณะที่การจัดการที่ดีของความพยายามในการศึกษาเก็บข้อมูลโปรแกรมจัดการกับปัญหาภายนอกห้องเรียน (กิจการนักศึกษา), นี้เน้นในเรื่องภายในห้องเรียน วิจัยเป็นที่ CSP ที่พบแตกต่างกันในด้านความพึงพอใจกับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ เป็นนักศึกษาในโปรแกรมพิเศษมียอดเงินมากกว่าความพึงพอใจมากกว่าผู้ที่ลงทะเบียนในหลักสูตรปกติหลักสูตรAl. ร้อยเอ็ด Kanfer (2010) ดูวิธีการทำนายด้านการศึกษาและปฏิบัติงาน ด้วยความรับรู้ของนักเรียนทดสอบ (วาจา ตัวเลข และปริภูมิ) และลักษณะไม่ใช่ความสามารถ (บุคลิกภาพ โต่ง สนใจ ประเมินตนเอง) ทั้งสองพบจะ predictors สำคัญของผลการศึกษา การศึกษา แม้ว่าทางนี้หนึ่ง เหมาะการพิจารณาสำหรับการทำวิจัยในเรื่องของการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และหลิวหลิว (2000) ตรวจสอบผลกระทบของการรวมกลุ่มทางสังคมและทางวิชาการเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักศึกษาและการเก็บรักษาในบริบททางทฤษฎีของ Tinto ผลการศึกษาพบว่าการรวมกลุ่มทางวิชาการบูรณาการทางสังคมและผลการเรียนทุกคนมีอิทธิพลเชิงบวกเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักศึกษา (ที่มีการบูรณาการทางสังคมเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุด) บูรณาการการเรียน, ผลการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับอิทธิพลการเก็บรักษาและการติดตา สังคมบูรณาการไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ หลิวหลิวและมีสองความหมายของการรวมกลุ่มทางสังคมที่จะชี้แจงประเด็นนี้ ความหมายหนึ่งของการรวมกลุ่มทางสังคมคือ "ตัวตนของความบาดหมางและความแปลกแยก" ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น "ความสัมพันธ์เชิงบวกกับการติดตา." แต่เมื่อกำหนดไว้ในแง่ของ "ความถี่ของการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม" กับผู้อื่น "ความสัมพันธ์ระหว่างความคงทนและบูรณาการทางสังคม ไม่จำเป็นต้องเป็นบวก. "ทั้งเพศอายุเชื้อชาติหรือแสดงให้เห็นผลกระทบใด ๆ ต่อความพึงพอใจหรือการเก็บรักษา.
แม็คเคย์และ Estrella (2008) ได้ศึกษาว่าบูรณาการวิชาการและสังคมที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียนที่เข้ามามีหลักสูตรในการฝึกอบรมการบริการชุมชน โปรแกรมที่ได้รับจากคณะ ผลดูเหมือนจะชี้ให้เห็นว่าโปรแกรมการฝึกอบรมเป็นอย่างดีสามารถทำเช่นนั้นได้ระบุว่าการทำงานร่วมกันมากที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนและอาจารย์ (การดำเนินการเรียนการสอน) ประสบความสำเร็จสูงสุดอาศัยการบูรณาการวิชาการและสังคมซึ่งทั้งสองจะได้รับการพิจารณาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยการสื่อสารระหว่างบุคคลที่กล่าวว่า ผลของพวกเขายังแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างคุณภาพของการปฏิสัมพันธ์และความเชื่อของนักเรียนเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายด้านการศึกษาของพวกเขา.
Tinto (1997) สำรวจโปรแกรมพิเศษของซีแอตเติกลางวิทยาลัยชุมชน ที่เรียกว่าโปรแกรมการศึกษาประสานงาน (CSP) จุดมุ่งหมายของมันคือเพื่อให้นักเรียนของชนิดของประสบการณ์ในห้องเรียนโดยการเชื่อมโยงหลักสูตรกับอีกคนหนึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบที่แตกต่างกันบางอย่างมากกว่าระบบแบบดั้งเดิมของการแยกออกจากหลักสูตรของแต่ละบุคคลที่ไม่มีการเชื่อมโยงที่สำคัญในหลักสูตรอื่น ๆ ด้านอื่น ๆ ของซีเอสพีจะสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันโดยมีนักเรียนเรียนรู้ interdependently ยังคงอยู่ในขอบเขตของการคงอยู่ของนักเรียนการศึกษาครั้งนี้เปลี่ยนเส้นทางความสนใจไปที่ความสำคัญของประสบการณ์ห้องเรียนในแง่ของการรักษานักเรียน ในขณะที่การจัดการที่ดีของความพยายามในโปรแกรมการเก็บรักษานักเรียนจัดการกับปัญหานอกห้องเรียน (กิจการนักศึกษา) นี้มุ่งเน้นไปที่ปัญหาภายในห้องเรียน การวิจัยใน CSP แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของความพึงพอใจกับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นนักเรียนลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมพิเศษมีจำนวนมากของความพึงพอใจมากกว่าผู้ที่ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรเดิม.
Kanfer et al, (2010) มองไปที่วิธีการที่จะคาดการณ์ผลการดำเนินงานทางวิชาการและงานโดยการทดสอบความสามารถทางปัญญานักศึกษา (วาจาตัวเลขและอวกาศ) และลักษณะที่ไม่สามารถ (บุคลิกภาพแรงจูงใจความสนใจการประเมินตนเอง) ทั้งสองพบว่ามีการพยากรณ์ที่สำคัญของผลงานทางวิชาการ การศึกษาของพวกเขาแม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคนนี้เป็นสิ่งที่ดีที่จะต้องพิจารณาในการดำเนินการวิจัยในเรื่องของการเก็บรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลิว หลิว ( 2000 ) และตรวจสอบผลกระทบของการรวมกลุ่มทางสังคมและทางวิชาการ เรื่องความพึงพอใจของนักศึกษาวิทยาลัยและความคงทนในบริบทเชิงทฤษฎีของ Tinto . ผลการศึกษาพบว่า วิชาการบูรณาการ บูรณาการทางสังคมและการปฏิบัติงานวิชาการที่มีอิทธิพลในเชิงบวกต่อความพึงพอใจของนักศึกษา ( ที่มีการบูรณาการทางสังคมเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุด ) บูรณาการวิชาการการปฏิบัติงานและความพึงพอใจของนักเรียนต่อนักศึกษาและเก็บรักษา การบูรณาการทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม หลิว หลิว และมีสองความหมายของบูรณาการทางสังคมเพื่อชี้แจงในประเด็นนี้ คำนิยามของบูรณาการทางสังคมคือ " ไม่มีความบาดหมางและแปลกแยก " ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็น " ความสัมพันธ์เชิงบวกกับการ " เลยเมื่อกำหนดในแง่ของความถี่ของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น " ความสัมพันธ์ระหว่างการเก็บรักษา และสังคม ไม่จําเป็นต้องเป็นบวก ไม่มีเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ พบผลกระทบใด ๆ ที่ให้ความพึงพอใจหรือการเก็บรักษา .
แมคเคย์ และ เอสเทรล ( 2551 ) ได้ศึกษาว่า การบูรณาการวิชาการและสังคม ปรับปรุง สำหรับนักศึกษาที่เรียนหลักสูตรในการฝึกอบรมโปรแกรมที่ให้บริการชุมชน โดยคณะ ผลปรากฎว่า โปรแกรมการฝึกอบรม อาจทำให้ที่ปฏิสัมพันธ์มากที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนและอาจารย์ ( ตามหลักสูตร )ความสำเร็จที่ดีที่สุด อาศัยการบูรณาการวิชาการและสังคม ซึ่งทั้งสองจะได้รับการพิจารณาทั้งหมด หรือบางส่วน โดยกล่าวว่า การสื่อสารระหว่างบุคคล ผลของพวกเขายังแสดงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างคุณภาพของปฏิสัมพันธ์และความเชื่อของนักเรียนเกี่ยวกับขบวนการเป้าหมายการศึกษาของพวกเขา
ติน ( 1997 ) โดยใช้โปรแกรมพิเศษที่วิทยาลัยชุมชนกลางซีแอตเติลโทรประสานงานการศึกษาโปรแกรม ( CSP ) จุดมุ่งหมายของมันคือเพื่อให้นักเรียนของชนิดที่แตกต่างของประสบการณ์ในห้องเรียนโดยเชื่อมโยงหลักสูตรอีกแบบหนึ่งตามกระทู้มากกว่าแบบดั้งเดิม ระบบแยกจากกัน แต่ละหลักสูตรที่ไม่มีการเชื่อมโยงที่สำคัญในหลักสูตรอื่น ๆด้านอื่น ๆของ CSP เป็นอุปถัมภ์สภาพแวดล้อมร่วมกัน โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย . ยังอยู่ในขอบเขตของการติดตา นักเรียน การศึกษา การเปลี่ยนความสนใจไปที่ความสำคัญของชั้นเรียนประสบการณ์ในแง่ของการรักษาคน ในขณะที่มากของความพยายามในนักศึกษาโปรแกรมการจัดการกับปัญหานอกห้องเรียน ( กิจการนักเรียน )นี้มุ่งเน้นไปที่ปัญหาภายในห้องเรียน งานวิจัยใน CSP จะเห็นความแตกต่างในแง่ของความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมในการเรียน เป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมพิเศษมีจํานวนมากกว่าความพึงพอใจมากกว่าผู้ที่ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรปกติ
kanfer et al .( 2010 ) ดูวิธีการทำนายด้านวิชาการ และการปฏิบัติงานตามความสามารถในการรับรู้ของนักเรียน การทดสอบวิทยาลัย ( verbal เชิงตัวเลขและเชิงพื้นที่ ) และไม่มีความสามารถ คุณลักษณะทางแรงจูงใจ ความสนใจ การประเมินตนเอง ) ทั้งสองพบว่ามีตัวแปรที่สำคัญในการปฏิบัติงาน การศึกษาของพวกเขา แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนี้เป็นสิ่งที่ดีที่จะต้องพิจารณาสำหรับการทำวิจัยในเรื่องของความคงทน