Research evidence has indicated tha

Research evidence has indicated that, on the bases of delivery
effectiveness and economic consequences, enhanced Fe intake
through biofortified rice (rice grains with increased contents and/
or bioavailability of Fe through agronomic or genetic improvements) is the most favorable approach in the long term. In light of
this concept, both methods of conventional breeding and genetic
engineering have been applied to increase the Fe content in the
polished rice grains (Welch and Graham, 2004). Several transgenic
rice varieties with enhanced Fe contents (e.g. 8.9 and 15 mg kg
1
for BR29 and IR68144, respectively) have been developed (Sellapan
et al., 2009). However, the safety of transgenic rice is still a major
concern for most of the consumers, even though it is likely to be
equivalent to that of conventional rice. Thus, it appears that the
conventional breeding method, such as mutation breeding, is still a
non-controversial approach to produce genetic sources for
particularly desired characteristics (e.g. high Fe or Zn contents
in polished rice grains) (Fig. 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานงานวิจัยได้ระบุว่า บนฐานของการจัดส่งประสิทธิผลและผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพิ่มปริมาณ Feผ่าน biofortified ข้าว (ข้าวธัญพืช มีเนื้อหาเพิ่มขึ้น และ /หรือชีวปริมาณออกฤทธิ์ของ Fe ผ่านการปรับปรุงพันธุกรรม หรือลักษณะทาง) เป็นวิธีการดีในระยะยาว Light ของแนวคิดนี้ ทั้งสองวิธีผสมพันธุ์ธรรมดา และพันธุกรรมมีการใช้วิศวกรรมเพื่อเพิ่มเนื้อหา Fe ในการขัดข้าวธัญพืช (Welch และแกรแฮม 2004) ต่าง ๆ ถั่วเหลืองพันธุ์ข้าวที่ มีเนื้อหา Fe ขั้นสูง (เช่น 8.9 และ 15 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม1สำหรับ BR29 และ IR68144 ตามลำดับ) ได้รับการพัฒนา (Sellapanร้อยเอ็ด al., 2009) อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของข้าวถั่วเหลืองเป็นหลักการกังวลสำหรับส่วนมากของผู้บริโภค แม้ว่าจะเป็นแนวโน้มที่จะเทียบเท่ากับกับข้าวปกติ ดังนั้น มันปรากฏขึ้นเป็นวิธีปรับปรุงพันธุ์แบบเดิม เช่นพันธุ์กลายพันธุ์ การไม่แย้งวิธีการผลิตแหล่งพันธุกรรมสำหรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องลักษณะ (เช่นสูง Fe หรือ Zn เนื้อหาในการขัดข้าวธัญพืช) (Fig. 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานการวิจัยชี้ให้เห็นว่าบนฐานของการส่งมอบ
ประสิทธิภาพและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นการบริโภคเฟ
ผ่านสาย bioforti ข้าวเอ็ด (เมล็ดข้าวที่มีเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นและ /
หรือการดูดซึมของเฟผ่านการปรับปรุงทางการเกษตรหรือทางพันธุกรรม) เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในระยะยาว ในแง่ของ
แนวคิดนี้วิธีการทั้งสองพันธุ์ธรรมดาและพันธุกรรม
วิศวกรรมได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณเหล็กใน
เมล็ดข้าวขัด (เวลช์และเกรแฮม, 2004) หลายแปลงพันธุ์
พันธุ์ข้าวที่มีเนื้อหา Fe ที่เพิ่มขึ้น (เช่น 8.9 และ 15 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
1
สำหรับ BR29 และ IR68144 ตามลำดับ) ได้รับการพัฒนา (Sellapan
et al., 2009) แต่ความปลอดภัยของข้าวดัดแปรพันธุกรรมก็ยังคงเป็นที่สำคัญ
สำหรับความกังวลของผู้บริโภคมากที่สุดถึงแม้ว่ามันจะเป็น
เท่ากับว่าข้าวธรรมดา ดังนั้นจึงปรากฏว่า
วิธีการปรับปรุงพันธุ์แบบเดิมเช่นการปรับปรุงพันธุ์กลายพันธุ์ยังคงเป็น
วิธีการที่ไม่ขัดแย้งในการผลิตแหล่งพันธุกรรมสำหรับ
ลักษณะที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง (เช่นเฟสูงหรือเนื้อหาสังกะสี
ในเมล็ดข้าวขัด) (รูปที่ 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักฐานการวิจัยได้พบว่า บนฐานของประสิทธิผลส่ง
ผลสืบเนื่องทางเศรษฐกิจและเพิ่มปริมาณ Fe
ผ่าน bioforti จึงเอ็ดข้าว ( ข้าวธัญพืชพร้อมเพิ่มเนื้อหาและ / หรือปริมาณ Fe ผ่าน
ทางพันธุกรรมหรือการปรับปรุง ) เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในระยะยาว ในแง่ของแนวคิดนี้ ทั้งวิธีการผสมพันธุ์แบบปกติ และพันธุกรรม
วิศวกรรมศาสตร์มีการใช้เพื่อเพิ่มเนื้อหา Fe ใน
ขัดข้าวธัญพืช ( Welch และ Graham , 2004 ) ข้าวพันธุ์หลายพันธุ์
3 Fe เนื้อหา ( เช่น 8.9 และ 15 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1

 และสำหรับ br29 ir68144 ตามลำดับ ) ได้ถูกพัฒนาขึ้น ( sellapan
et al . , 2009 ) อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของข้าวพันธุ์ ยังคงเป็นปัญหาหลักของ
สำหรับส่วนมากของผู้บริโภคแม้ว่ามันมีแนวโน้มที่จะ
เทียบเท่ากับข้าวธรรมดา ดังนั้น จึงปรากฏว่า
วิธีผสมพันธุ์แบบปกติ เช่น การกลายพันธุ์ ยังคงเป็นวิธีที่ไม่ขัดแย้งกับผลิตแหล่งพันธุกรรม

โดยเฉพาะสำหรับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เช่น เหล็ก หรือสังกะสีสูงเนื้อหา
ในธัญพืชข้าวซ้อมมือ ) ( รูปที่ 1 )