Dicamba herbicide drift onto plants

Dicamba herbicide drift onto plants growing adjacent to farm fields causes significant delays in flowering, as well as reduced flowering, of those plants, and results in decreased visitation by honey bees, according to researchers at Penn State and the Pennsylvania Association for Sustainable Agriculture.

"Because of the challenge of glyphosate-resistant weeds, new types of transgenic crops that are resistant to synthetic-auxin herbicides including dicamba and 2,4-D will be widely planted in coming growing seasons, raising concerns about damage from these drift-prone herbicides," said John Tooker, associate professor of entomology, Penn State. "The expected high rate of adoption of the new transgenic crops will increase dicamba and 2,4-D use by four to eight times. Our results suggest that widespread non-target damage from these herbicides may adversely affect pollinator communities."

The team examined the crop species alfalfa (Medicago sativa), which requires insect pollination to produce seeds, and the native plant species common boneset (Eupatorium perfoliatum), which is highly attractive to a wide range of pollinator species. The researchers applied a range of sub-lethal doses of dicamba to the plants, then tracked flowering and floral visitation by insect species. They identified the types of insects visiting the flowers and analyzed pollen quality to determine if herbicide exposure altered pollen quality.

The scientists found that exposure to drift-level doses of herbicide reduced flowering in both plant species. In addition, herbicide-damaged common boneset experienced significantly reduced visitation by insect species, including honeybees (pollinators) and syrphid flies (natural enemies). The results appear in the November 24 online issue of Environmental Toxicology, and will be published in the January 2016 print issue.

"We found that both plant species are susceptible to very low rates of dicamba -- just 0.1 to 1 percent of the expected field application rate can negatively influence flowering," said Tooker. "By extension, we expect that other broadleaf plant species are similarly susceptible to this sort of damage from drift-level doses."

According to David Mortensen, professor of weed and applied plant ecology, Penn State, synthetic-auxin herbicides are usually used early in the growing season, but with the new transgenic crop varieties coming on the market, these herbicides will be used later when temperatures are warmer and more plant species are leafed out.

"This will lead to higher levels of non-target damage to susceptible crop plants and native, wild vegetation," he said. "For susceptible crop varieties, this sort of damage could reduce yield. For non-crop plant species, this drift-induced damage could significantly decrease the pollinator and natural enemy communities that these plants can support."

The team currently is working to determine the proportion of non-crop habitat in the corn/soybean belt that could be degraded for pollinator communities by drift of dicamba and/or 2,4-D.

"This is particularly relevant because the great majority of floristic diversity in agro-ecosystems resides in small fragments of semi-natural habitat around arable fields," said Mortensen. "And the quality of these fragments may be substantially degraded by repeat exposure of dicamba or 2,4-D drift."

Two U.S. Environmental Protection Agency "Science to Achieve Results" Fellowships supported this research.

Other authors on the paper include Eric Bohnenblust, former graduate student in entomology, Penn State; Anthony Vaudo, graduate student in entomology, Penn State; and Franklin Egan, director of educational programs, Pennsylvania Association for Sustainable Agriculture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Dicamba สารกำจัดวัชพืชดริฟท์บนพืชที่เติบโตติดกับเขตฟาร์มทำให้ความล่าช้าที่สำคัญในดอก ดอกลดลง เหล่าพืช และผลลัพธ์ในการเสด็จเยี่ยมลดลงโดยที่ผึ้งน้ำผึ้ง ตามนักวิจัยในรัฐเพนน์และสมาคมรัฐเพนซิลวาเนียเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน"เนื่องจากความท้าทายของวัชพืชไกลโฟเสตทน ชนิดใหม่ของถั่วเหลืองขยายที่มีความทนทานต่อสารเคมีกำจัดวัชพืชหนังสังเคราะห์ออกซินรวมทั้ง dicamba และ 2, 4-D จะมากปลูกในฤดูกาลมาเติบโต เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากนี้ดริฟท์โดยเฉพาะสารเคมีกำจัดวัชพืช กล่าวว่า จอห์น Tooker ศาสตราจารย์ของกีฏวิทยา รัฐเพนน์ "ของพืชถั่วเหลืองใหม่สูงอัตราที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น dicamba และใช้ 2, 4-D โดยสี่ถึงแปดครั้ง ผลของเราแนะนำว่า ความเสียหายไม่ใช่เป้าหมายอย่างแพร่หลายจากสารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้อาจส่งผลกระทบชุมชน pollinator "ทีมงานตรวจสอบการเพาะปลูกพันธุ์ alfalfa (Medicago ซา), ซึ่งต้อง pollination แมลงผลิตเมล็ดพันธุ์ การพืชพื้นเมืองพันธุ์ทั่วไป boneset (ยา perfoliatum), ซึ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างมากเพื่อความหลากหลายของสปีชีส์ pollinator นักวิจัยใช้ช่วงของปริมาณย่อยยุทธภัณฑ์ของ dicamba พืช แล้ว ติดตามเวอร์ริ่งและเยี่ยมชมดอกไม้ โดยแมลงชนิด จะระบุชนิดของแมลงที่ไปดอกไม้ และวิเคราะห์ละอองเกสรคุณภาพตรวจสารกำจัดวัชพืชสัมผัสการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของละอองเกสรนักวิทยาศาสตร์ที่พบนั้นสัมผัสกับดริฟท์ระดับปริมาณของสารกำจัดวัชพืชลดลงเวอร์ริ่งในชนิดทั้งพืช นอกจากนี้ เสียสารกำจัดวัชพืชทั่วไป boneset มีประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญลดลงตามชนิดแมลง honeybees (pollinators) รวมทั้งการออกตรวจ และ syrphid ลอย (ศัตรูธรรมชาติ) ผลลัพธ์ปรากฏในปัญหาออนไลน์ 24 พฤศจิกายนของพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม และจะถูกเผยแพร่ในฉบับพิมพ์ 2016 มกราคม"เราพบทั้งชนิดพืชที่มีความไวต่อราคาต่ำมากของ dicamba - เพียงร้อยละ 0.1-1 อัตราสมัครฟิลด์คาดสามารถส่งอิทธิพลดอก, " กล่าวว่า Tooker "โดยส่วนขยาย เราคาดว่า broadleaf พืชชนิดอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันที่ไวต่อการจัดเรียงของความเสียหายจากดริฟท์ระดับปริมาณการ"ตาม David มอร์เทนเซน ศาสตราจารย์ของวัชพืชและใช้พืชนิเวศวิทยา รัฐเพนน์ มักจะใช้หนังสังเคราะห์ออกซินสารเคมีกำจัดวัชพืชในช่วงต้นฤดูกาลเติบโต แต่ มีพันธุ์ถั่วเหลืองพืชใหม่ที่เข้ามาในตลาด สารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้จะใช้ในภายหลังเมื่ออุณหภูมิจะอุ่น และชนิดพืชที่เพิ่มเติมคือ leafed ออก"นี้จะนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเสียหายไม่ใช่เป้าหมายไวต่อพืชและพืชพื้นเมือง ป่า เขากล่าวว่า "สำหรับพันธุ์ไวต่อพืช ผลความเสียหายอาจลดผลตอบแทน สำหรับพืชพืชไม่ใช่พันธุ์ ความเสียหายนี้เกิดดริฟท์สามารถมากลด pollinator และชุมชนศัตรูธรรมชาติที่พืชเหล่านี้สามารถสนับสนุน"ทีมในปัจจุบันจะทำงานเพื่อกำหนดสัดส่วนไม่ใช่พืชถิ่นที่อยู่ในสายพานข้าวโพด/ถั่วเหลืองที่สามารถเสื่อมโทรมในชุมชน pollinator โดยของ dicamba / 2, 4 ดี"ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากส่วนใหญ่ดี floristic ความหลากหลายในระบบนิเวศเกษตรอยู่ในชิ้นส่วนขนาดเล็กของอยู่อาศัยกึ่งธรรมชาติรอบ ๆ เขตเพาะปลูก กล่าวว่า มอร์เทนเซน "และคุณภาพของชิ้นส่วนเหล่านี้อาจจะมากเสื่อมโทรมตามซ้ำ dicamba หรือดริฟท์ 2, 4-D"สองสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา "วิทยาศาสตร์เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่" ทุนสนับสนุนงานวิจัยนี้คนบนกระดาษรวม Eric Bohnenblust อดีตนักศึกษาบัณฑิตศึกษาในกีฏวิทยา รัฐเพนน์ Anthony Vaudo กีฏวิทยา รัฐเพนน์ นักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย และแฟรงคลิน Egan กรรมการศึกษาโปรแกรม เพนซิลวาเนียสมาคมการเกษตรแบบยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Dicamba ดริฟท์สารกำจัดวัชพืชลงปลูกพืชที่อยู่ติดกับทุ่งนาทำให้เกิดความล่าช้าที่สำคัญในการออกดอกเช่นเดียวกับดอกลดลงของพืชเหล่านั้นและผลในการเยี่ยมชมลดลงผึ้งตามที่นักวิจัยที่รัฐเพนน์และสมาคมเพนซิลเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน. " เพราะความท้าทายของวัชพืช glyphosate ทนชนิดใหม่ของพืชดัดแปรพันธุกรรมที่มีความทนทานต่อสารเคมีกำจัดวัชพืชสังเคราะห์ออกซินรวมทั้ง dicamba และ 2,4-D จะปลูกกันอย่างแพร่หลายในฤดูกาลที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากสารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้ดริฟท์ได้ง่าย "จอห์น Tooker, ศาสตราจารย์ของกีฏวิทยารัฐเพนน์กล่าวว่า "คาดว่าอัตราที่สูงของการยอมรับของพืชดัดแปรพันธุกรรมใหม่จะเพิ่มขึ้น dicamba และ 2,4-D การใช้งานโดย 4-8 ครั้ง. ผลของเราแสดงให้เห็นว่าเกิดความเสียหายไม่ใช่เป้าหมายอย่างกว้างขวางจากสารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้อาจส่งผลกระทบชุมชน pollinator." ทีมงานตรวจสอบ หญ้าชนิตสายพันธุ์พืช (Medicago sativa) ซึ่งจะต้องมีการผสมเกสรแมลงในการผลิตเมล็ดพันธุ์และพันธุ์พืชพื้นเมือง boneset ทั่วไป (ยา perfoliatum) ซึ่งเป็นอย่างสูงที่น่าสนใจที่หลากหลายของสายพันธุ์ pollinator นักวิจัยได้ใช้ช่วงของปริมาณย่อยตายของ dicamba กับพืชแล้วติดตามการออกดอกและการเยี่ยมชมดอกไม้โดยแมลงชนิด พวกเขาระบุชนิดของแมลงที่เข้ามาเยี่ยมชมดอกไม้และวิเคราะห์คุณภาพเกสรเพื่อตรวจสอบว่าการสัมผัสสารกำจัดวัชพืชเปลี่ยนแปลงคุณภาพเกสร. นักวิทยาศาสตร์พบว่าการสัมผัสในการดริฟท์ในปริมาณระดับของสารกำจัดวัชพืชดอกลดลงในพันธุ์พืชทั้งสอง นอกจากนี้สารกำจัดวัชพืชที่พบความเสียหาย boneset ประสบการณ์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการสำรวจแมลงชนิดรวมทั้งผึ้ง (เรณู) และ syrphid แมลงวัน (ศัตรูธรรมชาติ) ผลปรากฏใน 24 พฤศจิกายนปัญหาออนไลน์ของพิษวิทยาสิ่งแวดล้อมและจะได้รับการตีพิมพ์ในปี 2016 ปัญหาเดือนมกราคมพิมพ์. "เราพบว่าทั้งสองสายพันธุ์พืชที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราที่ต่ำมากของ dicamba - เพียงแค่ 0.1 ถึงร้อยละ 1 ของสนามที่คาดหวัง อัตราการประยุกต์ใช้ในเชิงลบจะมีผลต่อการออกดอก "Tooker กล่าวว่า "โดยขยายเราคาดหวังว่าพันธุ์พืชใบกว้างอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันความเสี่ยงที่จะเรียงลำดับของความเสียหายที่เกิดจากปริมาณที่ดริฟท์ระดับนี้." ตามที่เดวิดมอร์เทนศาสตราจารย์วัชพืชและนิเวศวิทยาพืชนำไปใช้รัฐเพนน์, สารเคมีกำจัดวัชพืชสังเคราะห์ออกซินมักจะใช้ในช่วงต้น ในฤดูการเจริญเติบโต แต่มีพันธุ์พืชพันธุ์ใหม่ที่เข้ามาในตลาดสารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เมื่ออุณหภูมิที่อุ่นขึ้นและพันธุ์พืชที่จะพลิกออก. "นี้จะนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเสียหายที่ไม่ใช่เป้าหมายที่จะปลูกพืชที่ไวต่อ และพืชพื้นเมืองพืชป่า "เขากล่าว "สำหรับพันธุ์พืชอ่อนแอประเภทของความเสียหายนี้สามารถลดอัตราผลตอบแทน. สำหรับพันธุ์พืชที่ไม่ใช่พืชนี้ความเสียหายที่ดริฟท์ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสามารถลด pollinator และชุมชนศัตรูธรรมชาติที่พืชเหล่านี้สามารถรองรับ." ทีมงานกำลังทำงานเพื่อตรวจสอบ สัดส่วนของที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้เพาะปลูกข้าวโพด / เข็มขัดถั่วเหลืองที่สามารถสลายตัวให้กับชุมชนโดย pollinator ดริฟท์ของ dicamba และ / หรือ 2,4-D. "นี่คือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องเพราะส่วนใหญ่ของความหลากหลายในระบบนิเวศ floristic เกษตรอาศัยอยู่ใน ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของที่อยู่อาศัยกึ่งธรรมชาติรอบตัวสาขาที่ทำกิน "มอร์เทนกล่าวว่า "และคุณภาพของชิ้นส่วนเหล่านี้อาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการสัมผัสการทำซ้ำของ dicamba หรือดริฟท์ 2,4 มิติ." สองสหรัฐหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม "วิทยาศาสตร์เพื่อให้บรรลุผล" ทุนสนับสนุนการวิจัยครั้งนี้. เขียนคนอื่น ๆ บนกระดาษรวมถึงเอริค Bohnenblust, นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในอดีตกีฏวิทยารัฐเพนน์; แอนโธนี Vaudo นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในกีฏวิทยารัฐเพนน์; แฟรงคลินและ Egan ผู้อำนวยการโปรแกรมการศึกษา, เพนซิลสมาคมเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พบว่าสารกำจัดวัชพืชลอยลงบนพืชปลูกติดกับเขตฟาร์มสาเหตุสำคัญที่ล่าช้าในการออกดอก รวมทั้งลดการออกดอกของพืชเหล่านั้น และผลในการลดลงเยี่ยมผึ้ง , ตามที่นักวิจัยที่รัฐเพนน์และรัฐเพนซิลวาเนียสมาคมการเกษตรยั่งยืน

" เพราะความท้าทายของวัชพืช glyphosate ทน ,ชนิดใหม่ของพืชดัดแปรพันธุกรรมที่ทนต่อสารออกซินสังเคราะห์พบว่า 2 , 4-D รวมถึงและจะปลูกกันอย่างแพร่หลายในมาฤดูปลูกเลี้ยงกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากสารเหล่านี้ลอยมักจะกล่าวว่า " จอห์น tooker รองศาสตราจารย์ , กีฏวิทยา , เพนน์รัฐ” ที่คาดว่าจะสูง อัตราการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมของต้นพืชใหม่จะเพิ่มขึ้นและพบว่า 24-D ใช้สี่แปดครั้ง จากผลการศึกษาที่แพร่หลายไม่เป้าหมายได้รับความเสียหายจากสารเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนผสมเกสร "

ทีมตรวจสอบพืชชนิด อัลฟัลฟา ( MEDICAGO sativa ) ซึ่งต้องมีการผสมเกสร แมลง เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ และพืชพื้นเมืองชนิดที่พบ boneset ( Eupatorium perfoliatum )ซึ่งจะขอดึงดูดใจหลากหลายของแมลงผสมเกสรชนิด นักวิจัยใช้ช่วงย่อย Lethal , dicamba ที่โรงงาน แล้วติดตามดอกและดอกไม้เยี่ยมแมลงชนิด พวกเขาระบุชนิดของแมลงที่เข้าเยี่ยมชมและวิเคราะห์คุณภาพเกสรดอกไม้เพื่อตรวจสอบว่า การเปลี่ยนแปลงคุณภาพ เกสรวัชพืช

นักวิทยาศาสตร์พบว่า การสัมผัสกับระดับปริมาณของวัชพืชลดลงดริฟท์ดอกในพืชทั้งสองชนิด นอกจากนี้ สารกำจัดวัชพืช boneset ทั่วไปความเสียหายที่มีประสบการณ์ลดลงเยี่ยมแมลงรวมทั้งผึ้ง ( ผสมเกสร ) และ syrphid ( แมลงศัตรูธรรมชาติ ) ผลลัพธ์ที่ปรากฏใน 24 พฤศจิกายนปัญหาออนไลน์ของพิษวิทยาสิ่งแวดล้อมและจะตีพิมพ์ในเดือนมกราคม 2552 พิมพ์ปัญหา

" เราพบว่าพืชทั้งสองชนิดมีความไวต่ออัตราที่ต่ำมากของเก่อ หลาน . . . แค่ 0.1 ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะสามารถส่งอิทธิพลด้านอัตราการออกดอก , " กล่าวว่า tooker ” โดยการขยาย เราคาดหวังว่า ชนิดของพืชที่แตกต่างกันอื่น ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการจัดเรียงนี้ของความเสียหายจากรังสี "

ระดับลอยตาม David Mortensen ศาสตราจารย์ของวัชพืชและพืชนิเวศวิทยาประยุกต์รัฐเพนน์ สารออกซินสังเคราะห์มักจะใช้ในช่วงต้นฤดูปลูก แต่ด้วยพันธุ์พืชพันธุ์ใหม่เข้ามาในตลาด สารเหล่านี้จะถูกใช้เมื่ออุณหภูมิอบอุ่นและชนิดพืชเป็น leafed ออก

" นี้จะนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเสียหายไม่ใช่เป้าหมายพืชพืชอ่อนแอและพื้นเมืองป่า , พืช , " เขากล่าว . " สำหรับพันธุ์พืชเสี่ยงประเภทนี้ จะสามารถช่วยลดความเสียหายของผลผลิต ไม่ใช่พืชพืช , ดริฟท์นี้เกิดความเสียหายสามารถลดการผสมเกสร และศัตรูธรรมชาติ ชุมชนที่พืชเหล่านี้สามารถสนับสนุน

"ทีมงานกำลังทำงานเพื่อหาสัดส่วนที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยในการเพาะปลูกข้าวโพด / ถั่วเหลืองเข็มขัดที่สามารถถูกย่อยสลาย เพื่อผสมเกสรชุมชน โดยลอยของ dicamba และ / หรือ 2 , 4-D

" นี่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะส่วนใหญ่ที่ดีของความหลากหลายของโครงสร้างในระบบนิเวศเกษตรอยู่ในรอยแตกเล็กๆของกึ่งธรรมชาติสิ่งแวดล้อมรอบเขตเพาะปลูก " บอกว่า มอร์เทนเซน ." และคุณภาพของชิ้นส่วนเหล่านี้อาจจะช่วยย่อยสลายด้วยการทำซ้ำของ dicamba หรือ 2 , 4-D ดริฟท์ "

สองสหรัฐอเมริกาหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม " วิทยาศาสตร์เพื่อให้บรรลุผล " ทุนสนับสนุนการวิจัย กรุงเทพฯ

บนกระดาษ ได้แก่ เอริค bohnenblust อดีตนักศึกษาปริญญาโททางกีฏวิทยา , เพนน์รัฐ แอนโทนี่ vaudo , บัณฑิตนักศึกษา กีฏวิทยา , เพนน์รัฐและ แฟรงคลิน อีแกน ผู้อำนวยการของโปรแกรมการศึกษา , สมาคมเพนซิลเวเนียเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน