AbstractIntroduction: Bangladesh In

Abstract
Introduction: Bangladesh Institute of Research and
Rehabilitation in Diabetes, Endocrine and Metabolic
Disorders (BIRDEM) is the largest specialized hospital in
Bangladesh for care of diabetic patients. Here, most of the
hospitalized patients are diabetic, having many
complications of diabetes mellitus and other co-morbidities.
They often require multiple drugs for treatment. Diabetes
mellitus itself, its complications and various medicationsall
are related to development of electrolyte imbalance,
which are often under-estimated or remain un-diagnosed.
Objectives: The Objectives of this study were to see the
pattern of electrolyte imbalance in hospitalized diabetic
patients and to find out the precipitating causes behind them.
Methods: This cross-sectional study was done in the
Department of Internal Medicine, BIRDEM in 2008. Data
were collected by random sampling from the first 100 adult
diabetic patients with electrolyte imbalance, irrespective of
their cause of admission.
Results: Total number of patients were 100, male were 74
and female were 26 (M:F ratio 2.85: 1). Mean age was 60.18
years with standard deviation of ± 12.15 years (Range 38-
90 years). Among the patients, the mean duration of the
diabetes mellitus was 10.96 years with standard deviation ±
8.05 years. Majority (83%) of the patients were on insulin,22% were on oral anti-diabetic agents and 6% were on
medical nutrition therapy. Among the co-morbidities,
hypertention was the most prevalent (61%), followed by
ischaemic heart disease (24%), chronic kidney disease
(21%), dyslipidaemia (8%) and fatty liver (4%). Diabetic
peripheral neuropathy was present in 41% cases,
nephropathy in 13% cases and retinopathy in 12% cases.
Over all 78% (100 patients had electrolyte imbalance out of
128 patients) of patients had some sort of electrolyte
imbalance, irrespective of cause of admission.
Hyponatraemia was the most common electrolyte imbalance
in this study (80%), followed by hypomagnaesemia (38%),
hypokalaemia (36%) and hyperkalaemia (14%). In 11%
cases there were hyponatraemia, hypokalaemia and
hypomagnaesemia. Regarding the precipitating factors,
vomiting was most common (51%). In 28% cases electrolyte
imbalance was precipitated by various drugs. Diarrhea and
renal failure were responsible in a minority of cases. In 4%
cases no cause could be identified. No death occurred.
Conclusion: From this cross-sectional study it can be
concluded that, electrolyte imbalance is common in
hospitalized diabetic patients. Serum electrolytes should be
checked routinely in hospitalized diabetic patients
irrespective of their purpose of admission.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อแนะนำ: สถาบันวิจัยประเทศบังกลาเทศ และฟื้นฟูในโรคเบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และการเผาผลาญความผิดปกติ (BIRDEM) เป็นโรงพยาบาลเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในเทศการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่นี่ ทั้งนี้ที่พักผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีหลายภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานและตัวอื่น ๆพวกเขามักจะกำหนดหลายยาสำหรับการรักษา โรคเบาหวานหวานเอง ภาวะและ medicationsall ต่าง ๆเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของความไม่สมดุลของอิเล็กโทรซึ่งมักประเมินภายใต้ หรืออยู่ไม่ diagnosedวัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ได้ให้ ดูรูปแบบของความไม่สมดุลของอิเล็กโทรในโรคเบาหวานที่พักผู้ป่วยและหาสาเหตุการตกตะกอนนั้นวิธีการ: ศึกษาเหลวนี้ถูกทำในการภายในผลงาน BIRDEM ในปี 2008 ข้อมูลถูกรวบรวม โดยสุ่มตัวอย่างแบบสุ่มจาก 100 แรกผู้ใหญ่ผู้ป่วยเบาหวานที่ มีสมดุลอิเล็กโทร ภายสาเหตุการเข้าผลลัพธ์: จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดมี 100 ชายถูก 74และหญิง 26 (M:F อัตราส่วน 2.85:1) 60.18 มีอายุเฉลี่ยปี มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ± 12.15 ปี (ช่วง 38 -90 ปี) ระหว่างผู้ป่วย ระยะเวลาเฉลี่ยของการเบาหวานเป็นปี 10.96 กับ±ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานปี 8.05 ส่วนใหญ่ (83%) ของผู้ป่วยได้ในอินซูลิน 22% อยู่บนปากผู้แทน และ 6% มาทางการแพทย์โภชนบำบัด ระหว่างตัวร่วมhypertention ได้แพร่หลายมากที่สุด (61%) , ตามด้วยโรคหัวใจขาดเลือด (24%), โรคไตเรื้อรัง(21%), dyslipidaemia (8%) และไขมันตับ (4%) โรคเบาหวานneuropathy พ่วงมีในกรณี 41%โรคไตในกรณี 13% และ 12% กรณีที่ดวงตากว่าทั้งหมด 78% (100 ผู้ป่วยมีความไม่สมดุลของอิเล็กโทรออกของผู้ป่วย 128) ของผู้ป่วยที่มีการเรียงลำดับบางอย่างของอิเล็กโทรไม่สมดุล ไม่สาเหตุเข้าHyponatraemia มีความไม่สมดุลของอิเล็กโทรทั่วในการศึกษานี้ (80%), ตาม ด้วย hypomagnaesemia (38%),hypokalaemia (36%) และ hyperkalaemia (14%) ใน 11%กรณีมีมี hyponatraemia, hypokalaemia และhypomagnaesemia เกี่ยวกับปัจจัยที่ตกตะกอนอาเจียนได้มากที่สุด (51%) ในการอิเล็กโทรกรณี 28%ความไม่สมดุลไม่ตกตะกอน โดยยาเสพติดต่าง ๆ โรคอุจจาระร่วง และภาวะไตวายได้รับผิดชอบในกรณีชนกลุ่มน้อย 4%กรณีที่ไม่สามารถระบุสาเหตุ ไม่มีความตายเกิดขึ้นสรุป: จากการศึกษาเหลว สามารถสรุปว่า ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรได้ทั่วไปในพักป่วยเป็นโรคเบาหวาน เซรั่มไลต์ควรตรวจสอบเป็นประจำในผู้ป่วยเบาหวานที่มีพักไม่ว่าวัตถุประสงค์ของเข้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
บทนำ: บังคลาเทศสถาบันวิจัยและ
ฟื้นฟูในผู้ป่วยเบาหวานต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิ
ผิดปกติ (BIRDEM) เป็นโรงพยาบาลเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดใน
บังคลาเทศสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่นี่ส่วนใหญ่ของ
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเป็นโรคเบาหวานมีหลาย
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและอื่น ๆ ที่ร่วมป่วย.
พวกเขามักจะต้องใช้ยาเสพติดหลายรายการสำหรับการรักษา โรคเบาหวาน
เบาหวานเองภาวะแทรกซ้อนและ medicationsall ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของความไม่สมดุลของอิเล็ก
ซึ่งมักจะต่ำกว่าประมาณการหรือยังคงยกเลิกการวินิจฉัย.
วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีที่จะเห็น
รูปแบบของความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลในผู้ป่วยโรคเบาหวานในโรงพยาบาล
ผู้ป่วยและ หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่เบื้องหลังพวกเขา.
วิธีการ: การศึกษาครั้งนี้ตัดเสร็จใน
ภาควิชาอายุรศาสตร์ BIRDEM ในปี 2008 ข้อมูล
ที่ถูกเก็บรวบรวมโดยการสุ่มจากครั้งแรกที่ 100 ผู้ใหญ่
ผู้ป่วยเบาหวานที่มีความไม่สมดุลของอิเล็กโทรโดยไม่คำนึงถึง
สาเหตุของพวกเขา เข้ารับการรักษา.
ผลการศึกษา: จำนวนผู้ป่วย 100 ชายมี 74
และเพศหญิง 26 (M: F อัตราส่วน 2.85: 1) อายุเฉลี่ย 60.18
ปีโดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ± 12.15 ปี (ช่วง 38-
90 ปี) ในผู้ป่วยที่มีระยะเวลาเฉลี่ยของ
ผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็น 10.96 ปีโดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน±
8.05 ปี ส่วนใหญ่ (83%) ของผู้ป่วยอยู่บนอินซูลิน, 22% เป็นตัวแทนในการป้องกันโรคเบาหวานในช่องปากและ 6% อยู่บน
โภชนบำบัดทางการแพทย์ ท่ามกลางภาวะแทรกซ้อนที่เกิดร่วม,
Hypertention เป็นที่แพร่หลายมากที่สุด (61%) รองลงมาคือ
โรคหัวใจขาดเลือด (24%), โรคไตเรื้อรัง
(21%), ภาวะไขมันในเลือด (8%) และตับไขมัน (4%) เบาหวาน
ปลายประสาทอักเสบในปัจจุบันคือ 41% กรณี,
โรคไตในกรณี 13% และจอประสาทตาในกรณี 12%.
กว่าทั้งหมด 78% (100 ผู้ป่วยที่มีความไม่สมดุลของอิเล็กโทรออกจาก
ผู้ป่วย 128) ของผู้ป่วยที่มีการเรียงลำดับของอิเล็กบาง
ความไม่สมดุลโดยไม่คำนึงถึงสาเหตุของการ เข้ารับการรักษา.
hyponatraemia เป็นความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลที่พบมากที่สุด
ในการศึกษานี้ (80%) ตามด้วย hypomagnaesemia (38%),
hypokalaemia (36%) และ hyperkalaemia (14%) ใน 11%
กรณีที่มี hyponatraemia, hypokalaemia และ
hypomagnaesemia เกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย,
อาเจียนเป็นเรื่องธรรมดามากที่สุด (51%) ใน 28% อิเล็กกรณี
ความไม่สมดุลได้รับการตกตะกอนจากยาเสพติดต่างๆ โรคอุจจาระร่วงและ
โรคไตวายมีความรับผิดชอบในชนกลุ่มน้อยของกรณี ใน 4%
กรณีทำให้ไม่สามารถระบุได้ ตายไม่เกิดขึ้น.
สรุป: จากการศึกษานี้ตัดขวางที่จะสามารถ
สรุปได้ว่าความไม่สมดุลของอิเล็กเป็นเรื่องธรรมดาใน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานในโรงพยาบาล อิเล็กโทรไลเซรั่มควรได้รับการ
ตรวจสอบเป็นประจำในผู้ป่วยโรคเบาหวานในโรงพยาบาล
โดยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของพวกเขาในการรับสมัคร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำนามธรรม
: บังคลาเทศสถาบันการวิจัยและการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ในเบาหวาน ต่อมไร้ท่อและการเผาผลาญอาหารผิดปกติ (
birdem ) เป็นที่ใหญ่ที่สุดเฉพาะในโรงพยาบาล
บังกลาเทศในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ที่นี่ส่วนใหญ่ของ
ผู้ป่วยเป็นเบาหวาน มีภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและ morbidities มากมาย

ร่วมอื่น ๆ พวกเขามักจะต้องใช้หลายตัวยาในการรักษา เบาหวาน
เบาหวานของตัวเองที่มีภาวะแทรกซ้อนและ
medicationsall ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอิเล็กโทรไลต์ imbalance
ซึ่งมักจะประเมินหรือยังคงอยู่และการวินิจฉัย .
วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อดูรูปแบบของความไม่สมดุลในโรงพยาบาล

ผู้ป่วยเบาหวาน และหายาก สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา .
วิธีการ :การศึกษานี้เป็นการศึกษาใน
ภาควิชาอายุรศาสตร์ birdem ในปี 2008 ข้อมูล
ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายจากแรก 100 ผู้ใหญ่
ผู้ป่วยเบาหวานความไม่สมดุลโดยไม่คำนึงถึง
สาเหตุของการรับสมัคร
ผลลัพธ์ : จำนวนผู้ป่วย 100 , ชายและหญิงมี 26 74
( M : F อัตราส่วน 2 : 1 ) อายุเฉลี่ยของ 60.18
ปีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ± 1215 ปี ( ช่วง 38 -
90 ปี ) ผู้ป่วย , หมายถึงระยะเวลาของโรคเบาหวาน คือ 10.96 ปีด้วย

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน± 8.05 ปี ส่วนใหญ่ ( 83% ) ของผู้ป่วยคือ อินซูลิน ร้อยละ 22 ในช่องปาก ป้องกันเบาหวาน ตัวแทน และร้อยละ 6 ใน
โภชนบำบัดทางการแพทย์ ระหว่าง Co morbidities
, ไฮเพอร์เทนชั่นเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด ( ร้อยละ 61 ) , ตามด้วย
โรคหัวใจขาดเลือด ( 24% )โรคไตเรื้อรัง
( 21% ) , ความดันโลหิตสูง ( 8% ) และไขมันในตับ ( 4% ) เบาหวาน
peripheral neuropathy คือปัจจุบันในกรณี 41 %
โรคไตในกรณี 13% และ retinopathy ในกรณี 12%
ทั้งหมด 78 % ( 100 ) ความไม่สมดุลของ
128 ราย ) ผู้ป่วยมีบางจัดเรียงของอิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล ไม่ก่อให้เกิด
,
ของเข้าhyponatraemia คือส่วนใหญ่ความไม่สมดุล
ในการศึกษานี้ ( 80% ) , ตามด้วย hypomagnaesemia ( 38% )
hypokalaemia ( 36% ) และภาวะโปตัสเซียมในเลือดสูง ( 14% ) ในกรณีที่มี hyponatraemia 11 %
,
hypokalaemia และ hypomagnaesemia . เกี่ยวกับการตกตะกอนปัจจัย
อาเจียนเป็นทั่วไปมากที่สุด ( ร้อยละ 51 ) ใน 28 % กรณีอิเล็กโทรไลต์ imbalance คือ
ตกตะกอนโดยยาต่าง ๆ ท้องร่วง
ไตวายมีความรับผิดชอบในส่วนน้อยของกรณี ในรายที่ 4 %
ไม่มีสาเหตุอาจจะระบุ ไม่มีการตายเกิดขึ้น
สรุป : จากการศึกษาภาคตัดขวางนี้ สามารถสรุปได้ว่า ความไม่สมดุล
,
โรงพยาบาลทั่วไปในผู้ป่วยเบาหวาน เซรั่มไลท์ควรจะตรวจสอบเป็นประจำ ผู้ป่วยเบาหวานในโรงพยาบาล

ไม่วัตถุประสงค์ของการเข้าเรียน