According to Gray (1988), damage to

According to Gray (1988), damage to residential structures in the United States caused by the collapse
of underground mines is estimated to be between $25 million and $35 million each year, with
another $3 million to $4 million in damage to roads, utilities, and services. There are approximately
2 million hectares of abandoned or inactive coal mines, with 200,000 of these hectares in populated
urban areas (Dyni and Burnett, 1993).
It has been stated that ground subsidence associated with long-wall mining can be predicted fairly
well with respect to magnitude, time, and area position (Lin et al., 1995). Once the amount of ground
subsidence has been estimated, there are measures that can be taken to mitigate the effects of minerelated
subsidence (National Coal Board, 1975; Kratzsch, 1983; Peng, 1986, 1992). For example, in
a study of different foundations subjected to mining induced subsidence, it was concluded that posttensioning
of the foundation was most effective, because it prevented the footings from cracking
(Lin et al., 1995).
The collapse of underground mines and tunnels can produce tension and compression type features
within the buildings. The location of the compression zone will be in the center of the subsided
area as shown in Fig. 7.14. The tension zone is located along the perimeter of the subsided
area.
Besides the collapse of underground mines and tunnels, there can be settlement of buildings constructed
on spoil extracted from the mines. Mine operators often dispose of other debris, such as
trees, scrap metal, and tires, within the mine spoil. In many cases, the mine spoil is dumped (no compaction)
and can be susceptible to large amounts of settlement. For example, Cheeks (1996)
describes an interesting case of a motel unknowingly built on spoil that had been used to fill in a
strip-mining operation. The motel building experienced about 3 ft (1 m) of settlement within the 5-
year monitoring period. The settlement and damage for this building actually started during construction
and the motel owners could never place the building into service. A lesson from this case
study was the importance of subsurface exploration. In many cases, the borings may encounter

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามสีเทา (1988), ความเสียหายของโครงสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาที่เกิดจากการพังทลายของเหมืองใต้ดินคือประมาณ 25 ล้าน $ และ $35 ล้านแต่ละปี กับอีก $3 ล้านถึง 4 ล้านเหรียญในความเสียหายของถนน สาธารณูปโภค และบริการ มีประมาณประชากร 2 ล้านเฮกเตอร์ของเหมืองถ่านหินละทิ้ง หรือไม่ มี 200000 ไร่เหล่านี้ในพื้นที่เขตเมือง (Dyni และ Burnett, 1993)จะมีการระบุว่า เกี่ยวข้องกับกำแพงยาวเหมืองหินดินสามารถคาดการณ์ค่อนข้างดีกับขนาด เวลา และตั้งตำแหน่ง (Lin et al., 1995) เมื่อจำนวนของพื้นดินหินมีการประมาณการ มีมาตรการที่สามารถดำเนินการเพื่อลดผลกระทบของ minerelatedหิน (ชาติถ่านหินกระดาน 1975 Kratzsch, 1983 เป็ง 1986, 1992) ตัวอย่าง ในการศึกษาของมูลนิธิต่าง ๆ การทำเหมืองแร่ทำให้เกิดหิน ถูกสรุปว่า posttensioningมูลนิธิไม่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมันทำ footings ถอด(Lin et al., 1995)การพังทลายของเหมืองใต้ดินและอุโมงค์สามารถผลิตความตึงเครียดและการบีบอัดชนิดคุณสมบัติภายในอาคาร ที่ตั้งโซนอัดจะเป็นกลางที่ subsidedตั้งตามที่แสดงใน Fig. 7.14 โซนความตึงเครียดที่อยู่ในขอบเขตของการ subsidedที่ตั้งนอกจากการพังทลายของเหมืองใต้ดินและอุโมงค์ สามารถจ่ายเงินสร้างอาคารบนเสียสกัดจากเหมืองแร่ ผู้ประกอบการเหมืองมักจะทิ้งเศษอื่น ๆ เช่นต้นไม้ เศษโลหะ และยางรถ ยนต์ ภายในเหมืองเสีย ในหลายกรณี dumped เสียเหมือง (ไม่กระชับข้อมูล)และจะไวต่อการจ่ายเงินจำนวนมาก ตัวอย่าง แก้ม (1996)อธิบายเป็นกรณีน่าสนใจของโรงแรมโดยไม่รู้ตัวสร้างเสียที่มีการใช้ในการstrip-mining การดำเนินงาน อาคารโรงแรมมีประสบการณ์ประมาณ 3 ฟุต (1 เมตร) ของการชำระเงินภายใน 5-ปีรอบระยะเวลาที่ตรวจสอบ การชำระเงินและความเสียหายในอาคารนี้เริ่มต้นในระหว่างการก่อสร้างจริงและเจ้าของโรงแรมอาจไม่เคยวางอาคารเป็นบริการ บทเรียนจากกรณีนี้ศึกษาความสำคัญของการสำรวจ subsurface นั้น ในหลายกรณี borings อาจพบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามสีเทา (1988) ความเสียหายให้กับโครงสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาที่เกิดจากการล่มสลาย
ของเหมืองใต้ดินเป็นที่คาดกันว่าจะอยู่ระหว่าง $ 25,000,000 และ $ 35,000,000 ในแต่ละปีกับ
อีก $ 3,000,000 ไป $ 4,000,000 ในความเสียหายให้กับถนนสาธารณูปโภคและ บริการ มีประมาณ
2 ล้านไร่ของการถูกทอดทิ้งหรือเหมืองถ่านหินไม่ได้ใช้งาน 200,000 เฮคเตอร์เหล่านี้ในประชากร
เขตเมือง (Dyni และ Burnett, 1993).
จะได้รับการระบุว่าการทรุดตัวของพื้นดินที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่ยาวผนังสามารถทำนายได้ค่อนข้าง
ดีด้วยความเคารพ กับขนาดเวลาและตำแหน่งพื้นที่ (หลิน et al., 1995) เมื่อปริมาณของพื้นดิน
ถล่มได้รับการประเมินมีมาตรการที่สามารถนำมาใช้เพื่อบรรเทาผลกระทบของ minerelated
ทรุด (คณะกรรมการแห่งชาติถ่านหิน, 1975; Kratzsch 1983; Peng, 1986, 1992) ยกตัวอย่างเช่นใน
การศึกษาของมูลนิธิที่แตกต่างกันภายใต้การเหนี่ยวนำให้เกิดการทรุดตัวของการทำเหมืองแร่ได้ข้อสรุปว่า posttensioning
ของมูลนิธิมีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะมันป้องกันไม่ให้เกิดการก่อสร้างจากการแตก
(หลิน et al., 1995).
การล่มสลายของการทำเหมืองแร่ใต้ดินและอุโมงค์ สามารถผลิตความตึงเครียดและคุณสมบัติการบีบอัดประเภท
ภายในอาคาร สถานที่ตั้งของเขตการบีบอัดจะอยู่ในศูนย์กลางของการลด
พื้นที่ดังแสดงในรูป 7.14 โซนตึงเครียดตั้งอยู่ริมปริมณฑลของลด
พื้นที่.
นอกจากการล่มสลายของการทำเหมืองแร่ใต้ดินและอุโมงค์อาจมีการทรุดตัวของอาคารที่สร้าง
บนที่ริบมาสกัดได้จากการทำเหมืองแร่ ผู้ประกอบการเหมืองมักจะทิ้งเศษขยะอื่น ๆ เช่น
ต้นไม้เศษโลหะและยางภายในของปล้นเหมือง ในหลายกรณีที่ริบเหมืองที่มีการทิ้ง (ไม่มีการบดอัด)
และสามารถที่จะไวต่อการจำนวนมากของการตั้งถิ่นฐาน ตัวอย่างเช่นแก้ม (1996)
อธิบายถึงกรณีที่น่าสนใจของห้องเช่าที่สร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัวในชิงข้าวของที่ได้รับการใช้ในการกรอกข้อมูลใน
การดำเนินงานแถบการทำเหมืองแร่ อาคารห้องเช่าที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับ 3 ฟุต (1 เมตร) ของการตั้งถิ่นฐานภายใน 5-
ระยะเวลาการตรวจสอบปี การตั้งถิ่นฐานและความเสียหายของอาคารนี้จริงเริ่มต้นในระหว่างการก่อสร้าง
และเจ้าของห้องเช่าไม่สามารถวางอาคารให้บริการ บทเรียนจากกรณีนี้
คือการศึกษาความสำคัญของการสำรวจดิน ในหลายกรณี borings อาจพบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามสีเทา ( 1988 ) , ทำลายโครงสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาเกิดจากการยุบ
ของเหมืองใต้ดินคือประมาณระหว่าง $ 25 ล้านบาทและ $ 35 ล้านบาทในแต่ละปี กับอีก 3 ล้าน $
$ 4 ล้านบาทในความเสียหาย ถนนหนทาง สาธารณูปโภค และบริการ มีพื้นที่ประมาณ 2 ล้านไร่ร้าง
หรือถ่านหินที่ใช้งานกับ 200000 ไร่เหล่านี้ในประชากร
เขตเมือง ( dyni และ Burnett , 1993 ) .
มันถูกระบุว่า เกี่ยวข้องกับ ยาว พื้นทรุด ผนังเหมืองสามารถคาดการณ์ได้ค่อนข้างดี ด้วยความเคารพ
ขนาด เวลา และตำแหน่งของพื้นที่ ( หลิน et al . , 1995 ) เมื่อปริมาณการทรุดตัว ดิน
ได้ถูกประเมิน มีมาตรการที่สามารถดำเนินการเพื่อลดผลกระทบของ minerelated
ทรุด ( แห่งชาติคณะกรรมการถ่านหิน kratzsch 2518 ; ,1983 ; Peng , 2529 , 2535 ) ตัวอย่างเช่นในการศึกษาที่แตกต่างกัน
มูลนิธิภายใต้การเหมืองแร่ทรุดตัว พบว่า posttensioning
ของมูลนิธิคือมีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะมันป้องกันไม่ให้ footings
( หลิน et al . , 1995 ) .
การล่มสลายของเหมืองใต้ดินและอุโมงค์สามารถสร้างความตึงเครียดและการบีบอัดประเภทคุณลักษณะ
ภายใน อาคารสถานที่ตั้งของการบีบอัดพื้นที่จะอยู่ในศูนย์กลางของ Hb
พื้นที่ดังแสดงในรูปที่ 7.14 . แรงโซนตั้งอยู่ตามแนวขอบของ Hb

นอกจากพื้นที่ การล่มสลายของเหมืองใต้ดินและอุโมงค์ สามารถมีการทรุดตัวของอาคารที่สร้างขึ้น
บนเสียสกัดจากเหมือง ฉันผู้ประกอบการมักจะทิ้งเศษซากอื่น ๆเช่น
ต้นไม้ , เศษโลหะ , ยางภายในเสียเอง ในหลายกรณี เสียของผมทิ้ง ( ไม่อัด )
และสามารถต่อจำนวนมากของการตั้งถิ่นฐาน ตัวอย่างเช่น แก้ม ( 1996 )
อธิบายกรณีที่น่าสนใจของโรงแรมไปสร้างบนเสีย เคยใช้ในการกรอก
แถบเหมืองแร่งาน อาคารโรงแรมที่มีประสบการณ์ประมาณ 3 ฟุต ( 1 ) การตั้งถิ่นฐานภายใน 5 -
ปีการตรวจสอบระยะเวลาการตั้งถิ่นฐานและความเสียหายของอาคารนี้จะเริ่มต้นจริง ๆระหว่าง
และเจ้าของโรงแรมม่านรูดก่อสร้างไม่เคยวางอาคารลงในบริการ บทเรียนจากกรณี
การศึกษาความสำคัญของการสำรวจดิน ในหลายกรณี น่าเบื่อ อาจจะพบ