It we set the consent approach asid

It we set the consent approach aside, a more promising way of showing that such an obligation exists involves an appeal to fairness or 'fair play'. Again an example is the best way to convey the basic idea. Suppose a group of us are living in a house with a shared kitchen. Every week or so one of the residents tidies the kitchen and gives the pans and the surfaces a really through clean. Now everyone else has dine the cleaning routine and it is my turn to spend half an hour scrubbing saucepans and mopping worktops. Why ought I do this? I have benefited from the work the others have put in - I have enjoyed having a clean kitchen to cook my supper in - and so I ought to carry my share of the cost too, in this case the cost of a bit of manual labour. If I don't take my turn, I'll be taking advantage of the other residents, and that's unfair. Notice that we don't need to assume here that I have agreed or consented to take part in the cleaning rota: my obligation stems directly from the fact that I am the beneficiary of a practice that requires each person to contribute in turn.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก็เราตั้งวิธีการยินยอมกัน วิธีการแสดงว่า ภาระผูกพันดังกล่าวมีแนวโน้มมากขึ้นเกี่ยวข้องกับการขอร้องเพื่อความเป็นธรรมหรือ 'ยุติธรรม' อีก ตัวอย่างคือ การถ่ายทอดแนวคิดพื้นฐาน สมมติว่า กลุ่มของเราอาศัยอยู่ในบ้านกับครัว ทุกสัปดาห์หรือดังนั้นหนึ่งในผู้อยู่อาศัย tidies ครัว และให้กระทะและพื้นผิวที่ผ่านจริง ๆ สะอาด ตอนนี้ทุกคนได้รับประทานอาหารทำความสะอาด ประจำและมันก็เป็นของฉันเปิดจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงขัดหม้อด้าม และ mopping ท็อป ทำไมฉันควรทำเช่นนี้ ผมได้รับประโยชน์จากการทำงานอื่น ๆ ได้ใส่ใน - สนุกมีห้องครัวสะอาดทำอาหารเย็นของฉันใน - และดังนั้นผมควรจะพกของฉันแบ่งปันต้นทุนเกินไป ในกรณีนี้ต้นทุนของแรงงาน ถ้าผมไม่ใช้ฉัน ฉันจะได้รับประโยชน์ของผู้อยู่อาศัย และที่ไม่เป็นธรรม สังเกตว่า เราไม่จำเป็นต้องสมมตินี่ว่า ได้ยอมรับ หรือยินยอมที่จะมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดโรตา: หน้าที่ของฉันมาโดยตรงจากความจริงที่ว่า ผมผู้รับประโยชน์ของการปฏิบัติที่ต้องใช้แต่ละคนมีส่วนร่วมในการเปิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเราจะกำหนดวิธีการได้รับความยินยอมกันเป็นวิธีที่มีแนวโน้มมากขึ้นในการแสดงที่ดังกล่าวเป็นภาระหน้าที่ที่มีอยู่เกี่ยวกับการอุทธรณ์ไปยังความเป็นธรรมหรือ 'เล่นงาน' เกิด อีกครั้งตัวอย่างเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการถ่ายทอดความคิดพื้นฐาน สมมติว่ากลุ่มของเราจะอาศัยอยู่ในบ้านที่มีห้องครัวที่ใช้ร่วมกัน ทุกสัปดาห์หรือดังนั้นหนึ่งของผู้อยู่อาศัย tidies ห้องครัวและให้กระทะและพื้นผิวที่มันผ่านการทำความสะอาด ตอนนี้ทุกคนรับประทานอาหารอื่นมีการทำความสะอาดเป็นประจำและมีการเปิดของฉันที่จะใช้จ่ายครึ่งชั่วโมงขัดกระทะและซับ worktops ทำไมฉันควรทำเช่นนี้? ฉันได้รับประโยชน์จากการทำงานอื่น ๆ ได้ใส่ใน - ฉันมีความสุขที่มีห้องครัวที่สะอาดในการปรุงอาหารมื้อเย็นของฉันใน - และดังนั้นผมจึงควรที่จะดำเนินการในส่วนของฉันของค่าใช้จ่ายมากเกินไปในกรณีนี้ค่าใช้จ่ายของบิตของการใช้แรงงาน ถ้าฉันไม่ได้ใช้เวลาเปิดของฉันฉันจะใช้ประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยอื่น ๆ และที่ไม่เป็นธรรม ขอให้สังเกตว่าเราไม่จำเป็นที่จะถือว่านี่ที่ฉันได้ตกลงหรือยินยอมให้มีส่วนร่วมในการทำความสะอาดโรตา: ภาระผูกพันของฉันเกิดโดยตรงจากความจริงที่ว่าผมได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติที่ต้องใช้แต่ละคนจะมีส่วนร่วมในการเปิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราตั้งยินยอมแนวทางไว้ก่อน สัญญาเพิ่มเติมวิธีการแสดงออกที่เป็นหน้าที่อยู่แล้วที่เกี่ยวข้องกับการอุทธรณ์ยุติธรรมหรือ " เล่น " ยุติธรรม อีกตัวอย่างหนึ่งคือ วิธีที่ดีที่สุดในการถ่ายทอดความคิดพื้นฐาน สมมติว่าพวกเราอยู่ในบ้านที่มีห้องครัวที่ใช้ร่วมกัน ทุกสัปดาห์หรือดังนั้นหนึ่งในผู้อยู่อาศัย tidies ครัวและช่วยให้กระทะและผิวจริงๆผ่านสะอาด ตอนนี้ทุกคนได้รับประทานอาหาร ทำความสะอาดตามปกติ และมีการเปิดของฉันที่จะใช้จ่ายครึ่งชั่วโมงซักผ้าถูบ้าน saucepans และ worktops . ทำไมฉันควรจะทำ ? ผมได้ประโยชน์จากงานที่คนอื่นใส่ - ฉันมีความสุขมีความสะอาดห้องครัวทำอาหารมื้อเย็นของฉัน - และฉันควรจะดำเนินการในส่วนของต้นทุนด้วย ในกรณีนี้ต้นทุนของบิตของการใช้แรงงาน ถ้าผมไม่ใช้ตาของฉัน ฉันก็จะได้ประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยอื่น ๆและ ไม่ยุติธรรมเลย สังเกตว่าเราไม่ต้องสมมติว่าผมได้ตกลงหรือยินยอมที่จะมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดโรตา : หน้าที่ของฉันลำต้นโดยตรง จากความจริงที่ว่า ฉันเป็นผู้รับการฝึกที่ต้องใช้แต่ละคน เพื่อร่วมในการเปิด