However, it’s important to note tha

However, it’s important to note that such a marriage doesn’t come about by accident. It takes years of dedicated
work to bring this kind of relationship into existence. The good news is that it’s certainly doable; in fact, millions of couples have just this kind of relationship. It does, though, take a major commitment on both parts to continually work on the marriage.

While I say that it takes a commitment from both people, please recognize that at any point in time the task of keeping the relationship together may fall more to one person than the other. At the time, it may seem unfair. But that’s the way relationships are.

Sometimes one of the partners goes through a period of intense personal challenge, severely hampering his ability to contribute to the marriage. During these times, if the marriage is to survive, it’s up to the other partner to keep the relationship together.

These are dangerous times in a relationship, dangerous in the sense that one person can come to feel so overburdened that she decides to end the relationship. Even the person facing personal challenges may decide he would be better off if the marriage ended. Some even come to believe the partner is the cause of the problems.

If marriages are to survive long enough to cultivate the wonderful characteristics listed earlier in this chapter, then both partners must agree to stick with the marriage until challenges can be met and overcome. Also in these times of great strife, the one factor that may save a marriage from dissolution is active participation in a faith community. Doing so cannot only provide avenues of encouragement for the couple to stay together but can provide the sustaining power of prayers from the faith community.

I think it prudent here to add a note of warning. In times of strife, couples often quit going to church, cut themselves off from their faith community, and cease all activities that are necessary to sustain their faith in God. Often this happens out of shame and sometimes out of depression. Whatever the reason for doing so, nothing could be worse. Having faith and a supporting faith community can make the difference between being able to keep a marriage together during times of trouble and ending up in divorce court. While it may take energy and courage that seemingly is unavailable in times where stress has used up all available resources, digging down deep to sustain your faith will, in the end, pay off hundredfold.

And the payoff comes in the long run, when surviving the rough times eventually

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม ได้โปรดทราบว่า แต่งงานดังกล่าวไม่มา โดยบังเอิญ ใช้ปีเฉพาะทำงานเพื่อนำความสัมพันธ์ชนิดนี้เข้าสู่การดำรงอยู่ ข่าวดีคือ ว่า เป็น doable แน่นอน ในความเป็นจริง ล้านคู่มีเพียงชนิดของความสัมพันธ์ แม้ ใช้เวลาความมุ่งมั่นที่สำคัญในทั้งสองส่วนทำงานอย่างต่อเนื่องในการสมรสในขณะที่ฉันพูดว่า ใช้ความมุ่งมั่นจากทั้งสองคน โปรดรู้ว่า จุดใดจุดหนึ่งในเวลา งานการรักษาความสัมพันธ์กันอาจตกมากคนหนึ่งมากกว่าอีก เวลา มันอาจดูไม่เป็นธรรม แต่เป็นวิธีมีความสัมพันธ์บางครั้งหนึ่งคู่ไปถึงระยะรุนแรงท้าทายส่วนบุคคล กระทบอย่างรุนแรงของเขาความสามารถในการนำไปสู่การแต่งงาน ในช่วงเวลาเหล่านี้ ถ้าสมรสเพื่อ ความอยู่รอด มันขึ้นอยู่กับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กันเหล่านี้เป็นอันตรายเวลาในความสัมพันธ์ อันตรายในแง่ที่คนสามารถมารู้สึก overburdened ดังว่า เธอตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์ แม้บุคคลที่เผชิญกับความท้าทายบุคคลอาจตัดสินใจจะดีกว่าถ้าสมรสสิ้นสุดลง บางคนแม้มาเชื่อพันธมิตรเป็นสาเหตุของปัญหาถ้าชีวิตสมรสจะอยู่รอดได้นานพอที่จะปลูกลักษณะวิเศษที่แสดงไว้ก่อนหน้าในบทนี้ คู่ต้องยอมรับการยึดถือการแต่งงานจนสามารถพบ และเอาชนะความท้าทาย ยัง ในครั้งนี้ของมิดดี ปัจจัยหนึ่งที่อาจบันทึกการสมรสจากยุบเป็นงานการมีส่วนร่วมในชุมชนความเชื่อ ทำให้ไม่เพียงให้ avenues ของกำลังใจให้กับคู่ด้วยกัน แต่สามารถให้พลังงานอยู่ได้ของคำอธิษฐานจากชุมชนความเชื่อผมคิดว่า มันระมัดระวังที่นี่เมื่อต้องการเพิ่มหมายเหตุเตือน ในมิด คู่รักมักจะเลิกไปคริสตจักร ตัดตัวเองออกจากชุมชนความเชื่อของพวกเขา และหยุดกิจกรรมทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อให้ศรัทธาในพระเจ้า บ่อยนี้เกิดขึ้น จากความอัปยศ และบางออก จากภาวะซึมเศร้า ด้วยเหตุผลใดสำหรับการทำเช่นนั้น ไม่มีอะไรอาจจะแย่ มีความเชื่อและศรัทธาชุมชนสนับสนุนสามารถทำให้ความแตกต่างระหว่างความสามารถในการให้แต่งงานกันในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา และสิ้นสุดในศาลหย่า ในขณะที่มันอาจใช้พลังงานและความกล้าหาญที่ดูเหมือนว่าจะไม่พร้อมใช้งานในเวลาที่ความเครียดได้ใช้ทรัพยากรที่มีทั้งหมด ขุดลงลึกเพื่อให้ความเชื่อของคุณจะ ในสุด จ่ายออก hundredfoldและผลตอบแทนมาในระยะยาว เมื่อรอดเวลาคร่าว ๆ ในที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าการแต่งงานที่ไม่ได้มาจากการเกิดอุบัติเหตุ
มันต้องใช้เวลาหลายปีของการทุ่มเทการทำงานเพื่อนำชนิดของความสัมพันธ์นี้ในการดำรงอยู่ ข่าวดีก็คือว่ามันเป็นไปได้อย่างแน่นอน; ในความเป็นจริงนับล้านคู่มีเพียงชนิดของความสัมพันธ์นี้ มันไม่ แต่ใช้ความมุ่งมั่นที่สำคัญในทั้งสองส่วนที่จะทำงานอย่างต่อเนื่องในการแต่งงาน. ขณะที่ผมบอกว่ามันต้องใช้ความมุ่งมั่นจากทั้งสองคนโปรดรับรู้ว่า ณ จุดใด ๆ ในเวลางานของการรักษาความสัมพันธ์ร่วมกันอาจจะตกมากขึ้นในการ คนคนหนึ่งกว่าที่อื่น ๆ ในขณะที่มันอาจจะดูเหมือนไม่เป็นธรรม แต่นั่นเป็นความสัมพันธ์ทางที่มี. บางครั้งหนึ่งในคู่ค้าไปผ่านช่วงเวลาของความท้าทายที่รุนแรงส่วนบุคคลอย่างรุนแรงขัดขวางความสามารถของเขาที่จะนำไปสู่การแต่งงาน ในช่วงเวลาเหล่านี้ถ้าการแต่งงานคือการอยู่รอดก็ขึ้นอยู่กับคู่ค้าอื่น ๆ เพื่อให้ความสัมพันธ์ร่วมกัน. เหล่านี้เป็นครั้งที่อันตรายในความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายในแง่ที่ว่าคนคนหนึ่งสามารถมารู้สึกหนักอึ้งเพื่อที่เธอตัดสินใจที่จะยุติ ความสัมพันธ์ แม้คนที่เผชิญกับความท้าทายส่วนตัวอาจจะตัดสินใจว่าเขาจะดีกว่าไหมถ้าแต่งงานสิ้นสุดวันที่ บางคนมาเชื่อพันธมิตรที่เป็นสาเหตุของปัญหา. ถ้าแต่งงานจะอยู่รอดนานพอที่จะปลูกฝังลักษณะที่ยอดเยี่ยมไว้ก่อนหน้าในบทนี้แล้วทั้งคู่ต้องยอมรับที่จะติดกับการแต่งงานจนความท้าทายที่สามารถพบและเอาชนะ นอกจากนี้ในครั้งนี้ของการปะทะกันดีปัจจัยหนึ่งที่อาจบันทึกการแต่งงานจากการสลายตัวคือการมีส่วนร่วมในชุมชนศรัทธา การทำเช่นนี้ไม่เพียง แต่สามารถให้ลู่ทางของการให้กำลังใจสำหรับคู่ที่จะอยู่ด้วยกัน แต่สามารถให้พลังงานที่ยั่งยืนของการสวดมนต์จากชุมชนศรัทธา. ฉันคิดว่ามันรอบคอบที่นี่เพื่อเพิ่มบันทึกเตือน ในช่วงเวลาของการปะทะกันคู่มักจะออกไปโบสถ์ตัดตัวเองออกจากชุมชนศรัทธาของพวกเขาและหยุดกิจกรรมทั้งหมดที่จำเป็นในการรักษาความเชื่อในพระเจ้า บ่อยครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ออกจากความอัปยศและบางครั้งก็ออกมาจากภาวะซึมเศร้า ไม่ว่าเหตุผลสำหรับการทำเช่นนั้นไม่มีอะไรจะเลวร้ายยิ่ง มีความเชื่อและความศรัทธาของชุมชนที่สนับสนุนสามารถทำให้ความแตกต่างระหว่างความสามารถในการให้แต่งงานด้วยกันในช่วงเวลาของปัญหาและสิ้นสุดในศาลหย่าร้าง ในขณะที่มันอาจจะต้องใช้พลังงานและความกล้าหาญที่ดูเหมือนจะไม่พร้อมใช้งานในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดขุดลึกลงไปเพื่อรักษาความเชื่อของคุณจะในท้ายที่สุดจ่ายออกร้อย. และผลตอบแทนมาในระยะยาวเมื่อยังมีชีวิตอยู่ เวลาที่หยาบในที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่าสมรสดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ มันต้องใช้เวลาหลายปีของการทุ่มเท
การทํางานเพื่อให้ความสัมพันธ์แบบนี้ในการมีชีวิตอยู่ ข่าวดีก็คือว่ามันแน่นอนสามารถทำได้ ในความเป็นจริง หลายคู่มีความสัมพันธ์กันแบบนี้ นั้น แม้ว่าจะสำคัญต่อทั้งสองส่วนจะยังคงทำงานในการแต่งงาน .

ตอนที่ฉันบอกว่ามันมีความมุ่งมั่นจากคนทั้งสอง โปรดจำว่า ที่จุดในเวลาใด ๆงานของการรักษาความสัมพันธ์ด้วยกันอาจจะตกมากกว่าคนคนหนึ่งมากกว่าอื่น ๆ ในเวลานั้น มันอาจจะดูไม่ยุติธรรม แต่นั่นเป็นวิธีที่ความสัมพันธ์

บางครั้งหนึ่งในพันธมิตรที่ไปผ่านช่วงเวลาของความท้าทายส่วนตัวอย่างรุนแรงอย่างรุนแรงขัดขวางความสามารถของเขาที่จะสนับสนุนการแต่งงาน ในช่วงเวลาเหล่านี้ ถ้าการแต่งงานคือเพื่อความอยู่รอด มันขึ้นอยู่กับคู่ค้าอื่น ๆที่จะรักษาความสัมพันธ์กัน

นี่อันตรายที่สุดในความสัมพันธ์ที่อันตราย ในความรู้สึกที่คนๆ หนึ่งจะมารู้สึกว่าภาระที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์แม้แต่คนที่เผชิญความท้าทายส่วนบุคคลอาจตัดสินใจว่าเขาคงจะดีกว่าถ้าการแต่งงานจบลง บางคนเชื่อพันธมิตร คือสาเหตุของปัญหา

ถ้าการแต่งงานจะอยู่รอดนานพอ เพื่อปลูกฝังคุณลักษณะวิเศษไว้ก่อนหน้านี้ในบทนี้แล้ว ทั้งคู่จะต้องตกลงที่จะติดกับการแต่งงานจนกว่าความท้าทายสามารถพบและเอาชนะนอกจากนี้ ในช่วงเวลาของการปะทะกัน , ปัจจัยหนึ่งที่อาจบันทึกการแต่งงานจากการละลาย คือ มีส่วนร่วมในชุมชนศรัทธา . ทำดังนั้นไม่เพียง แต่ให้ลู่ทางของการให้กำลังใจสำหรับคู่ที่จะอยู่ด้วยกัน แต่จะให้สนับสนุน อำนาจของคำอธิษฐานจากชุมชนศรัทธา

ฉันคิดว่ามันฉลาดมาเพิ่มข้อความเตือน . ในช่วงเวลาของการปะทะกัน ,คู่มักจะลาออกไปโบสถ์ ตัดตัวเองออกจากสังคมความเชื่อของพวกเขา และยุติกิจกรรมทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อรักษาความเชื่อในพระเจ้า นี้มักจะเกิดขึ้นจากความอับอายและบางครั้งก็ออกมาจากภาวะซึมเศร้า ไม่ว่าเหตุผลที่ทำอย่างนั้น ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้มีศรัทธาและสนับสนุนความเชื่อของชุมชนสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างการทำให้การแต่งงานกันในเวลาที่มีปัญหา และสิ้นสุดในการหย่าที่ศาล ในขณะที่มันอาจใช้เวลาพลังงานและความกล้าหาญที่ดูเหมือนจะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลาที่เครียดได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมด ขุดลึกลงเพื่อรักษาศรัทธาต้องจ่ายร้อยเท่า

และได้เงินมา ในระยะยาว เมื่อหญิงที่ขรุขระในที่สุด