Skip to ContentNUMBERS, FACTS AND T

Skip to Content
NUMBERS, FACTS AND TRENDS SHAPING YOUR WORLD
ส่ง
ABOUT | FOLLOW US
Pew Research CenterInternet, Science & Tech

U.S. POLITICS
MEDIA & NEWS
SOCIAL TRENDS
RELIGION
INTERNET & TECH
SCIENCE
HISPANICS
GLOBAL
PUBLICATIONS
TOPICS
PRESENTATIONS
INTERACTIVES
KEY INDICATORS
DATASETS
EXPERTS
REPORT
JANUARY 15, 2015
Social Media and the Cost of Caring
BY KEITH HAMPTON, LEE RAINIE, WEIXU LU, INYOUNG SHIN AND KRISTEN PURCELL

For generations, commentators have worried about the impact of technology on people’s stress. Trains and industrial machinery were seen as noisy disruptors of pastoral village life that put people on edge. Telephones interrupted quiet times in homes. Watches and clocks added to the de-humanizing time pressures on factory workers to be productive. Radio and television were organized around the advertising that enabled modern consumer culture and heightened people’s status anxieties.

Inevitably, the critics have shifted their focus onto digital technology. There has been considerable commentary about whether internet use in general and social media use in particular are related to higher levels of stress.1 Such analysts often suggest that it is the heaviest users of these technologies that are most at risk. Critics fear that these technologies take over people’s lives, creating time pressures that put people at risk for the negative physical and psychological health effects that can result from stress.

This research explores whether the use of social media, mobile phones and the internet is associated with higher levels of stress. In a Pew Research Center survey of 1,801 adults,2 we asked participants about the extent to which they felt their lives were stressful, using an established scale of stress called the Perceived Stress Scale (PSS).3 This scale is based on people’s answers to 10 questions that assess whether they feel that their life is overloaded, unpredictable and uncontrollable. Perceived stress, as measured through the PSS, can be viewed as an assessment of the risk that people face for psychological disorders related to stress, such as anxiety and depression, as well as physical illnesses, such as cardiovascular disease and susceptibility to infectious diseases.

There are a number of well-known factors that tend to make people feel more stress, including things like the economic uncertainty of unemployment, and the absence of a spouse or a partner with whom to confide. Previous studies have even found that awareness of stressful events in others’ lives is a major contributor to people’s appraisal of their own stress levels. The relationship of frequent use of digital technologies to stress has been an unknown. We also explored the possibility that the social component of some digital technologies makes people more aware of stressful events in the lives of their close friends and family, as well as in the lives of more socially distant acquaintances, and that this in turn is related to higher levels of stress.

The survey analysis produced two major findings that illustrate the complex interplay of digital technology and stress:

Overall, frequent internet and social media users do not have higher levels of stress. In fact, for women, the opposite is true for at least some digital technologies. Holding other factors constant, women who use Twitter, email and cellphone picture sharing report lower levels of stress.
At the same time, the data show there are circumstances under which the social use of digital technology increases awareness of stressful events in the lives of others. Especially for women, this greater awareness is tied to higher levels of stress and it has been called “the cost of caring.” Stress is not associated with the frequency of people’s technology use, or even how many friends users have on social media platforms. But there is one way that people’s use of digital technology can be linked to stress: Those users who feel more stress are those whose use of digital tech is tied to higher levels of awareness of stressful events in others’ lives. This finding about “the cost of caring” adds to the evidence that stress is contagious.4
How can it be that social media use is not directly associated with stress, but for some, social media use can still lead to higher levels of stress?

The answer: The relationship between stress and social media use is indirect. It is the social uses of digital technologies, and the way they increase awareness of distressing events in others’ lives, that explains how the use of social media can result in users feeling more stress.

Imagine a typical Facebook user. He or she is also likely to use other digital technologies, such as email and text messaging. All these technologies allow him or her to share information with friends and family in the form of photos, short textual messages and other contacts. As a result of this communication, he or she is aware and reminded of more activities in the lives of friends and family.

On

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้ามไปที่เนื้อหาตัวเลข ข้อเท็จจริง และแนวโน้มการสร้างโลกของคุณส่งเกี่ยวกับกรุนด์ฟอส ติดตามเราCenterInternet วิจัย pew วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการเมืองสหรัฐอเมริกาข่าวและสื่อแนวโน้มทางสังคมศาสนาอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์HISPANICSทั่วโลกสื่อสิ่งพิมพ์หัวข้องานนำเสนอINTERACTIVESตัวชี้วัดสำคัญชุดข้อมูลผู้เชี่ยวชาญรายงาน15 มกราคม 2015สังคมและต้นทุนของการดูแลโดย KEITH เพอร์เซลล์ HAMPTON, LEE RAINIE, WEIXU LU ชิน INYOUNG และคริสเตนสำหรับรุ่น นักพากย์มีกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีเกี่ยวกับความเครียดของผู้คน รถไฟและเครื่องจักรอุตสาหกรรมถูกมองว่าเป็น disruptors เสียงดังของชีวิตพระวิลเลจที่ทำให้คนบนขอบ โทรศัพท์ขัดจังหวะเวลาที่เงียบสงบในบ้าน นาฬิกาและนาฬิกาลงความกดดันเวลายก humanizing ในพนักงานโรงงานที่จะผลิต วิทยุและโทรทัศน์ได้จัดรอบการโฆษณาที่เปิดใช้งานผู้บริโภคสมัยใหม่วัฒนธรรม และวิตกกังวลในสถานะของคนทำย่อม นักวิจารณ์ได้เลื่อนขึ้นการโฟกัสลงบนเทคโนโลยีดิจิตอล มีมากเห็นว่าอินเทอร์เน็ตใช้งานทั่วไป และการใช้สื่อสังคมออนไลน์โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับระดับสูงของ stress.1 นักวิเคราะห์ดังกล่าวมักจะแนะนำว่า เป็นผู้ที่หนักที่สุดของเทคโนโลยีเหล่านี้ที่มีความเสี่ยงมาก นักวิจารณ์กลัวว่า เทคโนโลยีเหล่านี้ใช้ชีวิตของผู้คน การสร้างแรงกดดันเวลาที่ทำให้คนที่มีความเสี่ยงผลกระทบเชิงลบทางกายภาพ และทางจิตสุขภาพที่เป็นผลมาจากความเครียดงานวิจัยนี้สำรวจว่าการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับระดับสูงของความเครียด การสำรวจศูนย์วิจัยพิว 1,801 ผู้ใหญ่ 2 เราถามผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับขอบเขตที่พวกเขารู้สึกว่าชีวิตมีความเครียด ใช้เป็นอัตราความเครียดเรียกว่าการรับรู้ความเครียดขนาด (PSS) .3 สเกลนี้เป็นไปตามคำตอบของ 10 คำถามที่ประเมินว่าพวกเขารู้สึกว่า ชีวิตของพวกเขาเป็นโอเวอร์โหลด คาดเดาไม่ได้ และไม่สามารถควบคุมได้ รับรู้ความเครียด วัดผ่าน PSS สามารถดูเป็นการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวข้องคนหน้าสำหรับรับมือกับความเครียด เช่นความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า โรคทางกายภาพ เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจและไวต่อการติดเชื้อโรคมีจำนวนของปัจจัยที่รู้จักที่มักจะทำให้คนรู้สึกความเครียดที่มากขึ้น เช่นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของการว่างงาน และการขาดงานของคู่สมรสหรือคู่ค้าที่ต้องการไว้เนื้อเชื่อใจ ศึกษาก่อนหน้านี้ได้แม้พบว่า การรับรู้เหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้คนเป็นผู้สนับสนุนหลักให้ประชาชนประเมินตนเองระดับความเครียด ความสัมพันธ์ของการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลความเครียดแล้วไม่รู้จัก เรายังสำรวจความเป็นไปได้ ว่าองค์ประกอบทางสังคมของเทคโนโลยีดิจิทัลบางอย่างทำให้คนตระหนักถึงเหตุการณ์เครียด ในชีวิตของเพื่อนสนิทและครอบครัวของพวกเขา เช่นเดียว กับ ในชีวิตของคนรู้จักห่างไกลสังคมเพิ่มเติม และนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับสูงของความเครียดการวิเคราะห์การสำรวจผลิตสองประเด็นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ซับซ้อนและความเครียด:อินเทอร์เน็ตโดยรวม บ่อยและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่มีความเครียดระดับที่สูงขึ้น ในความเป็นจริง สำหรับผู้หญิง ตรงข้ามเป็นจริงสำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างน้อย โฮลดิ้งอื่น ๆ ปัจจัยคง ผู้หญิงใช้ทวิตเตอร์ อีเมล และโทรศัพท์มือถือรายงานการแบ่งปันภาพลดระดับของความเครียดในเวลาเดียวกัน ข้อมูลแสดงมีสถานการณ์ที่สังคมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มรับรู้เหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง ตระหนักรู้นี้จะเชื่อมโยงกับระดับสูงของความเครียด และมีการเรียก "ต้นทุนของการดูแล" ความเครียดไม่เกี่ยวข้องกับความถี่ของประชาชนใช้เทคโนโลยี หรือแม้แต่จำนวนเพื่อนผู้ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคม แต่มีวิธีหนึ่ง ที่ประชาชนใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่สามารถเชื่อมโยงความเครียด: ผู้ใช้ที่รู้สึกความเครียดมากขึ้นเป็นผู้ที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลจะเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นของการรับรู้เหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้คน พบนี้เกี่ยวกับ "ต้นทุนดูแล" เพิ่มไปที่หลักฐานที่ว่า ความเครียดเป็น contagious.4ได้ว่า การใช้สื่อสังคมไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความเครียด แต่สำหรับบางคน ใช้สื่อสังคมออนไลน์จะยังคงนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเครียดคำตอบที่: ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการใช้สื่อสังคมเป็นทางอ้อม ใช้สังคมของเทคโนโลยีดิจิตอล และวิธีเพิ่มการรับรู้ของเหตุการณ์ในชีวิตของผู้คน น่าวิตกที่อธิบายวิธีการใช้สื่อสังคมอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกความเครียดมากขึ้น ได้จินตนาการผู้ใช้ Facebook ทั่วไป เขาหรือเธอยังมีแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ เช่นอีเมลและส่งข้อความ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เขาหรือเธอเพื่อแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนและครอบครัวในรูปแบบของรูปภาพ ข้อความสั้นข้อความ และรายชื่ออื่น ๆ เป็นผลมาจากการสื่อสารนี้ เขาหรือเธอจะตระหนัก และชูกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตของเพื่อนและครอบครัวบน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้ามไปยังเนื้อหา
ตัวเลขข้อเท็จจริงและแนวโน้มการสร้างโลกของคุณ
ส่ง
เกี่ยวกับ | ติดตามเรา
Pew Research CenterInternet วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศสหรัฐอเมริกา การเมืองสื่อและข่าวแนวโน้มทางสังคมศาสนาInternet และ TECH วิทยาศาสตร์ละตินอเมริกาGLOBAL สิ่งพิมพ์หัวข้อการนำเสนอเชิงโต้ตอบตัวบ่งชี้ชุดข้อมูลผู้เชี่ยวชาญรายงาน15 มกราคม 2015 สื่อสังคมและต้นทุนของการดูแลคี ธ HAMPTON ลีเรนนี่, WEIXU Lu, INYOUNG SHIN และคริสเต PURCELL สำหรับคนรุ่น แสดงความเห็นได้กังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีต่อความเครียดของประชาชน รถไฟและเครื่องจักรอุตสาหกรรมถูกมองว่าเป็นสารทำลายมีเสียงดังของชีวิตในหมู่บ้านพระที่ทำให้คนที่อยู่บนขอบ โทรศัพท์ขัดจังหวะครั้งที่เงียบสงบในบ้าน แว่นตาและนาฬิกาเพิ่มแรงกดดันเวลา de-humanizing ในคนงานในโรงงานที่จะผลิต วิทยุและโทรทัศน์ได้รับการจัดรอบการโฆษณาที่เปิดใช้งานวัฒนธรรมของผู้บริโภคที่ทันสมัยและคนที่มีความคิดริเริ่มของความวิตกกังวลสถานะ. อย่างหลีกเลี่ยงไม่วิจารณ์ได้เลื่อนโฟกัสของพวกเขาไปยังเทคโนโลยีดิจิตอล มีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตในการใช้สื่อสังคมทั่วไปและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับระดับที่สูงขึ้นของนักวิเคราะห์ดังกล่าว stress.1 มักจะแนะนำว่าเป็นผู้ใช้ที่หนักที่สุดของเทคโนโลยีเหล่านี้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด นักวิจารณ์กลัวว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะใช้เวลามากกว่าชีวิตของผู้คนในการสร้างแรงกดดันในช่วงเวลานั้นทำให้คนที่มีความเสี่ยงเชิงลบผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่อาจเกิดจากความเครียด. การวิจัยนี้จะสำรวจว่าการใช้สื่อสังคมโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตมีความเกี่ยวข้องกับ ระดับที่สูงขึ้นของความเครียด ในการสำรวจนั่งศูนย์วิจัยของผู้ใหญ่ 1,801 2 เราถามผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับขอบเขตที่พวกเขารู้สึกว่าชีวิตของพวกเขาก็เครียดใช้ขนาดที่จัดตั้งขึ้นของความเครียดที่เรียกว่าการรับรู้ความเครียดชั่ง (PSS) 0.3 ขนาดนี้จะขึ้นอยู่กับคำตอบของผู้คนเพื่อ 10 คำถามที่ประเมินว่าพวกเขารู้สึกว่าชีวิตของพวกเขามากเกินไปไม่แน่นอนและไม่สามารถควบคุมได้ รับรู้ความเครียดที่วัดผ่าน PSS, สามารถมองได้ว่าการประเมินความเสี่ยงที่ผู้คนต้องเผชิญกับความผิดปกติทางด้านจิตใจที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเช่นความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าเช่นเดียวกับการเจ็บป่วยทางกายภาพเช่นโรคหลอดเลือดหัวใจและความไวต่อโรคติดเชื้อมีจำนวนของปัจจัยที่รู้จักกันดีว่ามีแนวโน้มที่จะทำให้คนรู้สึกความเครียดมากขึ้นรวมถึงสิ่งที่ต้องการไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของการว่างงานและการขาดของคู่สมรสหรือหุ้นส่วนกับผู้ที่จะให้ความไว้วางใจเป็น การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าแม้การรับรู้ของเหตุการณ์ความตึงเครียดในชีวิตของผู้อื่นเป็นผู้สนับสนุนหลักในการประเมินของผู้คนของระดับความเครียดของตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งานบ่อยของเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อความเครียดได้รู้จัก นอกจากนี้เรายังมีการสำรวจความเป็นไปได้ว่าองค์ประกอบทางสังคมของเทคโนโลยีดิจิตอลบางส่วนทำให้ผู้คนตระหนักถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เครียดในชีวิตของเพื่อนสนิทของพวกเขาและครอบครัวเช่นเดียวกับในชีวิตของผู้คนรู้จักมากขึ้นห่างไกลสังคมและในทางกลับกันมีความเกี่ยวข้องกับ . ระดับสูงของความเครียดการวิเคราะห์การสำรวจสองค้นพบที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยีดิจิตอลและความเครียด: โดยรวม, อินเทอร์เน็ตบ่อยและผู้ใช้สื่อสังคมไม่ได้มีระดับที่สูงขึ้นของความเครียด ในความเป็นจริงสำหรับผู้หญิงตรงข้ามเป็นจริงสำหรับเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างน้อยบางส่วน โฮลดิ้งปัจจัยอื่น ๆ คงที่ผู้หญิงที่ใช้ Twitter, อีเมล์และรายงานการแชร์ภาพโทรศัพท์มือถือระดับล่างของความเครียด. ในขณะเดียวกันข้อมูลที่แสดงมีสถานการณ์ภายใต้การใช้งานทางสังคมของเทคโนโลยีดิจิตอลเพิ่มความตระหนักของเหตุการณ์ความตึงเครียดในชีวิตของผู้อื่น . โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงตระหนักมากขึ้นนี้จะเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นของความเครียดและจะได้รับการเรียกว่า "ค่าใช้จ่ายในการดูแล." ความเครียดไม่เกี่ยวข้องกับความถี่ของการใช้เทคโนโลยีของผู้คนหรือแม้กระทั่งวิธีการหลายเพื่อนผู้ใช้ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มสื่อสังคม แต่มีวิธีหนึ่งที่ใช้งานของผู้คนของเทคโนโลยีดิจิตอลสามารถเชื่อมโยงกับความเครียด: ผู้ใช้ที่รู้สึกความเครียดมากขึ้นเป็นผู้ที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลจะเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นจากการรับรู้ของเหตุการณ์ความตึงเครียดในชีวิตของผู้อื่น การค้นพบเกี่ยวกับ "ค่าใช้จ่ายในการดูแล" นี้จะเพิ่มหลักฐานว่าความเครียดเป็น contagious.4 วิธีที่จะสามารถเป็นไปได้ว่าการใช้สื่อสังคมไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความเครียด แต่สำหรับบางคนการใช้สื่อสังคมยังสามารถนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเครียด? คำตอบ: ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการใช้สื่อสังคมเป็นทางอ้อม มันเป็นความหมายทางสังคมของเทคโนโลยีดิจิตอลและวิธีที่พวกเขาเพิ่มการรับรู้ของเหตุการณ์ที่น่าวิตกในชีวิตของผู้อื่นที่อธิบายถึงวิธีการใช้สื่อสังคมจะส่งผลให้ผู้ใช้รู้สึกความเครียดมากขึ้น. ลองนึกภาพผู้ใช้ Facebook โดยทั่วไป เขาหรือเธอยังมีแนวโน้มที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิตอลอื่น ๆ เช่นอีเมลและการส่งข้อความ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เขาหรือเธอที่จะแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนและครอบครัวในรูปแบบของภาพถ่ายข้อความที่เป็นข้อความสั้นและรายชื่ออื่น ๆ อันเป็นผลมาจากการสื่อสารนี้เขาหรือเธอตระหนักและการเตือนของกิจกรรมมากขึ้นในชีวิตของเพื่อน ๆ และครอบครัว. เมื่อวันที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้ามไปที่เนื้อหาตัวเลข ข้อเท็จจริงและแนวโน้มการสร้างโลกของคุณส่งเกี่ยวกับ | ตามเราปิ้ว centerinternet การวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคการเมืองของสหรัฐฯข่าวสื่อแนวโน้มของสังคมศาสนาอินเทอร์เน็ตและเทควิทยาศาสตร์ละตินอเมริการะดับโลกสิ่งพิมพ์หัวข้อการนําเสนอinteractivesตัวบ่งชี้ข้อมูลผู้เชี่ยวชาญรายงาน15 มกราคม 2015สื่อสังคมและค่าใช้จ่ายของการดูแลโดยคีธ แฮมพ์ตัน , ลี เรนนี่ , weixu ลู่ อินยอง ชิน และ คริสติน เพอร์เซลสำหรับรุ่นการแข่งขันมีกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีต่อความเครียดของคน รถไฟและเครื่องจักรอุตสาหกรรมถูกมองว่าน่ารำคาญ disruptors หมู่บ้านอภิบาลชีวิตที่ทำให้ผู้คนบนขอบ โทรศัพท์มาขัดจังหวะเวลาที่เงียบสงบในบ้าน นาฬิกาเพิ่มเวลา เดอ humanizing แรงกดดันในคนงานในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิทยุและโทรทัศน์จัดรอบโฆษณาที่เปิดใช้งานวัฒนธรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ และทำให้ประชาชนมีความวิตกกังวลสถานะแน่นอนนักวิจารณ์ได้เลื่อนโฟกัสไปยังเทคโนโลยีดิจิตอล มีมากในความเห็นเกี่ยวกับว่าใช้อินเทอร์เน็ตในทั่วไปและสื่อสังคมใช้เฉพาะจะเกี่ยวข้องกับระดับที่สูงขึ้นของความเครียด เช่น นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า 1 มักจะเป็นผู้ใช้หนักของเทคโนโลยีเหล่านี้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด . วิจารณ์กลัวว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ใช้เวลามากกว่าชีวิตของคน สร้างแรงกดดัน ที่ทำให้คนเสี่ยงเวลาเพื่อลบทางกายภาพและจิตวิทยาสุขภาพที่เป็นผลมาจากความเครียดงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาว่า การใช้สื่อสังคม , โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตมีความเกี่ยวข้องกับระดับที่สูงขึ้นของความเครียด ในศูนย์วิจัยการสำรวจของผู้ใหญ่ 1 , 2 เราถามผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับขอบเขตที่พวกเขารู้สึกว่าชีวิตกำลังเคร่งเครียด โดยใช้อัตราความเครียดที่เรียกว่า การรับรู้ความเครียดขนาด ( แฮ่ ) 3 ระดับขนาดนี้จะขึ้นอยู่กับประชาชนตอบ 10 คำถาม ที่ประเมินว่าพวกเขารู้สึกว่าชีวิตของตนมีเพียบ ไม่สามารถคาดเดาได้ และควบคุมไม่ได้ การรับรู้ความเครียด เมื่อวัดผ่านแฮ่ สามารถดู เช่น การประเมินความเสี่ยงที่ใบหน้าคนสำหรับความผิดปกติทางจิตที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่นความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า รวมทั้งความเจ็บป่วยทางกาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และเกิดโรคระบาดมีหลายที่รู้จักกันดีปัจจัยที่มีแนวโน้มที่จะทำให้คนรู้สึกมากขึ้น ความเครียด รวมทั้งสิ่งต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ การว่างงาน และการขาดของคู่สมรสหรือพันธมิตรที่ไว้ใจ . การศึกษาก่อนหน้านี้ได้พบว่า ความตระหนักของเหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้อื่น เป็นผู้หลักผู้ประเมินระดับความเครียดของตนเอง ความสัมพันธ์ของความถี่ในการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อความเครียดได้ถูกจัก เราศึกษาความเป็นไปได้ว่า องค์ประกอบทางสังคมของเทคโนโลยีดิจิตอลทำให้ผู้คนตระหนักถึงเหตุการณ์เครียดในชีวิตของเพื่อนสนิทของตนเอง และครอบครัว ตลอดจนสังคมที่ไกลมากขึ้นในชีวิตของคนรู้จัก และ ที่ นี้ จะเกี่ยวข้องกับระดับที่สูงขึ้นของความเครียดการวิเคราะห์ข้อมูลการสำรวจผลิตสองหลักที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของเทคโนโลยีดิจิตอลและความเครียด :โดยรวม ใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมผู้ใช้ไม่ต้องระดับที่สูงขึ้นของความเครียด ในความเป็นจริง , สำหรับผู้หญิง , ตรงข้ามเป็นจริงอย่างน้อยบางเทคโนโลยีดิจิตอล ถือปัจจัยอื่นๆ คงที่ ผู้หญิงที่ใช้ Twitter , อีเมล์และมือถือภาพแบ่งปันรายงานการลดระดับของความเครียดในเวลาเดียวกัน ข้อมูลที่แสดงมีภายใต้สถานการณ์ที่ใช้สังคมของเทคโนโลยีดิจิตอลเพิ่มความตระหนักของเหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งความตระหนักมากขึ้นจะเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นของความเครียด และถูกเรียกว่า " ต้นทุนของการดูแล " เครียดไม่สัมพันธ์กับความถี่ของการใช้เทคโนโลยีของประชาชน หรือแม้แต่วิธีการหลายเพื่อนผู้ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคม แต่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ผู้คนใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่สามารถเชื่อมโยงกับความเครียด : ผู้ใช้ที่รู้สึกเครียดมากที่มีการใช้ดิจิตอลเทค จะเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นของการรับรู้ของเหตุการณ์เครียดในชีวิตของผู้อื่น นี้การค้นหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของการดูแล " เพื่อเพิ่มหลักฐานว่า ความเครียดคือโรคติดต่อ 4 .เป็นไปได้ยังไงที่ใช้สื่อสังคมไม่ได้โดยตรง ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด แต่สำหรับบางคน ใช้สื่อสังคมยังสามารถนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความเครียดคำตอบ : ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและสื่อสังคมใช้ทางอ้อม มันคือการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลสังคมและวิธีที่พวกเขาเพิ่มความตระหนักของเหตุการณ์ที่เจ็บปวดในชีวิตผู้อื่น นั่นอธิบายว่าทำไมการใช้สื่อสังคมสามารถส่งผลให้ผู้ใช้รู้สึกเครียดมากขึ้นจินตนาการของผู้ใช้ Facebook ทั่วไป เขาหรือเธอยังเป็นแนวโน้มที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิตอลอื่น ๆเช่นอีเมลและการส่งข้อความ . เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เขาหรือเธอที่จะแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อน ๆและครอบครัวในรูปแบบของภาพถ่าย ข้อความ ข้อความ สั้น ๆและการติดต่ออื่น ๆ ผลของการสื่อสารนี้คือเขาหรือเธอ ตระหนักและนึกถึงกิจกรรมเพิ่มเติมใน t