Task-based approachTask -based lear

Task-based approach
Task -based learning offers an alternative for language teachers. In a task-based lesson the teacher doesn't pre-determine what language will be studied, the lesson is based around the completion of a central task and the language studied is determined by what happens as the students complete it. The lesson follows certain stages.

Pre-task
The teacher introduces the topic and gives the students clear instructions on what they will have to do at the task stage and might help the students to recall some language that may be useful for the task. The pre-task stage can also often include playing a recording of people doing the task. This gives the students a clear model of what will be expected of them. The students can take notes and spend time preparing for the task.

Task
The students complete a task in pairs or groups using the language resources that they have as the teacher monitors and offers encouragement.

Planning
Students prepare a short oral or written report to tell the class what happened during their task. They then practise what they are going to say in their groups. Meanwhile the teacher is available for the students to ask for advice to clear up any language questions they may have.

Report 
Students then report back to the class orally or read the written report. The teacher chooses the order of when students will present their reports and may give the students some quick feedback on the content. At this stage the teacher may also play a recording of others doing the same task for the students to compare. 

Analysis
The teacher then highlights relevant parts from the text of the recording for the students to analyse. They may ask students to notice interesting features within this text. The teacher can also highlight the language that the students used during the report phase for analysis.

Practice
Finally, the teacher selects language areas to practise based upon the needs of the students and what emerged from the task and report phases. The students then do practice activities to increase their confidence and make a note of useful language.

The advantages of TBL
Task-based learning has some clear advantages

Unlike a PPP approach, the students are free of language control. In all three stages they must use all their language resources rather than just practising one pre-selected item.A natural context is developed from the students' experiences with the language that is personalised and relevant to them. With PPP it is necessary to create contexts in which to present the language and sometimes they can be very unnatural.The students will have a much more varied exposure to language with TBL. They will be exposed to a whole range of lexical phrases, collocations and patterns as well as language forms.The language explored arises from the students' needs. This need dictates what will be covered in the lesson rather than a decision made by the teacher or the coursebook.It is a strong communicative approach where students spend a lot of time communicating. PPP lessons seem very teacher-centred by comparison. Just watch how much time the students spend communicating during a task-based lesson.It is enjoyable and motivating.


Conclusion
PPP offers a very simplified approach to language learning. It is based upon the idea that you can present language in neat little blocks, adding from one lesson to the next. However, research shows us that we cannot predict or guarantee what the students will learn and that ultimately a wide exposure to language is the best way of ensuring that students will acquire it effectively. Restricting their experience to single pieces of target language is unnatural.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิบัติงานตามงาน - การเรียนรู้ตามมีทางเลือกสำหรับครูสอนภาษา ในบทเรียนตามงาน ครูไม่ก่อนกำหนดจะสามารถศึกษาภาษา บทเรียนจะขึ้นรอบสมบูรณ์ของงานเซ็นทรัล และภาษาที่ศึกษาจะถูกกำหนด โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นนักเรียนสมบูรณ์มัน บทเรียนตามขั้นตอนบางอย่างก่อนงานครูแนะนำหัวข้อ และให้นักเรียนล้างคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะต้องทำในขั้นตอนของงาน และอาจช่วยให้นักเรียนจะจำภาษาบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับงาน นอกจากนี้ขั้นตอนงานก่อนมักได้แก่เล่นการบันทึกของคนทำงาน นี้ช่วยให้นักเรียนแบบชัดเจนของสิ่งที่จะได้รับของพวกเขา นักเรียนสามารถจดบันทึก และใช้เวลาเตรียมความพร้อมสำหรับงานนี้งานนักเรียนทำงานคู่หรือกลุ่มโดยใช้ทรัพยากรภาษาที่พวกเขามีครูตรวจสอบ และให้กำลังใจการวางแผนนักเรียนเตรียมมีปากสั้น หรือรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อบอกชั้นว่าที่เกิดขึ้นระหว่างงานของพวกเขา พวกเขาฝึกแล้วอะไรที่พวกเขาจะไปพูดในกลุ่มของตนเอง ในขณะเดียวกัน ครูมีนักเรียนขอคำแนะนำเพื่อล้างสงสัยภาษาอาจมีรายงาน นักเรียนแล้วรายงานกลับไปคลาวาจา หรืออ่านรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร ครูเลือกลำดับของเมื่อนักเรียนจะนำเสนอรายงานของพวกเขา และอาจให้นักเรียนข้อเสนอแนะบางอย่างรวดเร็วในเนื้อหา ในขั้นนี้ ครูอาจจะเล่นการบันทึกของผู้อื่นที่ทำงานเดียวกันนักเรียนเปรียบเทียบ วิเคราะห์ครูแล้วไฮไลท์ส่วนที่เกี่ยวข้องจากข้อความของการบันทึกนักเรียนวิเคราะห์ พวกเขาอาจให้นักเรียนสังเกตสิ่งที่น่าสนใจภายในข้อความนี้ นอกจากนี้ครูยังสามารถเน้นภาษาที่นักเรียนใช้ระหว่างขั้นตอนการรายงานสำหรับการวิเคราะห์ปฏิบัติในที่สุด พื้นที่ภาษาที่เลือกครูฝึกขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเรียนและสิ่งที่โผล่ออกมาจากขั้นตอนงานและรายงาน แล้วให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และทำบันทึกย่อของภาษาข้อดีของ TBLงานการเรียนรู้มีประโยชน์บางอย่างชัดเจนนักเรียนจะไม่ฟรีควบคุมภาษาแตกต่างจากแนวทาง PPP ในทุกขั้นตอนที่สามจะต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดของภาษา มากกว่าเพียงแค่ฝึกหนึ่งรายการที่เลือกไว้ล่วงหน้า บริบทที่เป็นธรรมชาติได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์ของนักเรียนด้วยภาษาที่เป็นส่วนตัว และเกี่ยวข้องกับพวกเขา PPP จึงจำเป็นต้องสร้างบริบทที่จะนำเสนอภาษา และบางครั้งพวกเขาสามารถเป็นธรรมชาติมาก นักเรียนจะมีการเปิดรับแสงมากขึ้นหลากหลายภาษาด้วย TBL พวกเขาจะได้สัมผัสกับหลากหลายเกี่ยวกับคำศัพท์วลี จัด และลาย ตลอดจนรูปแบบของภาษา สำรวจภาษาเกิดจากความต้องการของนักเรียน ต้องนี้บอกอะไรจะครอบคลุมอยู่ในบทเรียนมากกว่าการตัดสิน โดยครูหรือ coursebook มันเป็นวิธีการสื่อสารแข็งแรงที่นักเรียนใช้จ่ายจำนวนมากของเวลาการสื่อสาร เรียน PPP ดูเหมือนมากครูเป็นศูนย์กลางโดยการเปรียบเทียบ เพียงแค่ดูว่าเวลาที่นักเรียนใช้สื่อสารระหว่างบทเรียนตามงาน สนุกสนาน และสร้างแรงจูงใจได้สรุปPPP มีวิธีการง่ายมากในการเรียนรู้ภาษา มันจะขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าคุณสามารถนำเสนอภาษาในบล็อกเล็กน้อยเรียบร้อย เพิ่มจากหนึ่งบทเรียนถัดไป อย่างไรก็ตาม การวิจัยแสดงให้เราเห็นว่า เราไม่สามารถทำนาย หรือรับประกันสิ่งที่นักเรียนจะเรียนรู้ และในที่สุดการเปิดรับแสงที่กว้างภาษาเป็นวิธีที่ดีสุดของการสร้างความมั่นใจว่า นักเรียนจะได้รับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำกัดประสบการณ์ของพวกเขาเป็นชิ้นเดียวของภาษาเป้าหมายได้เป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปฏิบัติงานตามงานเรียนรู้โดยเสนอทางเลือกสำหรับครูภาษา ในภาษาอังกฤษบทเรียนครูไม่ได้ศึกษาภาษาอะไร ก่อนจะศึกษาบทเรียนตามรอบเสร็จสิ้นงานกลาง และภาษานี้จะถูกกำหนดโดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นนักเรียนมันสมบูรณ์ บทเรียนตามขั้นตอนบางอย่าง .ก่อนงานอาจารย์แนะนำหัวข้อและให้คำแนะนำนักเรียนที่ชัดเจนในสิ่งที่พวกเขาจะต้องทำในงานเวที และอาจช่วยให้นักเรียนจำภาษาบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับงาน ก่อนงานเวทียังมักจะรวมการบันทึกของคนทำงาน นี้จะช่วยให้นักเรียนมีรูปแบบที่ชัดเจนของสิ่งที่จะได้รับการคาดหวังของพวกเขา นักเรียนสามารถจดบันทึก และใช้เวลาเตรียมงานงานนักเรียนที่สำเร็จเป็นคู่หรือกลุ่มที่ใช้ภาษาทรัพยากรที่พวกเขาได้เป็นครูตรวจสอบและเสนอให้กําลังใจวางแผนนักเรียนเตรียมรายงานสั้น ๆในช่องปาก หรือเขียนเพื่อบอกระดับของสิ่งที่เกิดขึ้นในงานของพวกเขา จากนั้นพวกเขาทำสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดในกลุ่มของพวกเขา ในขณะที่ครูสามารถใช้ได้สำหรับนักเรียนเพื่อขอคําแนะนําให้ชัดเจนขึ้นคำถามภาษาใด ๆที่พวกเขาอาจมีรายงานครั้งที่นักเรียน แล้วมารายงานชั้นด้วยวาจาหรืออ่าน เขียนรายงาน ครูเลือกคำสั่งเมื่อนักเรียนจะนำเสนอรายงาน และอาจให้นักเรียนตอบสนองที่รวดเร็วในเนื้อหา ที่ครู ขั้นตอนนี้อาจเล่นบันทึกของผู้อื่นที่ทำงานเดียวกัน สำหรับนักเรียนที่จะเปรียบเทียบได้ ไหมการวิเคราะห์อาจารย์ แล้วไฮไลท์ส่วนที่เกี่ยวข้องจากข้อความของบันทึก ให้นักเรียนวิเคราะห์ พวกเขาอาจให้นักเรียนสังเกตคุณลักษณะที่น่าสนใจในข้อความนี้ ครูยังสามารถเน้นภาษาที่นักเรียนใช้ในขั้นตอนการรายงานการวิเคราะห์ฝึกสุดท้าย ครูจะเลือกพื้นที่เพื่อฝึกภาษาตามความต้องการของนักเรียน และสิ่งที่โผล่ออกมาจากงานและขั้นตอนการรายงาน นักเรียนทำกิจกรรมฝึกปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และจดเป็นภาษาข้อดีของทีบีแอลงานแห่งการเรียนรู้ได้ชัดเจน ข้อดีซึ่งแตกต่างจากการปฏิบัติวิธีการ นักเรียนมีอิสระจากการควบคุมของภาษา ในทั้งหมดสามขั้นตอนที่พวกเขาต้องใช้ทรัพยากรภาษาทั้งหมดของพวกเขามากกว่าเพียงแค่การฝึกหนึ่งก่อนเลือกสินค้า บริบทธรรมชาติถูกพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ของนักเรียน กับ ภาษา ที่เป็นบุคคลและที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา กับพรรคพลังประชาชนจะต้องสร้างบริบทที่ปัจจุบันภาษาและบางครั้งพวกเขาสามารถมากผิดธรรมชาติ นักเรียนจะได้หลากหลายมากขึ้น การสัมผัสทางทีบีแอล . พวกเขาจะได้สัมผัสกับช่วงทั้งหมดของวลีศัพท์ collocations และรูปแบบ รวมทั้งรูปแบบของภาษา ภาษาเริ่มเกิดขึ้นจากความต้องการของนักเรียน ต้องนี้ต้องการสิ่งที่จะครอบคลุมในบทเรียนมากกว่าการตัดสินใจโดยครูหรือ coursebook มันเป็นวิธีการที่แข็งแกร่งเพื่อการสื่อสาร นักเรียนใช้จ่ายมากเวลาในการสื่อสาร บทเรียนพรรคพลังประชาชนดูเหมือนครูเป็นศูนย์กลาง โดยการเปรียบเทียบ ดูเท่าใดเวลาที่นักเรียนใช้ในการสื่อสารในระหว่างการเรียนแบบเน้นงานปฏิบัติ เป็นที่สนุกสนาน และแรงจูงใจสรุปพปช. เสนอง่ายมากวิธีเรียนภาษา มันขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าคุณสามารถแสดงภาษาในบล็อกเล็ก ๆน้อย ๆเรียบร้อย เพิ่มจากหนึ่งในบทเรียนต่อไป อย่างไรก็ตาม การวิจัยได้แสดงให้เราว่า เราไม่สามารถคาดการณ์หรือรับประกันว่านักเรียนจะเรียนรู้และในที่สุดการเปิดรับกว้างภาษาเป็นวิธีที่ดีที่สุดของการสร้างความมั่นใจว่านักเรียนมีประสิทธิภาพจะได้รับมัน จำกัด ประสบการณ์ของตนเองไปชิ้นเดียวของภาษาเป้าหมาย มันผิดธรรมชาติ