AtherosclerosisPopulation-based stu

Atherosclerosis

Population-based studies indicate that the antioxidant properties of green tea may help prevent atherosclerosis, particularly coronary artery disease. Population-based studies are studies that follow large groups of people over time or studies that compare groups of people living in different cultures or with different diets.
Researchers believe green tea reduces the risk of heart disease by lowering cholesterol and triglyceride levels. Studies show that black tea has similar effects. In fact, researchers estimate that the rate of heart attack decreases by 11% with consumption of 3 cups of tea per day.
However, in May 2006, the U.S. Food and Drug Administration (FDA) rejected a petition from tea makers to allow tea labels to claim that green tea reduces the risk of heart disease. The FDA concluded that there is no credible evidence to support that claim.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลอดเลือดตามประชากรการศึกษาบ่งชี้ว่า คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวอาจช่วยป้องกันหลอดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศึกษาตามประชากรศึกษาที่ตามคนเมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มใหญ่หรือการศึกษาที่เปรียบเทียบของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง หรืออาหารอื่นนักวิจัยเชื่อว่า ชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยลดระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ การศึกษาแสดงว่าชาดำมีผลคล้ายกัน ในความเป็นจริง นักวิจัยประเมินว่า อัตราของหัวใจลดลง 11% ด้วยปริมาณการใช้ของ 3 ถ้วยชาต่อวันอย่างไรก็ตาม ใน 2549 พฤษภาคม อาหารและยา (FDA) ปฏิเสธคำร้องจากชงชาเพื่อให้ชาป้ายอ้างว่า ชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ FDA ได้ข้อสรุปว่า มีหลักฐานไม่น่าเชื่อถือสนับสนุนข้อเรียกร้องที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลอดเลือดศึกษาประชากรที่ใช้บ่งชี้ว่าคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวอาจช่วยป้องกันหลอดเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาประชากรตามการศึกษาที่เป็นไปตามกลุ่มใหญ่ของผู้คนในช่วงเวลาหรือการศึกษาเปรียบเทียบว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันหรือที่มีอาหารที่แตกต่างกัน. นักวิจัยเชื่อว่าชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าชาดำมีผลที่คล้ายกัน ในความเป็นจริงนักวิจัยประเมินว่าอัตราของโรคหัวใจลดลง 11% ที่มีการบริโภค 3 ถ้วยชาต่อวัน. อย่างไรก็ตามในเดือนพฤษภาคมปี 2006 คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ปฏิเสธคำร้องจากชาที่จะอนุญาตให้ป้ายชา จะอ้างว่าชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ องค์การอาหารและยาได้ข้อสรุปว่าไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพื่อสนับสนุนการอ้างว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในมาตราการที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นคือ