The nests of the Edible-nest Swiftl

The nests of the Edible-nest Swiftlet (Collocalia fuciphaga) rank amongst the world's most expensive animal products, which has resulted in high levels of exploitation of its nests in the Andaman and Nicobar Islands, India. The population of the Edible-nest Swiftlet was assessed through nest counts, and declines in population were estimated through changes in nest yields. The minimum breeding population of C. fuciphaga was estimated to be 13,260 birds, and the species currently bred in 291 caves, and had abandoned 31 caves. Nest collection in the Andaman and Nicobar Islands had taken place in 95% of breeding sites. Less than 2% of the nests counted had either eggs or chicks in them. The decline in swiftlet nest yields in the Andaman islands, between the present and 5–8 years ago (195 caves) has been 61%, and between the present and over 10 years ago (45 caves) has been 83%. Depending on the patterns of nest collection, declines in yield in the Nicobar Islands range between 40 and 95%, with only one cave apparently not having undergone a significant loss. The Edible-nest Swiftlet is critically threatened (IUCN criteria A1c) in the Andaman and Nicobar Islands, as it has undergone a reduction in numbers greater than 80% over the last 10 years. To arrest continuing declines, protective measures need to be urgently implemented. Concomitantly, the house farming of the Edible-nest Swiftlet, as has been established in Indonesia, needs to be developed as an ex-situ conservation measure in the Andaman and Nicobar Islands.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รังของลำดับ Swiftlet กินรัง (Collocalia fuciphaga) ท่ามกลางโลกแพงที่สุดสัตว์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีผลในระดับสูงการแสวงหาประโยชน์ของรังในอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์ อินเดีย มีประเมินประชากรของ Swiftlet กินรังผ่านรังนับ และมีประมาณในประชากรผ่านการเปลี่ยนแปลงในผลผลิตรัง พันธุ์ประชากร C. fuciphaga ต่ำสุดที่ประมาณ นก 13,260 และสายพันธุ์ปัจจุบัน bred ในถ้ำ 291 และได้ละทิ้งถ้ำ 31 เก็บรังในอันดามันและเกาะนิโคบาร์มีดำเนินการใน 95% พันธุ์อเมริกา น้อยกว่า 2% ของรังนับมีไข่หรือลูกไก่ได้ การลดลงของผลผลิตรัง swiftlet อันดามันหมู่เกาะ ระหว่างปัจจุบันและ 5 – 8 ปี (195 ถ้ำ) แล้ว 61% และระหว่างปัจจุบันและกว่า 10 ปีที่ผ่านมา (45 ถ้ำ) ได้ 83% ขึ้นอยู่กับรูปแบบของคอลเลกชันของเนสต์ ปฏิเสธผลตอบแทนในช่วงระหว่าง 40 และ 95% หมู่เกาะนิโคบาร์ มีถ้ำเดียวที่เห็นได้ชัดว่าไม่มีเปลี่ยนการสูญเสีย Swiftlet กินรังเป็นถึงคาม (เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติเงื่อนไข A1c) ในทะเลอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์ เป็นมันมีเปลี่ยนลดมากกว่า 80% จำนวน 10 ปี การจับกุมลดอัตราต่อเนื่อง การป้องกันต้องจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน Concomitantly ฟาร์มเฮาส์ของ Swiftlet กินรัง ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ต้องการจะพัฒนาเป็นวัดอนุรักษ์อดีตวิเคราะห์ในอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รังของนกนางแอ่นกินรัง (Collocalia fuciphaga) อันดับในหมู่ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่แพงที่สุดในโลกซึ่งมีผลในระดับสูงของการใช้ประโยชน์จากรังในอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์อินเดีย ประชากรของนกนางแอ่นกินรังได้รับการประเมินผ่านการนับรังและการลดลงของประชากรอยู่ที่ประมาณผ่านการเปลี่ยนแปลงในอัตราผลตอบแทนรัง ประชากรพันธุ์ต่ำสุดของซี fuciphaga ก็จะประมาณ 13,260 นกและชนิดพันธุ์ในปัจจุบัน 291 ถ้ำและทิ้ง 31 ถ้ำ ทำรังอยู่ในคอลเลกชันอันดามันและนิโคบาร์หมู่เกาะที่เกิดขึ้นใน 95% ของเว็บไซต์พันธุ์ น้อยกว่า 2% ของรังนับมีไข่หรือลูกไก่ในพวกเขา การลดลงของอัตราผลตอบแทนนางแอ่นในหมู่เกาะอันดามันระหว่างปัจจุบันและ 5-8 ปีที่ผ่านมา (195 ถ้ำ) ได้รับ 61% และระหว่างปัจจุบันและกว่า 10 ปีที่ผ่านมา (45 ถ้ำ) ได้รับ 83% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการเก็บรังผลผลิตลดลงในช่วงที่หมู่เกาะนิโคบาร์ระหว่าง 40 และ 95% มีเพียงหนึ่งในถ้ำที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีระดับการสูญเสียที่สำคัญ นกนางแอ่นกินรังจะถูกคุกคามอย่างยิ่ง (เกณฑ์ของ IUCN A1c) ในอันดามันและนิโคบาร์เกาะตามที่ได้รับการลดลงในจำนวนที่มากขึ้นกว่า 80% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะจับกุมตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาตรการป้องกันที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ร่วมกันเลี้ยงที่บ้านของรังนางแอ่นกินตามที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นในประเทศอินโดนีเซียจะต้องพัฒนาเป็นมาตรการอนุรักษ์อดีตแหล่งกำเนิดในอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รังของนกนางแอ่น รังนกที่กินได้ ( ใน fuciphaga ) อันดับในหมู่ของโลกผลิตภัณฑ์สัตว์ที่แพงที่สุด , ซึ่งมีผลในระดับสูงของการแสวงประโยชน์ของรังนกในเกาะอันดามันและนิโคบาร์ , อินเดีย ประชากรของนกรังนกที่กินได้คือการประเมินผ่านการนับรัง และการลดลงของประชากรประมาณผ่านการเปลี่ยนแปลงผลผลิตรังนกสุดพันธุ์ประชากรของ fuciphaga ประมาณจะ 13260 นก และชนิดในปัจจุบันพันธุ์ในที่ถ้ำ และทิ้ง 30 ถ้ำ รังของคอลเลกชันในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ได้ยึดสถานที่ใน 95% ของแหล่งเพาะพันธุ์ น้อยกว่า 2% ของรังนับได้ทั้งไข่หรือลูกไก่ในพวกเขา ลดลงในรังนกรังผลผลิตในหมู่เกาะอันดามัน ,ระหว่างปัจจุบันและ 5 – 8 ปี ( 195 ถ้ำ ) ได้รับ 61% และระหว่างปัจจุบันและกว่า 10 ปี ( 45 ถ้ำ ) ได้รับ 83 % ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการเก็บรังนก การลดลงของผลผลิตในที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ในช่วงระหว่าง 40 และ 95 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงหนึ่งถ้ำไม่ได้มีระดับการสูญเสียที่สำคัญการแอ่นรังนกที่กินได้เป็นวิกฤตที่คุกคาม ( เกณฑ์ IUCN A1C ) ในอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์ ในขณะที่มันได้รับการลดลงในตัวเลขที่มากกว่า 80% ในช่วง 10 ปี จับกุมอย่างต่อเนื่องลดลง มาตรการ ป้องกัน ต้องรีบใช้ เป็นทีม บ้านฟาร์มของรังนก รังนกที่กินได้ เช่น ได้รับการก่อตั้งขึ้นในอินโดนีเซียจะต้องมีการพัฒนาเป็นอดีตการอนุรักษ์วัดในอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์