2. Classification and Diagnosis ofD

2. Classification and Diagnosis of
Diabetes
Diabetes Care 2015;38(Suppl. 1):S8–S16 | DOI: 10.2337/dc15-S005
CLASSIFICATION
Diabetes can be classified into the following general categories:
1. Type 1 diabetes (due to b-cell destruction, usually leading to absolute insulin
deficiency)
2. Type 2 diabetes (due to a progressive insulin secretory defect on the background
of insulin resistance)
3. Gestational diabetes mellitus (GDM) (diabetes diagnosed in the second or third
trimester of pregnancy that is not clearly overt diabetes)
4. Specific types of diabetes due to other causes, e.g., monogenic diabetes syndromes
(such as neonatal diabetes and maturity-onset diabetes of the young [MODY]), diseases
of the exocrine pancreas (such as cystic fibrosis), and drug- or chemical-induced
diabetes (such as in the treatment of HIV/AIDS or after organ transplantation)
This section reviews most common forms of diabetes but is not comprehensive.
For additional information, see the American Diabetes Association (ADA) position
statement “Diagnosis and Classification of Diabetes Mellitus” (1).
Assigning a type of diabetes to an individual often depends on the circumstances
present at the time of diagnosis, with individuals not necessarily fitting clearly into a
single category. For example, some patients cannot be clearly classified as having
type 1 or type 2 diabetes. Clinical presentation and disease progression may vary
considerably in both types of diabetes.
The traditional paradigms of type 2 diabetes occurring only in adults and type 1
diabetes only in children are no longer accurate, as both diseases occur in both cohorts.
Occasionally, patients with type 2 diabetes may present with diabetic ketoacidosis
(DKA). Children with type 1 diabetes typically present with the hallmark symptoms
of polyuria/polydipsia and occasionally with DKA. The onset of type 1 diabetes may be
variable in adults and may not present with the classic symptoms seen in children.
However, difficulties in diagnosis may occur in children, adolescents, and adults, with
the true diagnosis becoming more obvious over time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. Classification and Diagnosis ofDiabetesDiabetes Care 2015;38(Suppl. 1):S8–S16 | DOI: 10.2337/dc15-S005CLASSIFICATIONDiabetes can be classified into the following general categories:1. Type 1 diabetes (due to b-cell destruction, usually leading to absolute insulindeficiency)2. Type 2 diabetes (due to a progressive insulin secretory defect on the backgroundof insulin resistance)3. Gestational diabetes mellitus (GDM) (diabetes diagnosed in the second or thirdtrimester of pregnancy that is not clearly overt diabetes)4. Specific types of diabetes due to other causes, e.g., monogenic diabetes syndromes(such as neonatal diabetes and maturity-onset diabetes of the young [MODY]), diseasesof the exocrine pancreas (such as cystic fibrosis), and drug- or chemical-induceddiabetes (such as in the treatment of HIV/AIDS or after organ transplantation)This section reviews most common forms of diabetes but is not comprehensive.For additional information, see the American Diabetes Association (ADA) positionstatement “Diagnosis and Classification of Diabetes Mellitus” (1).Assigning a type of diabetes to an individual often depends on the circumstancespresent at the time of diagnosis, with individuals not necessarily fitting clearly into asingle category. For example, some patients cannot be clearly classified as havingtype 1 or type 2 diabetes. Clinical presentation and disease progression may varyมากในทั้งสองประเภทของโรคเบาหวานกรอบดั้งเดิมของพิมพ์ 2 โรคเบาหวานที่เกิดเฉพาะในผู้ใหญ่ และพิมพ์ 1โรคเบาหวานในเด็กเท่านั้นจะไม่ถูกต้อง เป็นโรคทั้งสองเกิดขึ้นในทั้งสองรุ่นบางครั้ง ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจนำเสนอ ด้วยโรคเบาหวาน ketoacidosis(DKA) เด็กที่ มีโรคเบาหวานประเภท 1 ปัจจุบันมักจะ มีอาการเด่นpolyuria/polydipsia และบางครั้ง มี DKA อาจจะเริ่มมีอาการของโรคเบาหวานชนิด 1ตัวแปรในผู้ใหญ่ และอาจไม่มีการนำเสนอ ด้วยอาการคลาสสิกเห็นในเด็กอย่างไรก็ตาม ความยากลำบากในการวินิจฉัยอาจเกิดขึ้น ในเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ กับการวินิจฉัยจริงที่กลายเป็นชัดเจนมากขึ้นตลอดเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. การจำแนกประเภทและการวินิจฉัย
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานการดูแล 2015; 38 (Suppl 1.) S8-S16 | ดอย: 10.2337 / DC15-S005
จำแนกประเภท
ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถแบ่งออกเป็นประเภททั่วไปต่อไปนี้:
1 โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (เนื่องจากการทำลาย B-cell มักจะนำไปสู่การอินซูลินแน่นอน
ขาด)
2 โรคเบาหวานประเภท 2 (เนื่องจากข้อบกพร่องอินซูลินหลั่งก้าวหน้าบนพื้นหลัง
ของความต้านทานต่ออินซูลิน)
3 ขณะตั้งครรภ์โรคเบาหวาน (GDM) (โรคเบาหวานการวินิจฉัยในที่สองหรือสาม
ไตรมาสของการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง)
4 เฉพาะประเภทของโรคเบาหวานเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่นโรคเบาหวานโรค monogenic
(เช่นโรคเบาหวานโรคเบาหวานทารกแรกเกิดและวุฒิภาวะที่เริ่มมีอาการของหนุ่มสาว [MODY]) โรค
ของตับอ่อนอ่ (เช่นโรคปอดเรื้อรัง) และยาเสพติดหรือสารเคมี เหนี่ยวนำให้เกิด
โรคเบาหวาน (เช่นในการรักษาเอชไอวี / เอดส์หรือหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ)
ส่วนนี้แสดงความคิดเห็นในรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของโรคเบาหวาน แต่ไม่ครอบคลุม.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน (ADA) ตำแหน่ง
คำสั่ง "การวินิจฉัยและการจำแนกประเภทของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เบาหวาน "(1).
การกำหนดประเภทของโรคเบาหวานกับบุคคลมักจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ในปัจจุบันที่เวลาของการวินิจฉัยที่มีบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องกระชับอย่างชัดเจนเป็น
หมวดหมู่เดียว ตัวอย่างเช่นผู้ป่วยบางรายไม่สามารถจำแนกได้อย่างชัดเจนว่ามี
โรคเบาหวานประเภท 1 หรือประเภท 2 นำเสนอทางคลินิกและความก้าวหน้าของโรคอาจแตกต่างกัน
อย่างมากในทั้งสองประเภทของโรคเบาหวาน.
กระบวนทัศน์แบบดั้งเดิมของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้ใหญ่และชนิดที่ 1
โรคเบาหวานเฉพาะในเด็กจะไม่ถูกต้องเป็นทั้งโรคที่เกิดขึ้นทั้งในผองเพื่อน.
บางครั้งผู้ป่วยที่มีประเภท 2 โรคเบาหวานอาจมีโรคเบาหวาน ketoacidosis
(DKA) เด็กที่มีโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มักจะอยู่กับอาการจุดเด่น
ของ polyuria / polydipsia และเป็นครั้งคราวด้วย DKA เริ่มมีอาการของโรคเบาหวานชนิดที่ 1 อาจจะเป็น
ตัวแปรในผู้ใหญ่และอาจไม่อยู่กับอาการคลาสสิกที่เห็นในเด็ก.
แต่ความยากลำบากในการวินิจฉัยอาจเกิดขึ้นในเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มี
การวินิจฉัยจริงกลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป