However, whether or not to join a p

However, whether or not to join a potential free trade area (FTA) such as ASEAN+3
or ASEAN+6 is generally not a decision that the Lao government can make
independently. For example, it becomes a matter of necessity if all other members of
ASEAN+6 agree to form a regional trading bloc. At the same time, a significant increase
in exports cannot easily be achieved given the current state of the Lao economy. Such
gains will require a national-government-formulated plan for industrialization to
diversify and boost the production of exports. The elimination of tariff barriers could
lead to a greater number of Laotians successfully participating in the market economy,
thereby reducing poverty. Such is the theory, but has it worked in Laos?
The primary objective of this paper is to evaluate the potential gains in Laos’ trade
with the formation of ASEAN+3 and ASEAN+6 trading blocs. First, we utilize panel
data on bilateral export flows to empirically analyze the international trade determinants
for ASEAN+6 member countries. More precisely, the study focuses on how relative
factor endowment differences, combined bilateral gross domestic product (GDP),
similarity in GDP, transportation costs, and tariff rates determine bilateral trade in the
regional trading blocs of ASEAN+3 and ASEAN+6. The study then conducts
counterfactual simulations to see whether trade flows between Laos and its trading
partners could further be enhanced through tariff reduction or elimination.
The gravity model, as pioneered by Tinbergen (1962), is a useful tool to investigate
regional trade integration. The existing literature on ASEAN trade applying the gravity
model finds that (i) the ASEAN Free Trade Area (AFTA) has generated trade flows
among its members (Kien, 2009), (ii) AFTA might be causing some trade diversion and
shifting trade from countries outside the trade bloc to potentially less efficient countries
inside the trade bloc (Hapsari and Mangunsung, 2006), (iii) Asian economic crises
generate a stronger tendency to source imports from within the region (Elliott and
Ikemoto, 2004), (iv) most East Asian regional trade agreements (RTAs) create more
intra-bloc trade but do not divert extra-bloc trade (Lee and Park, 2005; Lee and Shin,
2006), (v) reducing applied tariffs to the regional average would raise intra-regional
trade by about 2% (Shepherd and Wilson, 2009), and (vi) establishing an ASEAN+6
FTA would increase intra-regional trade by about 39% (Suvannaphakdy et al., 2011).
Most of the existing studies on ASEAN trade ignore dynamics. Eichengreen and
Irwin (1996) argue that past trade patterns influence current trade flows because of the

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ที่จะเข้าร่วมเขตการค้าเสรีที่มีศักยภาพ (FTA) เช่นอาเซียน +3
หรืออาเซียน + 6 โดยทั่วไปไม่ตัดสินใจว่ารัฐบาลลาวสามารถทำให้
เป็นอิสระ ยกตัวอย่างเช่นมันจะกลายเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นถ้าสมาชิกทุกคนอื่น ๆ ของ
อาเซียน + 6 เห็นด้วยที่จะสร้างกลุ่มการค้าในภูมิภาค ในเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในการส่งออกไม่สามารถประสบความสำเร็จได้รับการกำหนดสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจลาว ดังกล่าว
จะต้องมีกำไรแห่งชาติที่รัฐบาลกำหนดแผนการสำหรับอุตสาหกรรมที่จะ
กระจายการลงทุนและเพิ่มการผลิตของการส่งออก การกำจัดของปัญหาและอุปสรรคที่อัตราค่าไฟฟ้าที่สามารถ
นำไปสู่การเป็นจำนวนมากของลาวประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจตลาดที่
จะช่วยลดความยากจน ดังกล่าวเป็นทฤษฎี แต่มีการทำงานในประเทศลาว?
วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการประเมินกำไรที่มีศักยภาพในการค้าของลาว
ที่มีการก่อตัวของอาเซียน +3 และอาเซียน + 6 กีดกันการค้า ครั้งแรกที่เราใช้แผง
ข้อมูลเกี่ยวกับกระแสการส่งออกในระดับทวิภาคีที่จะสังเกตุวิเคราะห์ปัจจัยการค้าระหว่างประเทศ
อาเซียน + 6 ประเทศสมาชิก อีกอย่างแม่นยำการศึกษามุ่งเน้นไปที่วิธีการที่ญาติ
ปัจจัยที่แตกต่างกันบริจาครวมผลิตภัณฑ์ในประเทศทวิภาคีมวลรวม (GDP)
ความคล้ายคลึงกันใน GDP ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและการกำหนดอัตราภาษีการค้าทวิภาคีในการ
กีดกันการค้าระดับภูมิภาคของอาเซียน +3 และอาเซียน + 6 แล้วดำเนินการศึกษา
แบบจำลอง counterfactual เพื่อดูว่ากระแสการค้าระหว่างประเทศลาวและการค้าของ
คู่ค้าต่อไปอาจจะเพิ่มขึ้นผ่านการลดภาษีศุลกากรหรือการกำจัด.
รุ่นแรงโน้มถ่วงเป็นหัวหอกเบอร์เกน (1962) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการตรวจสอบ
การรวมกลุ่มการค้าในภูมิภาค วรรณกรรมที่มีอยู่เกี่ยวกับการค้าอาเซียนใช้แรงโน้มถ่วง
แบบจำลองพบว่า (i) อาเซียนเขตการค้าเสรี (AFTA) ได้สร้างกระแสการค้า
ในหมู่สมาชิก (Kien 2009), (ii) AFTA ที่อาจทำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้าและ
การค้าขยับจาก ประเทศนอกกลุ่มการค้าไปยังประเทศที่อาจมีประสิทธิภาพน้อยลง
ภายในกลุ่มการค้า (Hapsari และ Mangunsung 2006), (iii) วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในเอเชีย
สร้างแนวโน้มที่แข็งแกร่งเพื่อการนำเข้าจากแหล่งที่มาในภูมิภาค (เอลเลียตและ
Ikemoto, 2004), (iv) มากที่สุดในเอเชียตะวันออกข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาค (RTAs) สร้างมากขึ้น
การค้าภายในกลุ่ม แต่ไม่ได้เบี่ยงเบนความสนใจการค้าพิเศษกลุ่ม (ลีและสวน 2005 ลีและชิน,
2006), (v) มีการลดอัตราภาษีที่นำไปใช้กับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคจะยกภายใน -regional
ค้าโดยประมาณ 2% (เชพเพิร์และวิลสัน, 2009) และ (vi) การจัดตั้งอาเซียน + 6
เขตการค้าเสรีจะเพิ่มการค้าภายในภูมิภาคประมาณ 39% (Suvannaphakdy et al., 2011).
ส่วนใหญ่ของการศึกษาที่มีอยู่ใน การค้าอาเซียนไม่สนใจการเปลี่ยนแปลง Eichengreen และ
เออร์วิน (1996) ยืนยันว่ารูปแบบการค้าที่ผ่านมามีอิทธิพลต่อกระแสการค้าในปัจจุบันเพราะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม หรือไม่เข้าร่วมเขตการค้าเสรี ( เอฟทีเอ ) ศักยภาพ เช่น อาเซียน หรือ อาเซียน 3
6 ทั่วไปไม่ได้มีการตัดสินใจที่รัฐบาลลาวได้ให้
อิสระ ตัวอย่างเช่น มันกลายเป็นเรื่องจำเป็น หากสมาชิกอื่น ๆของอาเซียน 6
เห็นด้วยในรูปแบบภูมิภาค กลุ่มการค้า ในเวลาเดียวกัน , การเพิ่ม
อย่างมีนัยสำคัญในการส่งออกไม่สามารถจะบรรลุได้รับสถานะปัจจุบันของลาวอีกด้วย เช่น
ไรจะต้องมีรัฐบาลแห่งชาติยุทธศาสตร์แผนสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม

กระจายและเพิ่มการผลิตของการส่งออก การขจัดอุปสรรคภาษีศุลกากรได้
นำไปสู่จำนวนมากของชาวลาวได้เข้าร่วมในตลาดเศรษฐกิจ
เพื่อลดความยากจน นั่นคือทฤษฎีแต่มันทำงานในลาว ?
วัตถุประสงค์หลักของบทความนี้คือเพื่อประเมินศักยภาพในการค้ากำไรของลาว
กับการก่อตัวของอาเซียน 3 และอาเซียน 6 การซื้อขายกีดกัน . ตอนแรกเราใช้แผง
ข้อมูลส่งออกทวิภาคี ( จากผลวิเคราะห์การค้าระหว่างประเทศ ปัจจัย
6 ประเทศสมาชิกอาเซียน มากขึ้นแน่นอน โดยเน้นศึกษาว่าญาติ
ปัจจัยบริจาคความแตกต่างรวมทวิภาคีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( GDP )
ความเหมือนใน GDP , ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและราคาศุลกากรตรวจสอบการค้าทวิภาคีในภูมิภาคกีดกันการค้าของอาเซียน
3 และอาเซียน 6 การศึกษาเรียน
จำลอง counterfactual เพื่อดูว่า กระแสการค้าระหว่างลาวและประเทศคู่ค้า
ต่อไปอาจจะเพิ่มผ่านการลดภาษีหรือตัดออก .
แรงโน้มถ่วงรุ่นเป็นหัวหอก ทินเบอร์เกน ( 1962 ) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เพื่อตรวจสอบ
บูรณาการการค้าในภูมิภาค ที่มีอยู่ในวรรณคดีการค้าอาเซียนใช้แรงโน้มถ่วง
รูปแบบพบว่า ( 1 ) เขตการค้าเสรีอาเซียน ( AFTA ) ได้สร้างกระแสการค้า
ในหมู่สมาชิก ( เกียน , 2009 ) , ( ii ) ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้าและ
บางเปลี่ยนการค้าจากประเทศนอกกลุ่มการค้ากับประเทศที่มีประสิทธิภาพอาจน้อยลง
ภายในกลุ่มการค้า ( hapsari และ mangunsung , 2006 ) , ( 3 ) วิกฤตเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มแข็งแกร่ง
สร้างการนำเข้าจากแหล่งภายในภูมิภาค ( Elliott และ
ikemoto , 2004 ) , ( 4 ) ข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออก ( rtas ที่สุด
) สร้างเพิ่มเติมการค้าภายในกลุ่ม แต่ไม่ได้โอนการค้า บล็อคเสริม ( ลี และสวนสาธารณะ , 2005 ; ลี และชิน
2006 ) ( 5 ) การลดภาษีศุลกากรที่ใช้ค่าเฉลี่ยของภูมิภาคจะเพิ่มการค้าภายในภูมิภาค
ประมาณ 2% ( แกะ วิลสัน , 2009 ) , และ ( 6 ) การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน 6
จะ เพิ่มการค้าภายในภูมิภาค โดยประมาณ 39 % ( suvannaphakdy et al . , 2011 ) .
ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ของการศึกษาในอาเซียนการค้าละเว้นพลศาสตร์Eichengreen และ
เออร์วิน ( 1996 ) ยืนยันว่ารูปแบบการค้าในอดีตอิทธิพลกระแสการค้าปัจจุบันเพราะ