The Petrarchan sonnet was not devel

The Petrarchan sonnet was not developed by Petrarch himself, but rather by a string of Renaissance poets. [ 1 ] Because of the structure of Italian, the rhyme scheme of the Petrarchan sonnet is more easily fulfilled in that language than in English. The original Italian sonnet form divides the poem's 14 lines into two parts, the first part being an octet and the second being a sestet.
The octave and sestet have special functions in a Petrarchan sonnet. The octave's purpose is to introduce a problem, express a desire, reflect on reality, or otherwise present a situation that causes doubt or a conflict within the speaker's soul and inside an animal and object in the story. It usually does this by introducing the problem within its first quatrain (unified four-line section) and developing it in the second. The beginning of the sestet is known as the volta , and it introduces a pronounced change in tone in the sonnet; the change in rhyme scheme marks the turn. The sestet's purpose as a whole is to make a comment on the problem or to apply a solution to it. The pair are separate but usually used to reinforce a unified argument - they are often compared to two strands of thought organically converging into one argument, rather than a mechanical deduction. Moreover, Petrarch's own sonnets almost never had a rhyming couplet at the end as this would suggest logical deduction instead of the intended rational correlation of the form.
The sonnet is split in two groups: the "octave" (of 8 lines) and the "sestet" (of 6 lines), for a total of 14 lines.

The octave (the first 8 lines) typically introduces the theme or problem using a rhyme scheme of abba abba. The sestet (the last 6 lines) provides resolution for the poem and rhymes variously, but usually follows the schemes of cdecde or cdccdc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ณ Petrarchan ถูกพัฒนาขึ้น โดยเปตรากตัวเอง แต่ โดยสายของกวีที่เรเนซองส์ [1] ได้ง่ายตอบสนองร่างสัมผัสของณ Petrarchan เนื่องจากอยู่ของโครงสร้างของอิตาลี ในภาษาที่เป็นภาษาอังกฤษ รูปณอิตาลีแบ่งของบทกวี 14 บรรทัดสองส่วน ส่วนแรกการออกเตตและที่สองอยู่ sestetอ็อกเทฟและ sestet มีฟังก์ชันพิเศษในณ Petrarchan วัตถุประสงค์ของอ็อกเทฟคือการ แนะนำปัญหา แสดงความปรารถนา สะท้อนในความเป็นจริง หรือมิฉะนั้นจะ แสดงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยหรือความขัดแย้งภาย ในจิตใจของผู้บรรยาย และภาย ในตัวสัตว์และวัตถุในเรื่อง มันมักจะทำ โดยการแนะนำปัญหาภายใน quatrain แรก (รวม 4 สายส่วน) และการพัฒนาในสอง จุดเริ่มต้นของ sestet ที่เรียกว่าสาบวอลตาใน และจะแนะนำการเปลี่ยนแปลงเสียงในณ ออกเสียง การเปลี่ยนแปลงในโครงร่างสัมผัสเครื่องเปิด วัตถุประสงค์ของ sestet ทั้งหมดได้ให้ข้อคิดเห็นในปัญหา หรือ การใช้โซลูชัน คู่แยกจากกัน แต่มักจะใช้อาร์กิวเมนต์รวมหนุน - พวกเขามักจะเปรียบเทียบกับสอง strands ของคิด organically บรรจบเป็นอาร์กิวเมนต์หนึ่ง แทนที่หักกล นอกจากนี้ โคลงเปตรากของตัวเองเกือบไม่ได้ rhyming couplet จบเท่านี้แนะนำตรรกะหักแทนความสัมพันธ์เหตุผลวัตถุประสงค์ของแบบฟอร์มณถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม: การ "sestet" (ของ 6 บรรทัด), จำนวนบรรทัดที่ 14 และ "อ็อกเทฟ" (จากบรรทัดที่ 8)อ็อกเทฟ (บรรทัดแรก 8) โดยทั่วไปแนะนำชุดรูปแบบหรือปัญหาการใช้ฉันทลักษณ์ของแอ็บบ้าแอ็บบ้า Sestet (บรรทัดสุดท้าย 6) ให้ความละเอียดสำหรับกลอน และตาไรมส์เพิ่ม ได้ปกติตามรูปแบบของ cdecde หรือ cdccdc

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โคลง Petrarchan ไม่ได้รับการพัฒนาโดยเพทราร์กตัวเอง แต่ด้วยสตริงของกวียุคฟื้นฟูศิลปวิทยา [1] เพราะโครงสร้างของอิตาลี, สัมผัสโครงการของ Petrarchan โคลงเป็นจริงได้ง่ายขึ้นในภาษาที่กว่าในภาษาอังกฤษ อิตาลีรูปแบบเดิมแบ่งโคลงบทกวี 14 สายออกเป็นสองส่วนส่วนแรกเป็นออคเต็ตและครั้งที่สองเป็นคณะหกคนได้.
คู่และคณะหกคนมีฟังก์ชั่นพิเศษในโคลง Petrarchan วัตถุประสงค์ของคู่คือการแนะนำปัญหาแสดงความปรารถนาที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงหรือนำเสนอสถานการณ์ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยหรือความขัดแย้งภายในจิตใจของผู้พูดและภายในสัตว์และวัตถุในเรื่อง มันมักจะเป็นเช่นนี้โดยการแนะนำปัญหาภายในบรรทัดแรกของ (แบบครบวงจรส่วนสี่ line) และการพัฒนาในครั้งที่สอง จุดเริ่มต้นของคณะหกคนที่เป็นที่รู้จักกัน Volta และจะแนะนำการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดในน้ำเสียงในโคลง; การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการสัมผัสเครื่องหมายเปิด วัตถุประสงค์ของคณะหกคนโดยรวมคือเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือจะใช้วิธีการแก้มัน ทั้งคู่จะแยกจากกัน แต่มักจะใช้ในการเสริมสร้างการโต้เถียงแบบครบวงจร - พวกเขาจะเทียบมักสองเส้นของความคิดอินทรีย์บรรจบเป็นหนึ่งอาร์กิวเมนต์มากกว่าการหักกล นอกจากนี้ยังมีบทกวีเพทราร์กของตัวเองแทบจะไม่เคยมีคู่บทกวีที่สิ้นสุดเช่นนี้จะขอแนะนำให้หักตรรกะแทนของความสัมพันธ์ที่มีเหตุผลตั้งใจของรูปแบบ.
โคลงถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ "คู่" (8 คู่สาย) และ " คณะหกคน "(จาก 6 สาย) รวมเป็น 14 สาย. คู่ (ครั้งแรก 8 สาย) มักจะแนะนำรูปแบบหรือปัญหาในการใช้รูปแบบการสัมผัสของ Abba Abba คณะหกคน (ล่าสุด 6 สาย) ให้ความละเอียดของบทกวีและบ๊องนานัปการ แต่มักจะเป็นไปตามรูปแบบของ cdecde หรือ cdccdc

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การ petrarchan โคลงไม่ได้ถูกพัฒนาโดยแนวฉากตัวเอง แต่โดยสตริงของกวียุค . [ 1 ] เนื่องจากโครงสร้างของอิตาลี , แผนสัมผัสของ petrarchan โคลงมากขึ้น ตอบสนองได้อย่างง่ายดายในภาษาที่มากกว่าภาษาอังกฤษ แบบฟอร์มต้นฉบับโคลง 14 บรรทัดอิตาลีแบ่งบทกวีออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นคเทต และส่วนที่สอง เป็นกลุ่มที่มีหกคน
.และ กลุ่มที่มีหกคนได้ออกเทปฟังก์ชันพิเศษใน petrarchan โคลง . วัตถุประสงค์ของร็อคแมนคือแนะนำปัญหา แสดงความปรารถนา สะท้อนความเป็นจริง หรือสร้างสถานการณ์ให้เกิดข้อสงสัยหรือขัดแย้งภายในของผู้พูดและจิตวิญญาณในตัวสัตว์และวัตถุในเรื่องปกติมันไม่นี้โดยการแนะนำปัญหาภายในเหลอหลาก่อน ( รวมส่วนสี่บรรทัด ) และการพัฒนาใน 2 จุดเริ่มต้นของกลุ่มที่มีหกคนเป็นที่รู้จักกันเป็น โวลต้า และแนะนำออกเสียงเปลี่ยนโทนในโคลง ; การเปลี่ยนแปลงในแผนสัมผัสรอยโค้ง ของกลุ่มที่มีหกคน วัตถุประสงค์โดยรวมคือให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา หรือ ใช้แก้ปัญหาได้คู่ที่แยกต่างหาก แต่มักจะใช้เพื่อเสริมสร้างเอกภาพอาร์กิวเมนต์ -- พวกเขามักจะเปรียบเทียบกับสองเส้นมาบรรจบกันเป็นอาร์กิวเมนต์หนึ่งคิดว่าอินทรีย์ แทนที่จะหักกล นอกจากนี้ sonnets เองแนวฉากคือแทบจะไม่เคยสัมผัสโคลงที่สิ้นสุดนี้จะแนะนำการหักตรรกะ แทนที่จะตั้งใจเชือด ความสัมพันธ์ของ
แบบฟอร์มเขียนโคลงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม : " ใหม่ " ( 8 เส้น ) และ " กลุ่มที่มีหกคน " ( 6 สาย ) รวมเป็น 14 สาย

ออกเทป ( 8 บรรทัดแรก ) โดยทั่วไปแนะนำธีมหรือปัญหาในการใช้แผนสัมผัสของ Abba Abba . ส่วนกลุ่มที่มีหกคน ( 6 สาย ) มีความละเอียดสำหรับบทกวีและบทกลอนหลากหลาย แต่ปกติตามโครงร่างของ cdecde หรือ cdccdc .