with or without refining, and provi

with or without refining, and provided the most fundamental information. They reported that a molar ratio of alcohol to oil of 6:1 gave optimum conversion to the ester, 1% sodium hydroxide was an effective catalyst, and ester conversions of 96%–98% were obtained by transesterifying refined oils with methanol at 60 °C. Following that, more research that focused on parameter effects and transesterification reaction optimization has been conducted. It is generally believed that temperature and catalyst concentration are the most important factors impacting the reaction, while reaction time and molar ratio of methanol/feedstock oil are less important. Recently, statistical optimization methods such as factorial design and response surface methodology (RSM) have also been employed to optimize transesterification conditions and study the interaction effects among the reaction variables.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มี หรือไม่ มี กลั่น และให้ข้อมูลพื้นฐานที่สุด เขารายงานว่า อัตราส่วนแอลกอฮอล์น้ำมัน 6:1 โมเลกุลให้เอสการแปลงที่เหมาะสม 1% โซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยามีประสิทธิภาพ และเอสเตอร์แปลงของ 96 – 98% ได้รับ โดย transesterifying กลั่นน้ำมันกับเมทานอลที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ที่ เพิ่มเติมงานวิจัยที่มุ่งเน้นผลพารามิเตอร์ และมีการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพของปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปเชื่อว่า ความเข้มข้นอุณหภูมิและตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปฏิกิริยา ขณะเวลาปฏิกิริยาและอัตราส่วนโมเลกุลของเมทานอล/วัตถุดิบน้ำมันสำคัญ เมื่อเร็ว ๆ นี้ วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพทางสถิติเช่นแฟกทอเรียลออกแบบตอบสนองพื้นผิววิธี (RSM) มียังรับจ้างปรับเพิ่มเงื่อนไขให้เหมาะสม และศึกษาผลปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตอบสนอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีหรือไม่มีการกลั่นและให้ข้อมูลที่เป็นพื้นฐานที่สุด พวกเขารายงานว่าอัตราส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้ำมันของ 6: 1 ให้การแปลงที่ดีที่สุดเพื่อเอสเตอร์, 1% โซเดียมไฮดรอกไซเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพและการแปลงเอสเตอร์ 96% -98% ที่ได้จากการกลั่นน้ำมัน transesterifying กับเมทานอลที่ 60 ° ซี ต่อไปนี้ที่การวิจัยอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบพารามิเตอร์และการเพิ่มประสิทธิภาพ transesterification ปฏิกิริยาได้รับการดำเนินการ เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปอุณหภูมิและตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความเข้มข้นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดปฏิกิริยาในขณะที่เวลาปฏิกิริยาและอัตราส่วนของน้ำมันเมทานอล / วัตถุดิบที่มีความสำคัญน้อย เมื่อเร็ว ๆ นี้วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพทางสถิติเช่นการออกแบบปัจจัยและวิธีการพื้นผิวตอบสนอง (RSM) นอกจากนี้ยังได้รับการว่าจ้างในการเพิ่มประสิทธิภาพเงื่อนไข transesterification และการศึกษาผลกระทบต่อการทำงานร่วมกันระหว่างตัวแปรปฏิกิริยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มี หรือ ไม่มีการปรับ และให้ข้อมูลพื้นฐานที่สุด เขารายงานว่า อัตราส่วนโดยโมลระหว่างแอลกอฮอล์กับน้ำมัน ของแปลงที่ 6 ให้เอสเทอร์ 1 % โซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพและการแปลงเอสเทอร์ของ 96 – 98% ได้ โดย transesterifying การกลั่นน้ำมันกับเมทานอลที่ 60 องศา ตามการวิจัยที่มุ่งเน้นมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นพารามิเตอร์ผลปฏิกิริยาได้ 3 . เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่า อุณหภูมิ และความเข้มข้นของตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีผลกระทบต่อปฏิกิริยา ในขณะที่เวลาปฏิกิริยาและอัตราส่วนโดยโมลของเมทานอลวัตถุดิบน้ำมันมีความสำคัญน้อยกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การออกแบบการทดลองทางสถิติ และวิธีการพื้นผิวตอบสนอง ( RSM ) นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อปรับสภาพกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น และศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างปฏิกิริยาตัวแปร